รายงานข่าวเมื่อช่วงค่ำของวันอังคารที่ 16 มกราคม 2018 ระบุว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัย ยังไม่พบร่างของผู้สูญหายจากเหตุการณ์โคลนถล่มในเมืองมอนเทซิโต้ ในซานตา บาร์บาร่า เคาน์ตี้ อีกสามคน ที่เชื่อว่าถูกฝังอยู่ภายใต้ดินโคลนปริมาณมหาศาล และหินขนาดใหญ่จำนวนมาก โดยหนึ่งในสามเป็นเด็กหญิงวัยสามขวบ ชื่อว่าลิเดีย สุทธิเทพา ซึ่งเป็นลูกคนเล็กของสามีภรรยาคนไทยที่พำนักอยู่ในเมืองนี้

และในวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้สรุปยอดผู้เสียชีวิตจากโศกนาฎกรรมครั้งนี้ว่า อยู่ที่ 20 คน โดยร่างของผู้เสียชีวิตรายที่ 20 ซึ่งค้นพบเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม คือนายพินิจ สุทธิเทพา ชายไทยวัย 30 ปีผู้เป็นพ่อของ “น้องลิเดีย” และ “น้องพาสต้า” ด.ช.พีรวัฒน์ สุทธิเทพา ที่พบศพตั้งแต่วันแรกๆ นั่นเอง

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดินโคลน หินและเศษซากต้นไม้ไหลบ่าจากภูเขาถล่มเมืองมอนเทซิโต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากไฟป่า “โทมัสไฟร์” ในซานตา บาร์บาร่า เคาน์ตี้ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.ของวันอังคารที่ 9 มกราคม หลังจากมีฝนตกอย่างหนักในบริเวณดังกล่าวต่อเนื่องหลายชั่วโมง เป็นเหตุให้บ้านเรือนหลายหลังพังทลาย โดยบ้านบางหลังลอยไปกับดินโคลน ก่อนพังทลายเป็นชิ้นๆ ห่างจากจุดเดิมมากกว่าครึ่งไมล์

จากคำบอกเล่าของ “คุณแอ๋ม กมลพร” ผู้เป็นเพื่อนสนิทของครอบครัวคนไทยเคราะห์ร้าย ทำให้ทราบว่าบ้านพักของคนไทยผู้โชคร้ายครอบครัวนี้ มีคนพักอาศัยทั้งหมด 7 คน คือนายพินิจ สุทธิเทพา, น.ส.ยุภาวรรณ (อ้อ) บัญญัติตระกูลปาน (ภรรยาของนายพินิจ) และลูกสองคน คือน้องพาสต้า พีรวัฒน์ วัย 6 ขวบ และน้องลิเดีย วัย 2 ขวบ นอกจากนี้ยังมีแม่ และพ่อเลี้ยงของนายพินิจ คือนางบุญเพิ่ม เทเลอร์ และนายริชาร์ด เทเลอร์ อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน และมีญาติมาพักอยู่อีกหนึ่งคน คือ น.ส. ศิริธร จันทรโธ

แต่ขณะที่เกิดเหตุการณ์โคลนถล่มนั้น ภรรยาและแม่ของนายพินิจ สุทธิเทพา กำลังทำงานอยู่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง จึงรอดพ้นอันตรายได้อย่างหวุดหวิดจากดินโคลน และหินขนาดใหญ่ที่ไหลมาถล่มบ้านทั้งหลังจนพังพินาศ และเป็นเหตุให้นายพินิจ, น้องพาสต้า และนายริชาร์ด เทเล่อร์ ต้องเสียชีวิต ขณะที่น้องลิเดีย เด็กหญิงวัย 2 ขวบยังคงสูญหาย มีเพียง น.ส.ศิริธร จัทรโธ ที่รอดตายหวุดหวิด แต่ก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย

ข่าวอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม ว่า โอกาสรอดชีวิตของผู้ที่ยังสูญหายอีกสามคนนั้น ไม่มีเหลือแล้ว ดังนั้นจึงเปลี่ยนปฏิบัติการจากค้นหาเพื่อช่วยชีวิต หรือ search and rescue เป็น การค้นหาและเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต (search and recovery)

การเสียชีวิตของสามพ่อลูก “สุทธิเทพา” ครั้งนี้ สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับเพื่อนบ้าน และเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างมาก โดยแอลเอไทมส์ ได้สัมภาษณ์ความรู้สึกของ ไมค์ โคลด์เวลล์ ผู้จัดการทั่วไปของ โตโยต้า ออฟ ซานตา บาร์บาร่า ซึ่งเป็นหัวหน้าของนายพินิจ สุทธิเทพา และเป็นผู้เปิดเพจ GoFundMe เพื่อเรี่ยไรเงินช่วยเหลือครอบครัวของนายพินิจด้วย โดย ไมค์ โคลด์เวลล์ กล่าวว่า นายพินิจ เป็นพนักงานที่มีความรับผิดชอบสูง เป็นสามีที่ดี และเป็นพ่อที่น่ารัก “ครอบครัวคือทุกอย่างของเขา”

