ที่ผ่านมา จึงมีนักท่องเที่ยว (และญาติของนักท่องเที่ยว) ขับรถขึ้นไปยังจุดชมวิวที่ดีที่สุดกันวันละเป็นหมื่นๆ คน ไม่รวมทัวร์บัสคันใหญ่ๆ ที่พาลูกทัวร์ขึ้นๆ ลงๆ วันละหลายๆ เที่ยว โดยใช้ถนนเส้นเล็กๆ ที่มีอยู่เพียงเส้นเดียว คือ Beachwood Drive เป็นทางสัญจร
ซึ่งนั่นทำให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่สองฝั่งถนน รวมถึงธุรกิจคอกม้าขนาดใหญ่ (Beachwood Drive Ranch) ได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส ทั้งจากปัญหารถติด และปัญหาไม่มีที่จอดรถ จึงได้ผนึกกำลังเงินกันจ้างทนายความ ทำเรื่องฟ้องศาลให้มีการปิดถนนเส้นนี้ ไม่ให้ “คนนอก” ใช้สัญจร ซึ่งศาลก็เห็นด้วย และมีคำสั่งลงมายังเทศบาลเมืองแอลเอ ให้ทำการปิดประตู Beachwood Drive gate ซึ่งเป็นทางเดิน หรือ trail ที่ทอดขึ้นไปยังจุดชมป้ายฮอลลีวูดได้ใกล้ชิดที่สุด เป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปีก่อน
ถือเป็นการ “จำใจ” ปิดตามคำสั่งศาล เพราะเทศบาลเมืองแอลเอ ทราบดีว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ล้วนมีแผนที่จะถ่ายภาพกับป้ายฮอลลีวูดเป็นที่ระลึกทั้งสิ้น ไอ้จะใช้เส้นทางอื่นก็ไกล และไม่ใช่จุดชมวิวที่ใกล้ชิด ได้มุมตรงแบบจุดนี้เสียด้วย...
ที่ผ่านมา เทศบาลเมืองแอลเอ ได้พยายามหาทางออกที่สวยงามให้กับปัญหานี้ โดยได้ว่างจ้างบริษัทที่ปรึกษา ชื่อ Dixon Resources Unlimited ทำให้ศึกษาข้อมูล และหาทางออก ซึ่งบริษัทแห่งนี้ได้ใช้เวลาทำงานอยู่หลายเดือน ในการจัดประชุมระหว่างประชาชนสองฝั่งถนนบีชวูด ธุรกิจ ผู้นำชุมชน ตัวแทนจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงการสำรวจความเห็นของนักท่องเที่ยว นักไฮกิ้ง นักปั่นจักรยาน ฯลฯ ระหว่างเส้นทางไปยังป้ายฮอลลีวูด ฯลฯ ก่อนจะสรุปและเสนอทางออก (29 ข้อ) ให้เทศบาลและประชาชนช่วยกันพิจารณาเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข้อเสนอที่ว่านี้ มีตั้งแต่เรื่องใหญ่ๆ อย่างสร้างรถรางไฟฟ้า (electric Shuttle) พานักท่องเที่ยวจากลานจอดรถของเมโทร เรดไลน์ ผ่านบีชวูด ไดร์ฟ เกท ขึ้นไปยังจุดชมวิวบริเวณที่เรียกว่า Hollyridge Trail โดยไม่ต้องขับรถขึ้นไปเอง
หรือสร้างกระเช้าลอยฟ้า (aerial tram) พานักท่องเที่ยวลอยละล่องเหนือยอดไม้ จากบริเวณทางเหนือของกริฟฟิธ ปาร์ค มายังจุดชมวิว Hollyridge Trail โดยไอเดียเรื่องกระเช้าลอยฟ้าที่ว่านี้ ถูกชูขึ้นมาครั้งแรกโดยนายกเทศมนตรี อีริค การ์เซ็ตติ เมื่อปีก่อน
แต่ที่ดูเหมือนว่าจะเรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุดก็คือ ข้อเสนอเรื่องการสร้างป้ายฮอลลีวูด ป้ายที่สอง เพื่อแบ่งเบา “ทราฟฟิก” จากป้ายเดิม โดยข้อเสนอของบริษัท ดิ๊กสัน บอกว่าให้ติดตั้งป้ายใหม่ ที่มีขนาด รูปทรง เหมือนของเดิมแบบไม่ผิดเพี้ยน (รวมถึงความสูงต่ำที่ไม่เท่ากันของตัวหนังสือด้วย) บริเวณอีกด้านหนึ่งของภูเขา ด้านที่หันเข้าหาเมืองเบอร์แบงก์
