เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2047 คณะกรรมการบริหารลอส แอนเจลิส เคาน์ตี้ (Los Angeles County Board of Supervisors) ได้มีการพิจารณาข้อเสนอของซูเปอร์ไวเซอร์ เจนีซ ฮาห์น ที่เสนอให้ออกกฎหมาย (ordinance) ว่าด้วยการควบคุมปัญหาค้ามนุษย์ในเขตเคาน์ตี้ โดยบังคับสำนักงานสาธารณสุขของเคาน์ตี้ ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจร้านนวดเป็นประจำ เพื่อมองหาสิ่งบ่งชี้ถึงปัญหาค้ามนุษย์ในร้านนวด ซึ่งมีอยู่มากมายเหล่านี้
“ปัญหาค้ามนุษย์ หรือ human trafficking ไม่ได้หมายถึงเฉพาะคนที่ถูกบังคับให้ทำงานทางเพศ แต่หมายถึงคนที่ถูกบังคับให้ทำงานอื่น หรือคนที่อาจจะไม่ได้รับค่าจ้างที่เหมาะกับงานบริการของเขา ซึ่งเวลานี้ บางคนก็เรียกว่า labor trafficking” เจนีซ ฮาห์น กล่าว และว่านั่นคือสิ่งที่เธอกลัวว่ากำลังเกิดขึ้นและเป็นไปอยู่ในลอส แอนเจลิส โดยเฉพาะในร้านนวด หรือ massage parlor ซึ่งมีอยู่มากมายในเวลานี้
ซูเปอร์ไวเซอร์ เจนีซ ฮาห์น บอกด้วยว่าปัญหานี้สามารถตรวจสอบและป้องกันได้โดยใช้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุข ที่ผ่านการฝึกฝนให้สามารถเห็นปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และมีความพร้อมในการออกตรวจตราได้ตลอดเวลา
โดยข้อเสนอของซูเปอร์ไวเซอร์ เจนีซ ฮาห์น เรื่องการส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกตรวจร้านร้านนวดเป็นประจำ จะเข้าสู่การพิจารณาลงมติในวันอังคารที่ 21 พฤศจิกายนนี้
ซูเปอร์ไวเซอร์ ฮิลด้า โซลิส ผู้ร่วมร่างข้อเสนอของเจนีซ ฮาห์น กล่าวว่าเธอหวังว่าข้อเสนอดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารเคาน์ตี้ ในสัปดาห์หน้า เพราะปัญหาค้ามนุษย์เป็นปัญหาใหญ่ รวมถึงหวังว่ากฎหมายดังกล่าว จะมีผลกับพื้นที่นอกเขตปกครองของเคาน์ตี้ (unincorporaed county) ด้วย
แม้ว่าข้อเสนอของ เจนีซ ฮาห์น จะเน้นไปที่การดูแลปัญหาแรงงานที่ถูกล่วงละเมิด แต่หากผ่านความเห็นชอบจริงๆ ก็จะมีผลในการป้องกันปัญหาค้าประเวณีในร้านนวดด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ เมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เชอรีฟของแอลเอ เคาน์ตี้ ได้ทำการจับกุมผู้หญิงสามคนจากร้านนวดสามแห่งในย่าน ซานตา คลาริต้า ที่เสนอขายบริการทางเพศกับลูกค้า ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ โดยข่าวบอกว่าในช่วงหลังนี้ ความพยายามแก้ไขปัญหาค้าประเวณีในร้านนวดของแอลเอ เคาน์ตี้ เน้นไปที่การจับกุมลูกค้ามากกว่าพนักงานในร้าน.