อเมริกาและแคลิฟอร์เนีย
‘เท็กซัส’เดือดร้อนหนัก หลังเจอ’ฮาร์วี่ย์’พัดถล่ม








แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : พายุฮาร์วีย์ สร้างความเสียหายทางทรัพย์สินและเศรษฐกิจสูงถึง 42,000 ล้านดอลลาร์ และอาจเป็นพายุที่สร้างความเสียหายติด 1 ใน 5 อันดับสูงสุดของสหรัฐฯ


เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2017 พลตรีเจมส์ ซี วิทธัม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภายในประเทศของกองกำลังรักษาดินแดน แถลงว่า ได้สั่งระดมกำลังพล 30,000 นายทั่วประเทศ และอาจขอเรือโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก มาช่วยภารกิจกู้ภัย นอกเหนือจากเฮลิคอปเตอร์ 30 ลำ ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในรัฐเท็กซัส และยังต้องการเพิ่มอีก 24 ลำ แต่อาจเพิ่มเป็น 100 ลำ ในไม่กี่วันข้างหน้า เนื่องจากเป็นภารกิจระยะยาว เพราะสิ่งที่เผชิญคือผลพวงจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ ที่รุนแรงระดับ 4 และได้ชื่อว่าทรงพลังที่สุดในรอบ 12 ปี”

ทั้งนี้ พายุฮาร์วีย์ สร้างสถิติทำให้มีฝนตกปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 51.88 นิ้วในช่องแคบซีดาร์ บายู และบริษัทวิจัย เอนกิ ที่ประเมินความเสียหายภัยพิบัติ คาดว่า พายุฮาร์วีย์จะสร้างความเสียหายทางทรัพย์สินและเศรษฐกิจสูงถึง 42,000 ล้านดอลลาร์ และอาจเป็นพายุที่สร้างความเสียหายติด 1 ใน 5 อันดับสูงสุดของสหรัฐฯด้านนายกเทศมนตรีเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัสต้องประกาศใช้เคอร์ฟิว ห้ามคนออกนอกบ้านตั้งแต่ 24.00 น.- 5.00 น. หลังมีปัญหาปล้นสะดมในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม

ด้านสำนักงานตำรวจในเมืองฮุสตัน ระบุว่า จะไม่อดทนต่อการฉวยโอกาสก่ออาชญากรรมใดๆ ในช่วงภัยพิบัติ และจับกุมผู้กระทำผิดฐานปล้นสะดมภ์แล้ว 14 คน นับตั้งแต่วันอาทิตย์ โดยคนเหล่านี้จะต้องเผชิญโทษรุนแรงตามกฎหมายของรัฐ ซึ่งโทษจำคุกของการบุกรุกเคหะสถานมีตั้งแต่ 2-20 ปี แต่ถ้าเป็นการฉวยโอกาสในช่วงที่เกิดภัยพิบัติจะเพิ่มเป็นจำคุก 5 ปี ถึงตลอดชีวิตแต่ไม่ใช่แค่มิจฉาชีพที่ฉวยโอกาส

ช่วงภัยพิบัติ ราคาที่พักตามโรงแรมพุ่งตามไปด้วย โรงแรมบางแห่งปรับราคาขึ้นเกือบ 3 เท่า จากคืนละ 120-149 ดอลลาร์ เป็น 321 ดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังมีเสียงร้องเรียนเรื่องสินค้าราคาแพงเกินเหตุ เช่น แก๊สแกลลอนละ 10 ดอลลาร์ และน้ำดื่มบรรจุขวดหนึ่งแพ็คราคา 99 ดอลลาร์ ซึ่งอัยการรัฐเท็กซัส ระบุว่า มีบทลงโทษสำหรับผู้ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในยามวิกฤตด้วย

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองคอร์ปุส คริสตี และเมืองออสตินในรัฐเท็กซัสเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม โดยพายุฮาร์วีย์ เป็นภัยพิบัติธรรมชาติครั้งใหญ่ครั้งแรกที่เขาต้องรับมือหลังรับตำแหน่งเมื่อต้นปี และเขาแสดงความชื่นชมเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางในการรับมือภัยพิบัติ

นอกจากนี้ อิทธิพลของพายุฮาร์วีย์ยังคงสร้างความเสียหายในรัฐเท็กซัส และหลุยเซียนา อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมพลังงาน สืบเนื่องจากสหรัฐต้องระงับการกลั่นน้ำมันดิบในสองรัฐดังกล่าว คิดเป็นปริมาณ 3.6 ล้านบาร์เรล/วัน หรือเกือบ 1 ใน 5 ของปริมาณการกลั่นน้ำมันทั้งประเทศ

ข่าวบอกว่าผลพวงจากการที่โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งของสหรัฐได้ปิดการทำงานชั่วคราว ทำให้อุปทานน้ำมันเบนซิน ดีเซล และเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน ที่ส่งผ่านระบบท่อส่งต่างๆ ในสหรัฐมีปริมาณลดน้อยลง นอกจากนี้ สหรัฐยังเตรียมที่จะปิดท่อส่งน้ำมันในระบบท่อส่ง “เอ็กซ์พลอเรอร์ ไปป์ไลน์” จากรัฐเท็กซัสไปยังชิคาโกจำนวน 2 เส้น

นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า หากสถานการณ์น้ำท่วมในสองรัฐดังกล่าวทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น อาจทำให้สหรัฐจำเป็นต้องปิดการทำงานของโรงกลั่นน้ำมันเพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้นอีก หลังจากที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบนซินได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่าสองปีก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ รัฐที่ตั้งอยู่ริมอ่าวเม็กซิโก ซึ่งประกอบด้วยรัฐเท็กซัส หลุยเซียนา มิสซิสซิปปี อลาบามา และฟลอริดานั้น มีปริมาณการกลั่นน้ำมันคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศ โดยที่รัฐเท็กซิสมีการกลั่นน้ำมันเฉลี่ย 5.6 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่รัฐลุยเซียนามีปริมาณการผลิตที่ 3.3 ล้านบาร์เรล/วัน
…..


 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
599
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข