อเมริกาและแคลิฟอร์เนีย
ย้อนรำลึก 16 ปี เหตุการณ์ 9/11 โศกนาฏกรรมเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์

หากย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ในวันที่ 11 กันยายน 2544 เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจำได้ดีกับเหตุการณ์ 9/11 โศกนาฏกรรมตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ซึ่งนับว่าเป็นเป็นวันแห่งความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติเลยทีเดียว ในช่วงเช้าตามเวลาท้องถิ่นในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในขณะที่ทุกคนกำลังเริ่มต้นวันใหม่ ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าในไม่อีกกี่นาทีหรือชั่วโมงข้างหน้า จะเกิดโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ที่ทั่วโลกไม่วันลืมขึ้น และจนถึงวันนี้แม้ว่าวันเวลาจะผ่านล่วงเลยมานานกว่า 16 ปีแล้ว แต่ทั่วโลกก็ยังจดจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้อย่างชัดเจน และในวันนี้เราจะพาไปย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นกัน

ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์คืออะไร ?
ย้อนรำลึก 14 ปี เหตุการณ์ 9/11 โศกนาฏกรรมเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
            เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (World Trade Center) เป็นกลุ่มอาคารจำนวน 7 อาคารในนครนิวยอร์ก ออกแบบโดยสถาปนิกลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน นามว่า มิโนรุ ยามาซากิ ก่อสร้างขึ้นในปี 2509 แล้วเสร็จในปี 2520 อาคารแห่งนี้เป็นอาคารศูนย์กลางการเงิน ธนาคาร ธุรกิจการค้า ห้างสรรพสินค้าและชุมชนขนาดใหญ่ ประกอบด้วยอาคาร 7 อาคาร ได้แก่ เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1-7 อาคารที่สูงที่สุดคืออาคารแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1 และ 2 โดยอาคาร 1 มีความสูงราว 527 เมตร ส่วนอาคาร 2 มีความสูงราว 415 เมตร

9/11 โศกนาฏกรรมถล่มตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 
           เวลา 08.46 น. เครื่องบินโดยสารของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 11 จากบอสตันสู่ลอสแอนเจลิส ถูกโจร 5 รายจี้เครื่องบิน และบังคับเครื่องให้พุ่งเข้าชนกับตึกแฝดด้านเหนือของเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ และต่อมาเวลา 09.03 น. โจรอีก 5 รายก่อเหตุจี้เครื่องบินโดยสารของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 175 จากบอสตันสู่ลอสแอนเจลิสเช่นกัน และบังคับเครื่องให้พุ่งชนเข้ากับตึกแฝดด้านใต้
            การพุ่งชนของเครื่องบินทั้งสองลำก่อให้เกิดระเบิดขนาดใหญ่ และทำให้อาคารทั้งสองถล่มลงมา โดยอาคารแฝดด้านใต้ถล่มหลังจากถูกชน 1 ชั่วโมงเศษ และอาคารแฝดด้านเหนือถล่มลงมาหลังจากนั้น 45 นาที 
           นอกจากที่เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์แล้ว ยังมีการจี้เครื่องบินอีกสองลำ ได้แก่ เครื่องบินโดยสารของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 77 ซึ่งคนร้ายบังคับมันให้พุ่งชนอาคารเพนตากอน (กระทรวงกลาโหม) ในเวลา 09.37 น. ส่วนอีกลำหนึ่งคือเครื่องบินโดยสารของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 93 ซึ่งตกลงในทุ่งใกล้กับแชงค์วิลล์ รัฐเพนซิลเวเนีย

ความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
             มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 2,996 คนจากเหตุวินาศกรรมครั้งนี้ ประกอบด้วยโจรจี้เครื่องบิน 19 คน และเหยื่อ 2,977 คน โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารบนเครื่องบินจำนวน 246 คน ซึ่งไม่มีผู้รอดชีวิตเลยแม้แต่รายเดียว เหยื่อ 2,606 คนในนิวยอร์ก และ 125 คนที่เพนตากอน โดยในจำนวนนั้นมีทหาร 55 นาย
           นอกจากผู้เสียชีวิตในเหตุวินาศกรรม ยังมีผู้เสียสละชีวิตจากการกู้ภัยอีกจำนวนมาก ได้แก่ นักผจญเพลิงของนครนิวยอร์ก 343 นาย ตำรวจนครนิวยอร์ก 23 นาย ตำรวจการท่าเรือของนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ 37 นาย และผู้สูญหายอีก 24 คน

