ข่าวคนไทยในอเมริกา
บทความหน้าหนึ่ง : “แอลเอ ออน ไฟร์”


ไฟป่าข้างฟรีเวย์ 405 เช้ามืดของวันพุธที่ 6 ธันวาคม 2017




ภาพถ่ายดาวเทียมขององค์การนาซ่า เห็นควันจากไฟป่าครั้งล่าสุดของแคลิฟอร์เนียชัดเจน










จากภาพที่เห็นบนจอทีวี หรือสื่อต่างๆ รวมถึงภาพถ่ายจากดาวเทียมที่นาซ่านำออกเผยแพร่ในช่วงนี้ คงไม่เกินไปหากจะบอกว่าตลอดสัปดาห์นี้ ลอส แอนเจลิส (และอีกหลายเมืองในแคลิฟอร์เนียตอนใต้) กำลัง “ลุกเป็นไฟ”


ไฟป่าครั้งล่าสุด ที่ลุกลามเพราะสภาพอากาศที่แห้งแล้ง บวกกับตัวช่วยชั้นเยี่ยมที่เรียกว่ากระแสลมซานตาอาน่า (Santa Ana Wind) นี้ แม้จะเพิ่งลุกโหมขึ้นเพียงไม่กี่วัน แต่ได้ทำลายพื้นที่และทรัพย์สินไปมหาศาล จนกลายเป็นหนึ่งในไฟป่าของรัฐแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ที่ถือว่า “ร้ายแรงที่สุดของปี 2017” ไปแล้ว

ไฟป่าครั้งนี้เกินขึ้นหลายจุด หลายชื่อ เช่น “แมมมอธ ไฟร์” ในแวนทูร่า เคานืตี้ ที่เผาผลาญสิ่งปลูกสร้างไปแล้วหลายร้อยหลังในพื้นที่ทำลายมากก่า 60,000 เอเคอร์

ส่วนผู้คนในย่านซานเฟอร์นานโด้ แวลเล่ย์ ก็ร้อนระอุไปด้วยเปลวเพลิง ควันไฟและเถ้าถ่านที่คละคลุ้งจนคลุมไปทั่วเมือง เพราะมีไฟป่าขนาดใหญ่เกิดขึ้นถึงสองจุด หนึ่งคือ “ครีค ไฟร์” ใกล้ซิลมาร์ ที่เผาผลาญสิ่งปลูกสร้างหลายสิบหลังที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ทำลายกว่า 11,000 เอเคอร์ และ “ไรย์ ไฟร์” (Rye fire) ที่เผาผลาญพื้นที่ในซานตา คลาริต้า มากกว่า 7,000 เอเคอร์

และเมื่อเช้าวันพุธที่ 6 ธันวาคม ก็ได้มีไฟป่าเกิดขึ้นใหม่อีกจุดที่ เซบพูลเวด้า พาสส์ ใกล้พิพิธภัณฑ์เก็ตตี้ เซ็นเตอร์ และสเกียร์บอลล์ เคาน์เจอร์ เซ็นเตอร์ เป็นเหตุให้ต้องมีการปิดฟรีเวย์ 405 นอร์ธ ขณะเดียวกัน “ริเวอร์เดล ไฟร์” ที่เริ่มลุกไหม้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม และ “ลิตเติล เมาเท่น ไฟร์” ที่เกิดขึ้นทีหลัง ในย่านริเวอร์ไซด์ ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดฟรีเวย์ 215 ตั้งแต่บ่ายวันอังคาร... ส่งผลกระทบให้เกิดรถติดครั้งมโหฬารแทบจะทั่วเมืองในช่วงเวลานั้น

ข่าวบอกว่า ไฟป่าครั้งนี้จะยังคงเป็นความท้าทายของบรรดาเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายพันคนที่ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างสุดความสามารถในเวลานี้ต่อไปอีกพักใหญ่ เพราะกระแสลมซานตา อาน่า จะยังพัดแรงต่อไปทั้งในแอลเอ เคาน์ตี, ออเรนจ์ เคาน์ตี้ และเวนทูร่า เคาน์ตี้  โดยเฉพาะในวันพฤหัสฯ ที่ 7 ธันวาคมนั้น ข่าวบอกว่ากระแสลมจะพัดระหว่าง 25-35 ไมล์ต่อชั่วโมง และในบางพื้นที่อาจพัดรุนแรงถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ก่อนจะค่อยๆ แผ่วลงในช่วงเย็นของวันเดียวกัน

นั่นทำให้สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่วชาติ ออกประกาศ (Red Flag Alert) เตือนประชาชน ถึงอันตรายจากไฟป่าต่อเนื่องไปจนถึงวันศุกร์ที่ 8 ธันวาคมเลยทีเดียว

ในรอบปีที่ผ่านมานั้น เกิดกระแสลมซานตา อาน่า ในแคลิฟอร์เนียตอนใต้หลายต่อหลายครั้ง บางครั้งก็เกิดต่อเนื่องกันหลายวัน โดยเฉพาะในช่วงปลายปี เช่นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กระแสลมซานตา อาน่า พัดต่อเนื่อง 6 วัน, เดือนพฤศจิกายน 9 วัน และธันวาคม 10 วัน โดยเป็นวันที่กระแสลมอยู่ในระดับที่เรียกว่า ปานกลางถึงรุนแรง (moderate to exteme) สองวันในเดือนตุลาคม สามวันในเดือนพฤศจิกายน และสามครั้ง ในช่วงสัปดาห์แรกของธันวาคม

ถามว่ากระแสลมซานตา อาน่า เกิดขึ้นได้อย่างไร...