นอกจากนี้ ข้อเสนอที่เทศบาลจ่ายเงินค่าจ้างให้กับบริษัท ดิ๊กสัน ถึง 120,000 ดอลลาร์ ยังประกอบไปด้วยข้อเสนอปลีกย่อยอีกมากมาย ตั้งแต่ตั้งศูนย์ข้อมูล (Hollywood sign visitor center) เพื่อให้ข้อมูลความรู้กับนักท่องเที่ยวก่อนจะขึ้นรถรางไฟฟ้า (หรือกระเช้าไฟฟ้า) ไปชมป้ายฮอลลีวูด, ติดตั้งป้ายบอกทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะเดินเท้าขึ้นไปชมป้าย, ปรับปรุงสภาพของถนนบีชวูด หรือปลูกต้นสนไซเปรส (Cypresses) เพื่อปิดบังป้ายฮอลลีวูดจากริมถนนหนทาง โดยเฉพาะบริเวณที่ไม่ต้องการให้นักท่องเที่ยวจอดรถยนต์เพื่อแวะถ่ายรูป โดยเฉพาะบน Mulholland Highway เรื่อยไปจนถึงกำหนดจุดรับ-ส่งผู้โดยสารสำหรับอูเบอร์, ลิฟท์ และรถแท็กซี่ทั่วไปด้วย
เดวิด ริว สมาชิกสภาเมืองเขตสี่ ซึ่งเป็น “ผู้แทน” ของย่าน บีชวูด แคนย่อน รวมถึงพื้นที่บนภูเขาฮอลลีวูด ฮิลล์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของป้ายฮอลลีวูด ออกมายกย่องข้อเสนอของบริษัทดิ๊กสัน ว่าเป็นผลการศึกษาแบบครอบคลุม ที่เปิดโอกาสให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวของเมืองแอลเอ มีตัวเลือกมากมาย แต่ตัวเขาเองปฏิเสธที่จะบอกว่าชอบไอเดียไหน โบ้ยให้เป็นหน้าที่ของเทศบาล ในการพิจารณาวิธีที่เหมาะสมต่อไป
เช่นเดียวกับประธานสภาหอการค้าฮอลลีวูด ลีรอน กูบเลอร์ ที่แสดงท่าทีดีใจกับความคืบหน้าในของปัญหาปิดเส้นทางชมวิวป้ายฮอลลีวูด ซึ่งเขาเห็นว่าเป็น “แบดไอเดีย” มาตั้งแต่แรกเริ่ม โดยบอกว่าเป็น “นิสัย” ของชาวแอลเอ ที่พอมีใครเสนอทางออก ก็จะต้องมีคนไม่เห็นด้วยออกมาคัดค้านเสมอ
“แต่คราวนี้ ผลการศึกษาแค่ฉบับเดียว แต่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พิจารณาถึงทางออกที่แตกต่างกันมากมาย ทุกคนสามารถอ่านข้อเสนอฉบับนี้ และมีความเห็นเอาไว้ถกเถียงกัน ผมคิดว่านี่เป็นไปในทิศทางที่ดี”
โดยส่วนตัวแล้ว ประธานสภาหอการค้าฮอลลีวูด บอกว่าเขาชอบไอเดียเรื่อง “กระเช้าลอยฟ้า” แต่ไม่แน่ใจว่าชาวเมืองแอลเอ โดยเฉพาะกลุ่มหัวอนุรักษ์ จะเห็นด้วยหรือไม่
“เราๆ ท่านๆ ล้วนแต่รักและหวงแหนป้ายฮอลลีวูดกันทั้งนั้น ปัญหาก็คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่เงยมองป้ายฮอลลีวูด แล้วเห็นกระเช้าลอยฟ้าด้วย เราจะรับได้ไหม” ลีรอน กุบเลอร์ กล่าว และว่าหากจะมีการสร้างกระเช้าลอยฟ้าสำหรับขึ้นไปชมป้ายฮอลลีวูดจริงๆ จะต้องมีการศึกษาผลกระทบกับสภาวะแวดล้อม (environmental studies) อีกเยอะแยะมากมาย ซึ่งเขาไม่เชื่อว่าจะ “ผ่าน” ได้
ดังนั้น การสร้างป้ายฮอลลีวูดแห่งที่สอง เพื่อแบ่งเบาบรรดานักท่องเที่ยวออกไปจากพื้นที่ จึงน่าจะเป็นทางออกที่มีโอกาสเป็นจริงมากกว่า...
หรือว่าไง...