ส่วน แอเนลลิเซ่ เพลส วัย 50 เพื่อนร่วมงานของนายพินิจ ที่ดีลเลอร์ของโตโยต้าแห่งนี้ กล่าวถึงนายพินิจว่าเป็นคนรักครอบครัว และพูดถึงครอบครัวของเขาบ่อยมาก โดยจะใช้คำว่า “ภรรยาคนสวยของผม” ทุกครั้งที่พูดถึงภรรยา และว่าบ่อยครั้ง ที่ภรรยาพาลูกๆ สองคนมาเยี่ยมนายพินิจที่ดีลเลอร์ ซึ่งเด็กชาย พีรวัฒน์ สุทธิเทพา จะวิ่งเล่นรอบๆ โต๊ะ และหัวเราะอย่างมีความสุขเสมอ

ส่วน เควิน ทูลี่ วัย 34 ซึ่งเป็นเพื่อนของครอบครัวเคราะห์ร้าย บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขาอยูในสภาพหัวใจสลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นภาพครอบครัวอันอบอุ่น บนเฟสบุ๊ก

ในส่วนของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส นั้น เมื่อทราบข่าวว่ามีคนไทยได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์โคลนถล่มดังกล่าว ก็ได้รีบดำเนินการช่วยเหลือทันที โดยทางสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้แจ้งมายังสยามทาวน์ยูเอส เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2018 ความว่า...

“ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์โคลนถล่มเมื่อเช้าวันอังคารที่ 9 มกราคม 2018 ที่เมือง Montecito เขต Santa Barbara มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งตามแถลงการณ์ของ Santa Barbara County Sheriff’s Office และรายงานของหน่วยงานนิติเวช Coroner’s Office, Santa Barbara ปรากฎชื่อผู้เสียชีวิตชาวไทย ด.ช. พีรวัฒน์ สุทธิเทพา อายุ 6 ปี และผู้สูญหาย 2 ราย ได้แก่ นายพินิจ สุทธิเทพา และ ด.ญ. ลิเดีย สุทธิเทพา

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2018 นายธานี แสงรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส และภริยา รวมถึงเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้เดินทางไปพบ น.ส. ยุภาวรรณ บัญญัติตระกูลปาน ภรรยาของนายพินิจฯ และมารดาของ ด.ช.พีรวัฒน์ และ ด.ญ. ลิเดีย และได้พบกับนางบุญเพิ่ม เทเล่อร์ มารดาของนายพินิจ เพื่อให้กำลังใจและมอบของใช้จำเป็น รวมถึงได้จัดทำหนังสือเดินทางชั่วคราวเพื่อมอบให้แก่บุคคลทั้งสองสำหรับใช้ในการติดต่อกับหน่วยงานต่าง ๆ

น.ส. ยุภาวรรณฯ และนางบุญเพิ่มฯ ขณะนี้ปลอดภัยและพักอยู่ที่โรงแรมในเมือง Santa Barbara ซึ่งบริษัท Toyota of Santa Barbara ที่นายพินิจฯ เป็นพนักงานอยู่ได้จัดเตรียมไว้ดูแลครอบครัวของนายพินิจฯ ชั่วคราวในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการค้นหานายพินิจฯ และ ด.ญ. ลิเดียฯ รวมถึงบุคคลที่สูญหายอื่น ๆ จากเหตุการณ์ดังกล่าว

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พบ น.ส. ศิริธร จันทรโธ ญาติของนายพินิจ ซึ่งพำนักอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ ได้รับบาดเจ็บ และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว

สถานกงสุลใหญ่ฯ กำลังจัดทำหนังสือเดินทางชั่วคราวให้แก่ น.ส. ศิริธรฯ อีกเล่มหนึ่ง กงสุลใหญ่ฯ ได้มอบกระเช้าอาหารแห้งและจะประสานงานให้ความช่วยเหลือครอบครัวของนายพินิจฯ ต่อไป ภริยากงสุลใหญ่ฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือและเสื้อผ้าครอบครัวนายพินิจฯ สำหรับใช้เฉพาะหน้าด้วย

ผู้ที่มีความประสงค์สามารถบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของนายพินิจฯสามารถบริจาคได้ที่ https://www.gofundme.com/pinitsooms-family-recovery-fund ซึ่งเป็นความประสงค์ของผู้ประสบภัย เนื่องจากสถานการณ์ความเป็นอยู่ไม่สะดวกที่จะรับสิ่งของบริจาค.