1 ความกดอากาศสูงก่อตัวเหนือรัฐเนวาด้า ยูท่าห์ และรัฐใกล้เคียง ทำให้เกิดกระแสลมแรง หมุนวนตามเข็มนาฬิกาข้ามทะเลทรายโมฮาวี ไปยังมหาสมุทรแปซิฟิก...  ซึ่งแคลิฟอร์เนียตอนใต้ก็เป็นทางผ่านของกระแสลมแรงที่ว่านี้

2 โมเลกุลของอากาศอัดตัวแน่น ขณะที่เคลื่อนตัวผ่านหุบหรือช่องเขาในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ซึ่งแรงอัดตัวดังกล่าวทำให้อุณหภูมิของอากาศสูงขึ้น และปริมาณความชื้นสัมพัทธ์ลดลง เป็นเหตุให้กระแสลมทวีความรุนแรงขึ้นขณะเคลื่อนผ่านภูเขาซานตา อาน่า ซึ่งมีหุบเขาและช่องเขามากมาย

และ 3 เป็นกระแสลมที่พัดโถมออกจากภูเขาในแคลิฟอร์เนียตอนใต้เอง โดยบ่อยครั้งที่กระแสลมแบบนี้ สามารถพัดได้เร็วถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมง

แต่จะโทษกระแสลมซานตา อาน่า อย่างเดียวก็คงไม่ถูก เพราะไฟป่าที่เกิดขึ้นปีละหลายๆ ครั้งในแคลิฟอร์เนียใต้นั้น สาเหตุหลักมาจากความแห้งแล้งที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายปี บวกกับสภาพธรรมชาติของภูเขา หรือทุ่งโล่งขอแคลิฟร์เนียที่แทบไม่ต่างจากทะเลทราย มีเพียงหญ้า และวัชพืชเล็กๆ มากกว่าต้นไม้ใหญ่ ดังนั้นจึงแห้งและกลายเป็นเชื้อไฟอย่างดีทุกครั้งที่ขาดฝน...

แล้วก็อย่างที่รู้กัน...  แคลิฟอร์เนียใต้นั้นมีฝนตกแค่ปีละไม่กี่ครั้ง...

ดีใจที่เห็นข่าวบอกว่ารัฐแคลิฟอร์เนีย เริ่มมองเห็นแล้วว่า ไฟป่าที่สร้างความเสียหายมากมายมหาศาลในทุกปีนั้น ต้นเหตุเป็นเพราะเรามี “เชื้อไฟ” ชั้นดีคลุมภูเขาและพื้นที่ป่าอยู่ตลอดปี ดังนั้นหนึ่งในแผนงานลดปัญหาไฟป่าของรัฐแคลิฟอร์เนีย ตามที่เห็นในข่าวก็คือจะทำการสำรวจพื้นที่เสี่ยงอันตรายทั่วทั้งรัฐ ให้แล้วเสร็จภายในปี 2010 เพื่อจัดทำงบประมาณสำหรับปรับปรุงแก้ไขพื้นที่เหล่านั้นให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าต่อไป

ตราบใดที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ยังคงเป็นภูเขาหัวโล้นที่ปกคลุมด้วยหญ้าและวัชพืชล้มลุก ที่พร้อมจะแห้งกรอบ กลายเป็นเชื้อไฟชั้นดีได้ปีละหลายๆ เดือน หรือตราบใดที่ยังคงมีคนมักง่าย แอบสูบบุหรี่หรือก่อไฟ-แคมปิ้งในพื้นที่สี่ยง และตราบใดที่กระแสลมซานตา อาน่า ยังคงพัดผ่าน... พวกเราที่อาศัยอยู่ในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ โดยเฉพาะผู้ที่มีบ้านอยู่ชานเมือง ตีนเขาหรือบนเขา ก็คงจะต้องเสี่ยงต่ออันตรายระดับ “หายนะ” จากไฟป่ากันปีละหลายๆ ครั้งต่อไป

….

หมายเหต : ในกรณีที่พวกเราคนไทยต้องเผชิญเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ สามารถขอความช่วยเหลือหรือขอความช่วยเหลือจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่หมาย 323-580-4222

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :
 
Detail :
 



ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข