เมื่อเย็นวันพุธที่ 13 กันยายน 2017 บรรดานักการเมืองสังกัดพรรคเดโมแครตในรัฐสภา นำโดยนางแนนซี่ พิโลซี่ ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร (สภาล่าง) และนายชาร์ลส์ อี ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในรัฐสภา (สภาสูง) ร่วมกันแถลงข่าวถึงการบรรลุข้อตกลงกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถึงการออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองเยาวชนในโปรแกรม DACA ซึ่งมีจำนวนประมาณ 800,000 คน ให้สามารถอยู่ในประเทศอเมริกาต่อไปโดยไม่ต้องหวาดระแวงว่าจะถูกเนรเทศ หลังโปรแกรม DACA ถูกยกเลิกในเดือนมีนาคม ศกหน้า อีกทั้งจะให้สิทธิเยาวชนกลุ่มนี้ในการปรับเปลี่ยนสถานภาพให้ถูกต้อง อีกด้วย

โดยข้อตกลงดังกล่าวนี้ มีการแถลงหลังจากนักการเมืองทั้งสองฝ่าย ร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นด้วยกันในทำเนียบขาว โดยข่าวบอกว่าเป็นอาหารจีน

โดยข้อตกลงที่มีการประกาศออกมาแบบ “เซอร์ไพรซ์” ครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะมาจากข้อตกลงระหว่างสองพรรค เกี่ยวกับการลงมติเห็นชอบกับมาตรการปรับเพิ่มเพดานหนี้ และอนุมัติงบประมาณชั่วคราวระยะ 3 เดือนสำหรับรัฐบาลในการบริหารประเทศจนถึงวันที่ 8 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ก่อนที่รัฐบาลจะเผชิญกับภาวะขาดแคลนงบประมาณและจำเป็นต้องยุติการทำงานขององค์กรรัฐทั่วประเทศ โดยมาตรการดังกล่าวนั้นผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร ด้วยคะแนนเสียง 316-90 เสียงเมื่อวันศุกร์ที่ 8 กันยายน หลังจากที่วุฒิสภาให้การอนุมัติแบบท่วมท้นไปก่อนหน้านั้นเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 7 กันยายน

โดยผู้นำของเดโมแครตจากทั้งสองสภา ออกแถลงการร่วมกันระบุว่า ข้อตกลงกับประธานาธิบดีทรัมป์ดังกล่าว จะส่งผลให้บรรดา “ดรีมเมอร์” หรือกลุ่มผู้เข้าประเทศแบบผิดกฎหมายตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และได้รับการพิจารณาให้ได้รับการคุ้มครองและได้รับสวัสดิการตามโปรแกรม DAGA แล้ว จะมีสิทธิปรับสถานภาพให้สามารถอยู่อย่างถูกกฎหมายในอเมริกาเป็นการถาวรต่อไปด้วย

แถลงการณ์ดังกล่าวบอกด้วยว่า ข้อตกลงดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเสริมความเข็มแข็งตามแนวชายแดนของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการต่อต้านโดยสมาชิกพรรคเดโมแครตอย่างแข็งขัน แต่แถลงการณ์ของพรรคเดโมแครต ไม่ระบุรายละเอียดว่าทางพรรคจะ “อ่อนโอน” ให้กับมาตรการเสริมความเข้มแข็งตามแนวชายแดน อย่างไร

อย่างไรก็ดี แถลงการณ์บอกชัดเจนว่า ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวนี้ ไม่รวมถึงการสร้างกำแพงตลอดแนวพรมแดนแม็กซิโก โดยผู้นำเดโมแครตจากทั้งสองสภาแถลงชัดเจนว่า จะยังคงต่อต้านเรื่องนี้ต่อไป

หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวดังกล่าว บรรดาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังทำเนียบขาวเพื่อขอคำยืนยันถึงข้อตกลงเรื่องการให้ความคุ้มครองบรรดา “ดรีมเมอร์” ทั้ง 800,000 คนให้ได้รับสถานภาพที่ถูกต้อง แต่ยังไม่ได้รับคำตอบจากทำเนียบขาว

ทั้งนี้ โปรแกรม DAGA (the Deferred Action for Childhood Arrivals -DACA) คือโครงการคุ้มครองเยาวชนซึ่งเดินทางเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมายระหว่างช่วงอายุ 6-16 ปี ด้วยการให้สถานภาพที่ถูกต้องเป็นการชั่วคราว สามารถเข้ารับการศึกษาเล่าเรียน มีใบอนุญาตทำงาน ใบขับขี่ ฯลฯ ซึ่งโครงการดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2012 ในสมัยของประธานาธิบดีบารัก โอบามา แต่เนื่องจากเป็นโครงการที่อดีตประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า ใช้อำนาจบริหารสูงสุดของประธานาธิบดี (executive action) โดยไม่ผ่านกระบวนการของรัฐสภา ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สามารถใช้ตำแหน่งหน้าที่ของเขาตัวเองในการยกเลิกโครงการนี้ได้

ทั้งนี้ เจฟฟ์ เซสชันส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมาว่าจะยกเลิกโครงการ DACA ภายในวันที่  5 มีนาคม 2018 และว่ารัฐสภา จะพยายามหา “มาตรการจัดระเบียบใหม่” ตามกรอบของกฎหมาย เพื่อดูแลเยาวชนในโครงการนี้ทั้ง 800,000 คนก่อนที่โครงการจะหมดอายุ.