เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2017 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงข้อความทางทวิตเตอร์โดยระบุถึงนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศ ว่าการที่นายทิลเลอร์สันพยายามหาทางเจรจากับเกาหลีเหนือเรื่องโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์นั้นเสียเวลาเปล่า

"ผมบอกกับเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศคนเก่งของเราว่า เขากำลังเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์หากยังพยายามจะเจรจากับมนุษย์จรวดตัวน้อยอยู่" นายทรัมป์ยังระบุในข้อความทวิตเตอร์ถัดมาด้วยว่า "เก็บแรงของคุณเอาไว้เถอะเร็กซ์...เราจะทำในสิ่งที่ต้องทำ"

ผู้นำสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อความทางทวิตเตอร์ดังกล่าว หลังนายทิลเลอร์สันเปิดเผยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯ มีช่องทางติดต่อกับรัฐบาลเกาหลีเหนือโดยตรง และกำลังมองหาทางเปิดการเจรจาอยู่ แต่ดูเหมือนว่าเกาหลีเหนือไม่สนใจที่จะเจรจาต่อรองด้วยนัก

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ผู้หนึ่งออกมาชี้แจงกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า คำกล่าวล่าสุดของนายทรัมป์ทางทวิตเตอร์นั้น หมายความว่าในเวลาที่เกาหลีเหนือยังคงกระทำการยั่วยุอยู่เช่นนี้ ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการเจรจาด้วย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงความเห็นขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล โดยเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาเขาประกาศกร้าวว่ากองทัพสหรัฐฯ ได้ "เล็งเป้าและบรรจุกระสุน" พร้อมที่จะจัดการกับเกาหลีเหนือแล้ว แต่หลังจากนั้นไม่นาน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้ออกมาชี้แจงว่า ยังคงใช้วิถีทางการทูตในการแก้ไขสถานการณ์อยู่

นายทิลเลอร์สันกล่าวเรื่องพยายามเปิดการเจรจากับเกาหลีเหนือเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ระหว่างที่เยือนกรุงปักกิ่งของจีนเพื่อเข้าพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จีนได้สั่งปิดกิจการต่าง ๆ ของเกาหลีเหนือในประเทศของตนลง เพื่อปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ

กระแสขัดแย้งเรื่องนโยบายเกาหลีเหนือระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับรัฐมนตรีต่างประเทศครั้งนี้ เกิดขึ้นพร้อมๆ กับการที่คณะกรรมาธิการด้านการทหารแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้จัดสรรงบประมาณจำนวนกว่า 400 ล้านดอลลาร์ สำหรับการพัฒนาระบบต่อต้านขีปนาวุธเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากคำขู่ของฝั่งเกาหลีเหนือ หลังจากที่จิม แมตทิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ  ได้ยื่นของบประมาณกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณที่จะเริ่มในเดือนตุลาคมนี้

พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้ออกมาสนับสนุนความพยายามในการใช้วิธีทางการทูตของนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ในการแก้ปัญหาวิกฤตินิวเคลียร์เกาหลีเหนือ แม้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะออกมากล่าวก่อนหน้านี้ก็ตามว่า ความพยายามดังกล่าวเป็นเรื่องที่ “เสียเวลา"

โดย จิม แมททิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความคิดเห็นไม่ตรงกันในเรื่องนโยบายเกาหลีเหนือ อันเนื่องมาจากความไม่สงบบนคาบสมุทรเกาหลี

"ผมมองไม่เห็นความไม่สอดคล้องที่ชัดเจนมากอย่างที่บางคนได้ตีความไว้" นายแมททิสชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการด้านอาวุธของวุฒิสภา โดยถ้อยแถลงล่าสุดจากรมว.กลาโหมสหรัฐมีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐได้ส่งสัญญาณที่ไม่เป็นไปในทางเดียวกันเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ

นายแมททิสได้ระบุถึงคำพูดของรมว.ต่างประเทศที่ว่า สหรัฐกำลัง "เสาะหา" โอกาสในการหารือกับเกาหลีเหนือเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ โดยนายแมททิสกล่าวว่า "เราเพียงแค่เสาะหาเท่านั้น ยังไม่ได้พูดคุยกับเกาหลีเหนือจริงๆ ซึ่งสอดคล้องกับที่ท่านประธานาธิบดีได้กล่าวไว้ว่า สหรัฐไม่ควรเจรจากับเกาหลีเหนือในเวลาที่ยังไม่สมควร หากฝั่งเกาหลีเหนือยังไม่ต้องการเจรจา"

ทั้งนี้ รมว.กลาโหมเปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์ได้สั่งการให้ตนและรมว.ต่างประเทศใช้ "วิธีการทางการทูต" ในการจัดการกับประเด็นนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการคว่ำบาตรร่วมกับจีน เพื่อกดดันให้เกาหลีเหนือเลิกพฤติกรรมยั่วยุ

นอกจากนี้ รมว.กลาโหมเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐยังพิจารณาตัวเลือกทั้งหมด รวมถึงการใช้กำลังทหาร ในการจัดการกับเกาหลีเหนือ

ต่อมาในช่วงเย็นของวันที่ 3 ตุลาคม นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ออกมากล่าวว่า เขาไม่เคยคิดที่จะลาออกจากตำแหน่ง และยังคงยึดมั่นตามเป้าหมายนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

"ผมไม่เคยคิดที่จะลาออก ผมเข้ามาจากการแต่งตั้งของท่านประธานาธิบดี และผมจะยังอยู่ที่นี่ ตราบใดที่ท่านประธานาธิบดีรู้สึกว่าผมยังคงมีประโยชน์ในการบรรลุเป้าหมายของท่าน" นายทิลเลอร์สันกล่าว

คำกล่าวของนายทิลเลอร์สันมีขึ้น หลังจากที่สื่อรายงานว่า นายทิลเลอร์สันเกือบจะตัดสินใจลาออกในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่ก็มีผู้ขอร้องให้เขาอยู่ต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้ และสื่อยังรายงานว่า นายทิลเลอร์สันเคยกล่าวถึงปธน.ทรัมป์ว่าเป็นคนปัญญาอ่อนในเดือนกรกฎาคม หลังการประชุมกับเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีทรัมป์

ต่อข้อถามที่ว่า นายทิลเลอร์สันเคยเรียกประธานาธิบดีทรัมป์ว่าเป็นคนปัญญาอ่อนหรือไม่ นายทิลเลอร์สันไม่ได้ปฏิเสธโดยตรง แต่กล่าวว่า "ผมจะไม่มาเสียเวลากับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ ผมจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างความแตกแยกในรัฐบาล”.