ตัวเลขของผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสามชนิด คือหนองในเทียม (chlamydia) หนองใน (gonorrhea) และซิฟิลิส ในปี 2016 เพิ่มสูงสร้างสถิติใหม่ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ด้วยจำนวนผู้ป่วยมากถึงกว่าสองล้านคน โดยสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ บอกว่าตัวเลขของผู้ติดเชื้อทั้งสามโรค เพิ่มต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2014 หลังจากที่เคยลดลงต่อเนื่องกันหลายปี

ข้อมูลของสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคติดต่อฯ บอกด้วยว่า ปัญหาหลักที่ทำให้ปริมาณผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศเพิ่มขึ้นคือมีการใช้ถุงยางอนามัยลดน้อยลง ขาดการให้ข้อมูลกับกลุ่มเสี่ยง และปริมาณของคลินิคโรคติดต่อทางเพศ ที่ลดจำนวนลง

“โรคติดต่อทางเพศ เป็นศัตรูที่ปราบยาก หากเราเผลอเมื่อไหร่ ตัวเลขก็จะเพิ่มขึ้นทันที” ดร.โจนาธาน เมอร์มิน ผอ.ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าว

กับการเพิ่มขึ้นของผู้หญิงที่ติดเชื้อซิฟิลิส ส่งผลต่อเนื่องให้จำนวนทารกที่พิการเพราะติดเชื้อโรคตั้งแต่อยู่ในครรภ์เพิ่มขึ้นด้วย โดยในปี 2016 มีทารกแรกคลอดประเภทนี้มากถึง 632 คน หรือสองเท่าเมื่อเทียบกับปี 2012 โดยรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นรัฐที่มีจำนวนทารกติดเชื้อซิฟิลิสจากมารดามากเป็นอันดับสองของประเทศ กล่าวคือมีมากถึง 206 รายในปี 2016 เทียบกับปี 2012 ที่มีเพียง 35 รายเท่านั้น

ข่าวบอกด้วยว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งสามชนิด เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่หากปล่อยปละละเลยก็จะเป็นอันตรายร้ายแรง อีกทั้งผู้ติดเชื้อบางรายจะไม่แสดงอาการ หรือใช้เวลานานก่อนที่อาการของโรคจะปรากฎ ทำให้มีโอกาสที่จะแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นได้ง่าย

นอกจากนี้ ผู้บริหารของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อฯ ยังแสดงความเป็นห่วงด้วยว่า การแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ อาจมีส่วนมาจากการดื้อยาของเชื้อโรค เพราะปัจจุบันนี้ ยาปฏิชีวนะหลายตัว ซึ่งเคยได้ได้ผลในการรักษาโรคประเภทนี้ กลับไม่สามารถใช้ได้แล้ว และหากอาการดื้อยายังคงเกิดขึ้น ก็ถือเป็นเรื่องน่าห่วง เพราะขณะนี้ ยังไม่มียาปฏิชีวนะชนิดใหม่ๆ สำหรับรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เลย.