|
ข่าวเด่นเมืองไทย |
ข่าวเด่นเมืองไทย |
'ตามรอยพ่อ ต่อรอยธรรม' พอเพียง เรียบง่าย ใช้จ่ายประหยัด ชีวิตจะพบแต่ความสุข
นายยืนยง โอภากุล กรรมการบริหาร บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความประทับใจที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่าตลอด 70 ปี ที่ทรงครองสิริราชสมบัติ พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ปวงชนชาวไทยในทุก ๆ ด้าน
โดยเฉพาะพระราชจริยวัตรอันงดงามในเรื่องความพอเพียง ที่ถึงแม้พระองค์ทรงเป็นถึงพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ แต่พระราชจริยวัตรนั้นกลับแสนเรียบง่ายและประหยัดเป็นต้นแบบให้คนไทยควรน้อมนำมาปฏิบัติตามอย่างยิ่ง เพื่อดำเนินชีวิตให้พอมี พอกิน พอใช้ เกิดความสุขในชีวิต
“ผมน้อมนำพระราชดำรัสปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ โดยขุดบ่อเลี้ยงปลา 3 ไร่ อีก 2 ไร่เป็นที่พักปลูกผักสวนครัว ผมว่าการใช้ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงส่งผลดีทั้งตัวเราและโลก ดินก็ไม่เสีย เพราะไม่ต้องพึ่งปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง การปลูกพืชสวนครัวก็ทำให้มีอาหารกิน และให้ความร่มเย็น เพิ่มออกซิเจนต่อโลกคุณภาพชีวิตคนก็ดีมีแต่ความสุข ถ้าทำครบวงจรตามที่ พระองค์ทรงสอนไว้แล้วแทบจะไม่ต้องหาซื้อของกินจากที่อื่น เงินที่หาได้จากข้างนอกก็มีเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นด้วย”
ด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยความรักและห่วงใยพสกนิกร เพื่อให้อยู่อย่างผาสุก พระองค์ยังทรงแนะแนวทางปฏิบัติเพื่อเตือนให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญ ของการประหยัดและมัธยัสถ์ว่า เป็นพื้นฐานความประพฤติ ที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและช่วยสร้างความสมบูรณ์ มั่นคงให้กับชีวิต
ดังพระบรมราโชวาทที่พระราชทานในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ เมื่อ 30 ต.ค. 2521 ว่า การประหยัด เป็นสิ่งที่พึงประสงค์อย่างยิ่งในทุกแห่งและในกาลทุกเมื่อ ขอให้คำนึงถึงผลที่เกิดขึ้น จากการประหยัดนี้ให้มาก การประหยัดนี้ควบคู่ไปกับหลักการพออยู่ พอกิน พอใช้ จึงใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย และเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติตนตามเศรษฐกิจพอเพียงโดยแท้
“พระราชดำรัสเรื่องความมัธยัสถ์ที่พระองค์ทรงสอน และปฏิบัติไว้ในหลายเรื่อง เช่น หลอดยาสีพระทนต์ พระองค์ก็ทรงบีบใช้อย่างคุ้มค่าจนแบนราบเรียบคล้าย แผ่นกระดาษ หรือทรงนำรองเท้าไปซ่อมแทนการซื้อใหม่ ถ้าทุกองค์กร ทุกครอบครัวร่วมใจกันน้อมนำมาปฏิบัติเช่นพระองค์ท่าน ไม่ฟุ่มเฟือยและใช้จ่ายอย่างประหยัดชีวิตจะพบแต่ความสุข ความเจริญ”
พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงยึดมั่นและให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนอย่างถ่องแท้ทรงสอดแทรกหลักธรรมในพระพุทธศาสนาไว้ในพระราชดำรัสในโอกาสต่าง ๆ ให้พสกนิกรน้อมนำมายึดเป็นหลักในการดำรงชีวิต เพื่อให้ชีวิตเกิดความร่มเย็นเป็นสุขสามารถผ่านวิกฤตปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตด้วยความมีสติ
ดังความตอนหนึ่งที่พระองค์พระราชทานแก่พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2513 ว่า พระพุทธศาสนาแสดงความจริงของชีวิต แสดงทางปฏิบัติที่จะให้บรรลุความสุขสูงสุดของชีวิต มีวิธีการสั่งสอนที่ยึดหลักเหตุและผลว่าทุกสิ่งเกิดจากเหตุ ผู้ใดประกอบเหตุอย่างไร เพียงใด ก็ได้ผล อย่างนั้น เพียงนั้น
“เพลงทะเลใจที่ผมเขียนว่า ‘หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข’ นั้น ผมได้รับแรงบันดาลใจจากหลักธรรมของพระองค์ ที่ว่าความทุกข์ ความสุขอยู่ที่ใจเรา ถ้าเราหามันเจอเข้าใจมันก็จะพบความสุข หลักธรรมของพระองค์สอนให้รู้ว่าเรามีความทุกข์เนื่องจากสร้างเหตุขึ้นมาเอง ถ้านำหลักธรรมมาใช้ในชีวิตและการทำงาน หากเกิดปัญหาใด หาสาเหตุให้เจอ แล้วแก้ที่ต้นเหตุให้ถูกจุด ชีวิตและองค์กรก็จะเดินไปข้างหน้าอย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จ”
นำเสนอข่าวโดย : Kittisuda .,
แหล่งที่มาข่าวโดย : ไทยรัฐ