ผู้อยู่เบื้องหลังวินาศกรรมช็อกโลก
            หลังเกิดเหตุวินาศกรรม มีการพุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายอัลกออิดะห์อย่างรวดเร็ว โดย อุซามะห์ บิน ลาดิน ผู้นำกลุ่ม ได้บอกปฏิเสธความเกี่ยวข้องในตอนแรก แต่สุดท้ายก็ยอมรับและอ้างความรับผิดชอบในเหตุวินาศกรรมดังกล่าวในปี 2547 โดยบอกเหตุผลจูงใจในการก่อเหตุว่า สหรัฐอเมริกาให้การสนับสนุนอิสราเอลและการให้ทหารสหรัฐฯ ประจำการในซาอุดีอาระเบีย 
            หลังจากนั้นรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ตอบโต้กลุ่มผู้ก่อการร้าย โดยเริ่มสงครามต่อต้านการก่อการร้าย (War on Terror) กวาดล้างและขับไล่รัฐบาลตอลิบานที่ให้การสนับสนุนกลุ่มอัลกออิดะห์ จนกระทั่งในเดือนพฤษภาคม ปี 2554 บิน ลาดิน ก็ถูกพบตัวและถูกสังหาร

ตึกวันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และร่องรอยความทรงจำ 
            มีการสร้างอาคารขึ้นใหม่ทางด้านเหนือของบริเวณตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เดิม และตั้งชื่อว่า "วันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์" (1 World Trade Center) โดยมีชื่อเรียกเดิมว่า "ฟรีดอมทาวเวอร์"  มีความสูงราว 541 เมตร เริ่มสร้างเมื่อปี 2549 แล้วเสร็จเมื่อปี 2557 ส่วนบนซากปรักหักพังเดิมก็ถูกทำความสะอาดและสร้างหออนุสรณ์สถานแห่งชาติ ที่เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับระลึกถึงโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ของอเมริกันชน 

การรำลึกถึงโศกนาฏกรรม
            เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหล่าผู้เสียชีวิตในเหตุโศกนาฏกรรม และเพื่อเป็นการส่งดวงวิญญาณของพวกเขาเหล่านั้นไปสู่สุคติในสัมปรายภพ ทางเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์จึงจัดให้มีการฉายแสงบริเวณบ่อน้ำอนุสรณ์รำลึก ซึ่งเคยเป็นที่ที่ตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เคยตั้งอยู่  ผู้รอดชีวิตบางส่วนจากเหตุก่อการร้ายครั้งนั้น ได้นำสิ่งของที่ตนสวมใส่เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 มาบริจาคให้กับหออนุสรณ์สถานแห่งชาติด้วย
              เฟร็ด เซโกร นำรองเท้าหนังคู่เก่งที่เขาสวมในวันเกิดเหตุมาบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์หออนุสรณ์แห่งชาติ เพื่อเป็นตัวแทนของความกล้าหาญและเสียสละที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ในช่วงเวลาโกลาหล ซึ่งขณะเกิดเหตุ เฟร็ดได้ถอดรองเท้าคู่นี้เพื่อมอบให้กับ จูลี่ หญิงตั้งครรภ์ที่พบเจอกันตอนเกิดเหตุร้าย เพื่อให้เธอสามารถเดินได้สะดวกและไม่เป็นอันตรายต่อเด็กในท้อง
              เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2558 เวลาประมาณ 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของนครนิวยอร์ก มีฝนตกประปรายและเกิดปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำที่บริเวณตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์พอดิบพอดี บังเกิดเป็นภาพสุดอัศจรรย์ ราวกับว่ารุ้งกินน้ำที่ปรากฏขึ้นมานี้เป็นตัวแทนแห่งความสุขและความหวังใหม่อีกครั้งให้กับเหล่าอเมริกันชนและผู้คนทั่วโลกที่ยังคงไม่ลืมเลือนเหตุการณ์แห่งโศกนาฏกรรม 9/11


(Photo / Thesleuthjournal.com)




(Photo / Visionarski.wordpress.com)




(Photo / NYCurbed.com)



 




นำเสนอข่าวโดย : ทีมข่าว สยามทาวน์ยูเอส,
แหล่งที่มาข่าวโดย : กระปุกดอทคอม

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
599
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข