“แอปเปิล” บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ผู้ผลิต “ไอโฟน” ประกาศเมื่อ 17 ม.ค.ว่าจะจ่ายเงินงวดเดียวราว 38,000 ล้านดอลลาร์ ให้รัฐบาล เป็นค่าภาษีจากเงินสดที่เก็บไว้ในต่างประเทศราว 250,000 ล้านดอลลาร์ นับเป็นการจ่ายภาษีมากที่สุดของบริษัทใดๆ หลังรัฐสภาผ่านกฎหมายปฏิรูปภาษีตามนโยบายประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงจาก 35% เหลือ 21% ทำให้บริษัทใหญ่ๆได้ประโยชน์
แอปเปิลยังมีแผนสร้างแคมปัส หรือสาขาใหม่ และจะสร้างงานเพิ่ม 20,000 ตำแหน่ง สร้างศูนย์ข้อมูลเพิ่มมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนลงทุน 30,000 ล้านดอลลาร์ใน 5 ปี ซึ่งแอปเปิลระบุว่า แผนนี้จะช่วยเศรษฐกิจสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 350,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 5 ปี โดยนายทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล แถลงว่า แอปเปิลเน้นการลงทุนในภาคที่สร้างงานโดยตรง แต่ไม่เผยว่าจะนำเงินที่เก็บไว้ในต่างประเทศกับสหรัฐฯเท่าใด สำนักข่าวบลูมเบิร์กยังเผยด้วยว่าแอปเปิลจ่ายโบนัสในรูปหุ้นให้พนักงานถึงคนละ 2,500 ดอลลาร์ด้วย.