ตั้งแต่วัยเด็กเริ่มจำความได้จนเติบใหญ่ขึ้นมา ผมถูกปลูกฝังมาตลอดว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ต้องเรียนหนังสือให้เก่งและให้จบการศึกษาระดับสูงที่สุด ดังนั้นชีวิตวัยเยาว์จึงมีหน้าที่เพียงตั้งใจเรียนเพื่อให้ได้ผลการเรียนออกมาดี ภาระอย่างอื่นไม่ต้องรับผิดชอบ แม้กระทั่งกิจวัตรในชีวิตประจำวันแทบทุกอย่างมีคนทำแทนให้เกือบทั้งหมด

จวบจนจบการศึกษาออกมาก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน ชีวิตจริงช่างแตกต่างจากโลกแห่งวิชาการที่ร่ำเรียนมา ต้องรู้จักพลิกแพลง ปรับเปลี่ยน ดิ้นรน ทำทุกกลยุทธวิธี เพื่อความก้าวหน้าและความอยู่รอด เผชิญกับทุกปัญหาสารพัดรูปแบบอย่างที่ไม่เคยพบเจอในตำราหรือถูกอบรมพร่ำสอนมา ต้องค้นหาคำตอบและวิธีการแก้ไขด้วยสติปัญญาของตนเอง เรียกได้ว่ากว่าจะก้าวผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆมาได้เลือดตาแทบกระเด็น

ความที่เป็นคนชอบศึกษาเรียนรู้และพบปะผู้คนมิตรสหายหลากหลาย ผมสังเกตว่าบุคคลหลายท่านที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือประกอบธุรกิจจนมั่งคั่งร่ำรวย มีชีวิตเมื่อวัยเด็กไม่มีโอกาสได้ร่ำเรียน และหลายท่านจัดอยู่ในประเภท เรียนเป็นรอง เล่นเป็นหลัก คือเรียนเพียงแค่เอาให้ผ่าน จบมาแบบกระท่อนกระแท่น แต่ทุกท่านเหล่านี้เมื่อได้คบหาสนิทสนมด้วย ทำให้ทราบว่าล้วนแล้วแต่มีความคิดความอ่านที่ฉลาดเฉียบแหลม มีไหวพริบสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยอดเยี่ยม มองคาดการณ์เกี่ยวกับธุรกิจการงานได้อย่างแม่นยำ ทั้งๆที่ไม่ต้องมีทฤษฎีหรือวิชาการท่วมหัวแบบผม แต่ได้มาจากความชำนาญและประสบการณ์จริงที่สัมผัสมา จนเกิดเป็นองค์ความรู้ หรือเป็นศาสตร์เฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่มีใครสามารถทำตามอย่างหรือนำไปลอกเลียนแบบได้ ทำให้ผมคิดเสมอว่า ทำอย่างไรถึงจะสามารถดึงเอาองค์ความรู้เหล่านี้มาถ่ายทอดให้แก่บุคคลอื่น และนำมาปรับเปลี่ยนเป็นคุณวุฒิมอบให้แก่ท่านเหล่านั้น เพื่อเป็นการยกย่องให้กับเกียรติประวัติเจ้าของผลงาน อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า อย่าวัดคุณค่าความเป็นมนุษย์หรือยกตนข่มท่าน ว่าตนเองเหนือกว่าเพราะมีระดับการศึกษาสูงกว่า ทุกคนล้วนแล้วแต่มีดีคนละแบบ เพียงขอให้นำมาใช้ในทางที่ถูกที่ควร อย่างถูกต้องและชอบธรรม

จนกระทั่งผมมาพบกับมหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ สถานศึกษาที่มีต้นกำเนิดมาจากแนวความคิดที่มองเห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ คือมนุษย์ที่สามารถบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนเอง แก่บุคคลรอบข้าง และสังคมส่วนรวม โดยนำประสบการณ์การทำงาน การต่อสู้ชีวิต มาถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้เผยแพร่ให้แก่บุคคลอื่นเพื่อได้นำไปใช้หรือนำไปศึกษา และถูกนำมาเปรียบเทียบเป็นวุฒิปริญญาเพื่อเป็นเกียรติประวัติและรางวัลชีวิตมอบให้แก่ตนเอง นั่นคือเป็นการจัดการศึกษารูปแบบใหม่ ที่นำเอาประสบการณ์ชีวิตมาเรียนรู้เพื่อปรับเปลี่ยนเป็นทฤษฎี ในขณะที่สถานศึกษาโดยทั่วไปเริ่มต้นจากการเรียนรู้ทฤษฎีแล้วนำออกไปสู่การทำงานปฏิบัติเพื่อเก็บเกี่ยวมาเป็นประสบการณ์ชีวิต

หลักการของมหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ตรงกับใจผมเป็นอย่างยิ่ง จากที่ผมเอ่ยมา เกี่ยวกับมิตรสหายหลายท่าน บางท่านจบการศึกษาระดับเพียงชั้นประถม  ทำมาหาเลี้ยงตนเองตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจข้ามชาติ มีเครือข่ายธุรกิจและทรัพย์สมบัติมากมาย ผมไม่ได้นับถือท่านเหล่านี้ตรงที่ทรัพย์สินเงินทองที่ท่านมี แต่ผมยกย่องตรงที่ประสบการณ์ต่อสู้ชีวิตของท่าน ทุกครั้งที่มีโอกาสผมจะสอนลูกศิษย์เสมอว่า แม้กระทั่งคนยากคนจนหรือคนที่ต้องทำงานหนักอาบเหงื่อต่างน้ำเพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว ทุกคนล้วนแล้วแต่มีเกียรติมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน มีความเชี่ยวชาญในงานในหน้าที่ที่ตนทำ งานบางอย่างต่อให้จบการศึกษาระดับสูง เรียนเก่งขนาดได้เกียรตินิยม ก็ไม่สามารถทำผลงานออกมาได้ดีเท่ากับเขาเหล่านั้น ดังตัวอย่างนักธุรกิจจบระดับประถมที่ผมเอ่ยมา ผมมั่นใจว่า ระดับองค์ความรู้ของท่านเลยทะลุการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาบริหารธุรกิจ ไปไกลแล้ว หรือแม้กระทั่งแม่ครัวที่ไม่จบการศึกษาแต่มีความเชี่ยวชาญในฝีมือการทำอาหาร การบริหารจัดการในครัว อย่างนี้ถือได้ว่าความรู้ของท่านเทียบเท่าระดับปริญญาตรี สาขาโภชนาการ หรืออาจก้าวไปถึงระดับปริญญาโท สาขาการจัดการเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นอย่าดูถูกตนเองว่าต้อยต่ำกว่าผู้อื่นเพียงเพราะมีคุณวุฒิการศึกษาน้อยกว่า และอย่าไปคิดว่าตนเองเหนือกว่าผู้อื่นเพราะจบการศึกษาสูงกว่าพวกเขา

ปริญญาที่ได้รับจากมหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ จึงเปรียบเสมือนเป็น ปริญญาชีวิต ที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่ เพราะมาจากศาสตร์แห่งชีวิตที่นักศึกษาต้องนำเอาประสบการณ์ชีวิตของตนมาเทียบโอนปรับเปลี่ยนสร้างเป็นทฤษฎีองค์ความรู้ เพื่อต่อยอดเป็นคุณวุฒิให้กับตนได้ นอกจากจะเป็นการสร้างความภาคถูมิใจให้แก่ตนเองแล้ว ยังเป็นการสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมส่วนรวม ด้วยการถ่ายทอดความรู้ความสามารถที่ท่านประสบพบพานมาด้วยตนเอง ถ่ายทอดให้เป็นประโยชน์แก่ บุคคลอื่นและกลุ่มคนรุ่นหลัง ชีวิตมนุษย์เรากำเนิดเกิดมาแล้วก็ต้องตายไปทุกคน แต่ถึงแม้ร่างกายวิญญาณจะดับสูญหายจากโลกนี้ไปแล้ว องค์ความรู้และคุณงามความดีของท่านยังได้จารึกอยู่ในใจของคนรุ่นต่อๆไป
ด้งนั้นมหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์จึงถือว่าเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะมาเสริมคุณค่าความเป็นมนุษย์ของเราให้สมบูรณ์แบบได้ยิ่งขึ้น.
ล้อมกรอบ : ในลอส แอนเจลิส และเมืองใกล้เคียง ติดต่อสอบถามข้อมูลของมหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ (Bodhisastra University) ได้ที่ ดร.พระครูพิศาลธรรมจารี ผู้ช่วยอธิการบดี ที่ 747-264-8552 และพระครูวินัยธรบุณยกร ปิยสีโล (ไกยะฝ่าย) อาจารย์อาสา ที่ 818-442-2868 หรือที่วัดไทยศรีโสดา ซันวัลเลย์ นครลอส แอนเจลิส.