นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กล่าวว่า ตามที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้เข้ามาตรวจสอบการกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินพลเรือนในช่วงเดือนมกราคม 2558 ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่า ประเทศไทยมีความบกพร่องเกี่ยวกับกระบวนการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ โดยมีข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน (SSC) จำนวน33 ข้อ และต่อมาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2558 ได้ประกาศติดธงแดงประเทศไทยบนเว็บไซต์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าไทยยังไม่มีการกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินพลเรือนอย่างเพียงพอภายใต้มาตรฐานของ ICAO
กระทรวงคมนาคม และ กพท. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เกิดความเชื่อมั่นและเชื่อถือจากกิจการการบินพลเรือนทั่วโลก โดยได้แก้ไขข้อบกพร่อง 33 ข้อดังกล่าว ทบทวนการตรวจประเมินการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ทั้งหมด 28 สายการบินที่ทำการบินระหว่างประเทศ แก้ไขกฎหมายการเดินอากาศใหม่ และพัฒนาบุคลากรที่มีความขาดแคลน เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ประเทศไทยได้ตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรกับ ICAO ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมทั้งได้ยื่นขอตรวจประเมินใหม่เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2560 และ ICAO ได้ส่งคณะผู้ตรวจประเมินจาก ICAO มาตรวจประเมินด้านปฏิบัติการการบินและความเหมาะสมของการเดินอากาศใหม่ระหว่างวันที่ 20 - 27 กันยายน 2560
หลัวจากทำการตรวจประเมินแล้ว ICAO ได้ประกาศถอดประเทศไทยออกจากรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน (ปลดธงแดง) ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา
โดยนายอรุณ มิชรา ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิกของ ICAO ณ กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานผลการตรวจประเมิน และได้รับการยืนยันจากผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิกของ ICAO ณ กรุงเทพมหานคร แล้วว่า ICAO ได้มีมติปลดธงแดงประเทศไทยอย่างเป็นทางการ นับเป็นความภาคภูมิใจสำหรับประเทศโดยส่วนรวม ที่ได้รับความไว้วางใจจาก ICAO ที่ปลดธงแดงให้กับประเทศไทยในครั้งนี้ แสดงถึงความเชื่อมั่นของ ICAO และนานาประเทศที่มีต่อ กพท. ที่ได้ทำหน้าที่กำกับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน และความเหมาะสมของการเดินอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานของ ICAO ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของสายการบินของไทย และที่สำคัญอย่างยิ่งคือ การสร้างความมั่นใจในการพัฒนามาตรฐานการกำกับดูแลและการสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรกำกับดูแล รวมทั้งการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินเพื่อก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคในอนาคตอย่างมั่นใจ.