สัปดาห์ที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยโทมัส แอนด์ โดโรธี ลีวี แห่งมหาวิทยาลัย โลโยล่า แมรีเมาท์ ได้ประกาศผลสำรวจความเห็นประชาชนในลอส แอนเจลิ เคาน์ตี ถึงความเห็นในกรณีที่นายกเทศมนตรี อีริค การ์เซ็ตติ อาจจะประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในนามพรรคเดโมแครต ในการเลืกตั้งปี 2020

“อย่างน้อยก็ในบ้านของเขา ผลการสำรวจระบุว่า นายกเทศมนตรี การ์เซ็ตติ ได้รับการสนับสนุนแบบเต็มที่หากเขาจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี” เฟอร์นานโด้ กัวร์ร่า ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยฯ กล่าว

ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยฯ บอกด้วยว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าความนิยมในตัวของนายกเทศมนตรีเมืองแอลเอ เป็นอย่างไรบ้างนอกเขตดูแลของเขา แต่อย่างน้อยผลการสำรวจครั้งนี้ก็บอกได้ว่า ชาวแอลเอ สนับสนุนเขาเต็มที่

อีริค การ์เซ็ตติ ถือเป็นนักการเมืองรุ่นหนุ่มที่เป็น “ดาวรุ่ง” ของพรรคเดโมแครต อีกทั้งมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนักการเมืองระดับผู้นำของพรรคเป็นจำนวนมาก โดยทั้งผลงานและท่าทีต่อเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้บรรดานักวิเคราะห์และผู้สังเกตการการเมือง มองว่า เป็นการ “ปูทาง” ไปสู่การประกาศตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2020 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสค่อนข้างแรงว่า อีริค การ์เซ็ตติ จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ในป 2018  โดยที่ผ่านมา นายกเทศมนตรีของนครลอส แอนเจลิส ยังไม่เคยตอบรับหรือตอบปฏิเสธคำถามว่า เขาจะลงสนามเลือกตั้งทั้งสองตำแหน่งหรือไม่ แต่อย่างใด

ทั้งนี้ ผลการสำรวจความเห็นประชาชนของ ศูนย์วิจัยโทมัส แอนด์ โดโรธี ลีวี พบว่า 63 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มสำรวจจำนวน 914 คนบอกว่าสนับสนุนให้ อีริค การ์เซ็ตติ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ

โดยเสียงสนับสนุนส่วนใหญ่ มาจากกลุ่มประชกรเชื้อสายลาติโน่ (73 เปอร์เซ็นต์), เป็นคนหนุ่มสาว อายุระหว่าง 30-44 ปี (69 เปอร์เซ็นต์), มีรายได้น้อยกว่า 40,000 ดอลลาร์ต่อปี (74 เปอร์เซ็นต์) กระทั่งเสียงส่วนใหญ่ของกลุ่มที่ระบุว่าเป็น “อนุรักษ์นิยม” (51 เปอร์เซ็นต์) ก็ยังสนับสนุนให้นายกเทศมนตรีของเมืองแอลเอ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี

ส่วนกลุ่มที่แสดงความเห็นว่าจะไม่สนับสนุน อีริค การ์เซ็ตติ นั้น ส่วนใหญ่คือผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือมีรายได้สูงกว่า 100,000 ดอลลาร์ต่อปี .