แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) เมื่อวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา นายพอล จำรูญ หรือที่รู้จักในชื่อไทยว่านาย วีรพล พัฒนกิจจำรูญ อดีตเจ้าของร้านอาหารไทยสองร้านในสหรัฐอเมริกา ได้สารภาพผิดกับข้อกล่าวหา Forced Labor ของกฎหมายแรงงาน โดยกดขี่แรงงานและค่าจ้างกับลูกจ้างชาวไทย 4 ราย นอกเหนือจากนั้นยังมีโทษฉ้อโกงวีซ่าผิดประเภทและโกงภาษี ตามข้อมูลของกระทรวงยุติธรรม
ในระหว่างปีค.ศ. 2011 - 2014 นายพอล จำรูญได้ขอวีซ่าประเภท E-2 ให้กับคนไทยจำนวน 4 คนเพื่อเดินทางมายังประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อจุดประสงค์ในการทำงานให้กับร้านอาหารของเขาทั้งสองร้านคือร้าน Curry in a Hurry ในเมือง Oswego รัฐออริกอน และร้าน Teriyaki Thai ในเมือง Ridgefield รัฐวอชิงตัน โดยนายจำรูญไม่ได้เป็นเจ้าของร้านอาหารสองร้านดังกล่าวแล้ว โดยวีซ่า E-2 คือวีซ่าที่ให้กับนักลงทุนเงินในธุรกิจในสหรัฐอเมริกาหรือลูกจ้างที่มีความสามารถตรงกับคุณสัมบัติพิเศษตามที่ธุรกิจต่างๆ กำหนดไว้
นายพอล จำรูญ อายุ 54 ปี พลเมืองของอเมริกันที่อาศัยอยู่ที่ Depoe Bay บังคับให้ลูกจ้าง 4 รายดังกล่าวทำงาน 12 ชั่วโมงต่อวัน 6-7 วันต่อสัปดาห์และจ่ายค่าแรงต่ำกว่าเกณฑ์ที่ควรจะได้รับ ซึ่งไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับลูกจ้าง ตามข้อตกลงในคำรับสารภาพของนายพอล จำรูญระบุว่าเขาผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับ 4 ลูกจ้างไทยว่าจะพามาทำงาน จากนั้นข่มขู่ว่าจะส่งตัวกลับหากไม่ปฎิบัติตาม
สุดท้ายศาลสั่งให้นายพอล จำรูญ จ่ายเงินชดใช้ค่าแรงที่ใช้แรงงาน 4 คนไทยเกินเวลาจำนวน 131,391 ดอลลาร์ และต้องจ่ายภาษีคืนให้กับ IRS (ปี ค.ศ.2012-2013) จำนวน 120,384 ดอลลาร์เนื่องจากปกปิดรายได้จากเงินสดระหว่างปี 2012 - 2015 โดยคดีทั้งหมดนี้เป็นคดีที่สอบสวนร่วมกันระหว่าง FBI , IRS , ตำรวจเมือง Portland และกระทรวงแรงงาน
โดยท้ายที่สุดในวันที่ 24 พฤษภาคม 2018 ที่จะถึงนี้นายพอล จำรูญอาจจะต้องโทษจำคุกสูงสุด 20 ปีในข้อหาบังคับข่มขู่และบังคับใช้แรงงาน 5 ปีข้อหาฉ้อโกงการทำวีซ่าผิดประเภท และ 3 ปีในข้อหาการฉ้อโกงภาษี