สำนักงานสาธารณสุขของรัฐแคลิฟอร์เนีย แถลงเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2018 ว่าในสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ มียอดผู้เสียชีวิตเพราะอาการเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่ (Flu-related illnesses) มากถึง 36 คน มากกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านั้นถึงหกคน ถือเป็นสัปดาห์ที่มีผู้เสียชีวิตเพราะอาการเกี่ยวกับไข้หวัดมากที่สุดในฤดูกาลนี้ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตนับจนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2018 อยู่ที่ 163 คน
ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าตัวเลขที่แท้จริงค่อนข้างมาก เพราะหน่วยงานสาธารณสุขระดับรัฐ ไม่เก็บตัวเลขผู้เสียชีวิตที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตในเขตลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ ซึ่งนับรวมผู้เสียชีวิตทุกวัยนั้น อยู่ที่ 164 คน
อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ป่วยใหม่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขของรัฐฯ บอกว่าเป็นผลมาจากการรณรงค์ให้ประชาชนรับการฉีดวัคซีน และระมัดระวังตัวไม่ให้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ และว่าการรณรงค์จะต้องมีต่อไป เพราะปีนี้มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่รุนแรงกว่าปีที่ผ่านๆ มา อีกทั้งฤดูที่ไข้หวัดใหญ่ระบาดยังมีอีกหลายเดือน
“ยังเร็วเกินไปที่เราจะสรุปว่าการระบาดของไข้หวัดใหญ่ถึงจุดสูงสุด (peaked) แล้ว เพราะอาการเจ็บป่วยและไวรัสหลายสายพันธุ์ยังคงหมุนเวียนอยู่ในชุมชน” ประชาสัมพันธ์ของสำนักงานสาธารณสุขรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุ และว่าในช่วงปลายฤดูนั้น ไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดหนักจะเปลี่ยนจากชนิดเอ เป็นบี และตัวเลขผู้ป่วยจะสูงขึ้นอีกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหายไป
สำนักงานสาธารณสุขของรัฐย้ำว่า ยังไม่สายเกินไปสำหรับการเข้ารับการฉีดวัคซีน
“การเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ จะยังคงมีต่อไป นับถึงวันนี้เรามีตัวเลขผู้เสียชีวิต 164 คน เปรียบเทียบกับปีที่แล้วทั้งปี ที่มีเพียง 80 คนเท่านั้น โดยอายุเฉลี่ยของผู้เสียชีวิตเพราะไข้หวัดใหญ่ปีนี้คือ 81 ปี เห็นได้ว่าโรคนี้จะร้ายแรงมากสำหรับผู้สูงอายุ หากผู้สูงอายุมีอาการของไข้หวัดใหญ่ จะต้องติดต่อแพทย์ทันที แม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม”
เกี่ยวกับการระบาดรุนแรงของไข้หวัดใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนียที่กำลังเป็นอยู่ขณะนี้นั้น ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกล่างแถลงว่า เป็นการระบาดที่รุนแรงเทียบเท่าหรือยิ่งกว่าการระบาดในปี 2009 และว่าเป็นผลมาจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ H3N2 ที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในผู้ป่วยวัยทารกและผู้สูงอายุจำนวนมาก
ข่าวบอกว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ ได้ทำการเก็บตัวอย่างเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มาทำการศึกษาเพื่อพัฒนาวัคซีนที่ได้ผลดีขึ้นทุกปี และวัคซีนของปีนี้ สามารถป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดหวัดอย่างได้ผลถึงสามสายพันธุ์ ยกเว้น H3N2 ที่มีการกลายพันธุ์ (mutate) ค่อนข้างเร็ว จึงกลายเป็นเรื่องท้าทายของวงการแพทย์ในปัจจุบันนี้
อาหารของโรคไข้หวัดใหญ่ คือมีไข้ ตัวร้อน ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล คัดจมูก หนาวสั่น โดยผู้ป่วยส่วนมากสามารถดูแลรักษาตัวเองได้ที่บ้าน ยกเว้นในบางรายที่ไข้หวัดใหญ่อาจก่อให้เกิดปัญหาอื่นตามมา เช่นปอดบวม ชัก และทำให้โรคประจำตัวอื่นๆ มีความรุนแรงขึ้น เช่นเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคปอด เป็นต้น.