ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 29 ก.ย.หลังจากที่เกิดฝนตกหนักในพื้นที่หลายอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะอำเภอที่อยู่ในเขตที่ราบเชิงเขา อาทิ อ.นบพิตำ ลานสกา พิปูน พรหมคีรี ท่าศาลาและ อ.สิชล ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาหลวงนครศรีธรรมราชมีสีขุ่นแดงไหลทะลักลงสู่เบื้องล่างอย่างรุนแรงและน่ากลัว จนเจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังคอยติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดทั้งคืน

โดยในพื้นที่ ต.นบพิตำ และ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ น้ำป่าได้ไหลทะลักจากเทือกเขาหลวงนครศรีธรรมราชอย่างต่อเนื่องและรุนแรง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองที่รับน้ำจากเทือกเขาหลวงเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกัดท่วมถนนและคอสะพานจนรถไม่สามารถผ่านไปมาได้หลายจุด โดยเฉพาะสะพานคลองลำวังเขาเหล็ก ใกล้วัดถ้ำเขาเหล็ก ต.กรุงชิง ซึ่งเป็นสะพานที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมน้ำป่าทะลักเมื่อต้นปี 2560 อยู่ระหว่างการซ่อมแซมและใช้ทางเบี่ยงน้ำป่าทะลักท่วมทางเบี่ยงจนรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านได้ร่วมกันออกตรวจสอบสถานการณ์และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกหนักบนภูเขาติดต่อกันหลายวัน ทำให้ดินและป่าบนเทือกเขาอุ้มน้ำต่อไปไม่ไหว จึงไหลทะลักลงสู่เบื้องล่างอย่างรุนแรง น้ำสีแดงขุ่น บ่งบอกถึงความเสี่ยงที่ดินภูเขาจะถล่มซ้ำลงมาสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ด้านล่างได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามในช่วงเวลา 22.00 น.คืนที่ผ่านมา (29 ก.ย.) ฝนที่ตกหนักได้หยุดตกทำให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย น้ำป่าลดน้อยลง ในขณะที่น้ำที่ท่วมทางเบี่ยงสะพานลำวัง-เขาเหล็ก จนรถไม่สามารถผ่านไปมาได้ในช่วงหัวค่ำระดับน้ำได้ลดลงจนรถสามารถวิ่งผ่านไปมาได้ตามปกติ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และหากฝนตกซ้ำลงมาอีกสถานการณ์ก็จะกลับเข้าสู่ขั้นวิกฤติได้ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่งจึงเฝ้าติดตามสถานการณ์ในบริเวณดังกล่าวอย่างใกล้ชิด.