สัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานเชอรีฟของแอลเอเคาน์ตี ได้แจ้งถึงชาวไทยในนครลอส แอนเจลิส ผ่านทางหนังสือพิมพ์สยามทาวน์ยูเอส ว่าจะมีการตั้งด่านตรวจผู้ขับรถระหว่างมึนเมา หรือ DUI Checkpoint ในหลายๆ จุดทั่วเมืองลอส แอนเจลิส พร้อมๆ กับเพิ่มจุดซุ่มตรวจ (DUI Saturation Patrol) ตามแหล่งบันเทิงต่างๆ ในวันศุกร์ที่ 1 กันยายน 2017 ระหว่างเวลา 18.00 น. จนถึง 02.00 น. ของวันถัดไป
ในส่วนของการตั้งด่านตรวจ หรือ DUI CCheckpoint ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกบริเวณที่มีจำนวนอุบัติเหตุสูง หรือมีตัวเลขการจับกุมด้วยข้อหาขับรถขณะมึนเมาสูง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้กับบาร์ หรือแหล่งบันเทิงที่มีการจำหน่ายอัลกอฮอลล์นั้น เจ้าหน้าที่จะเรียกตรวจรถทุกคัน อาจมีการขอดูใบขับขี่หรือทะเบียนรถด้วย หากพบว่าคนขับมีอาการน่าสงสัยก็จะมีการตรวจระดับอัลกอฮอลล์ในเลือดต่อไป ซึ่งรถแต่ละคันจะใช้เวลาผ่านด่านตรวจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นอกจากนี้ เอกสารข่าวของสำนักงานเชอรีฟยังบอกด้วยว่า คำว่า DUI ไม่ได้หมายถึงการขับรถขณะมึนเมาสุราแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่รวมถึงการใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ (prescription drug) และกัญชาด้วย โดยให้เหตุผลว่าในปีที่ผ่านมา มีจำนวนอุบัติเหตุรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาตามใบสั่งแพทย์เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ดังนั้นทางสำนักงานเชอรีฟจึงทำเคมเปญ “DUI Doesn’t Just Mean Booze” ขึ้นมาเพื่อให้ข้อมูลกับประชาชน และเป็นการเตือนประชาชนว่าให้อ่านฉลากยาให้ละเอียด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดหากฉลากบอกว่าไม่ควรขับรถ เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ และอาจถูกตั้งข้อหา DUI ได้เช่นเดียวกับการดื่มสุรา
โดยโทษของผู้ที่ขับรถขณะมีอาการมึนเมานั้น อาจรวมถึงโทษจำคุก ปรับ ถูกยึดใบขับขี่ ต้องเข้าเรียน (DUI Classes) และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ซึ่งอาจรวมมูลค่าสูงถึง 10,000 ดอลลาร์
“ทุกคนควรรู้ตัวเสมอว่า ยาที่กินเข้าไปนั้น ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์หรือยาที่ซื้อตามเคาน์เตอร์ขายยาทั่วไป หากผสมกับอัลกอฮอลล์ แม้จะดื่มเพียงน้อยนิดก็ตาม ก็อาจทำให้มีผลข้างเคียงที่รุนแรงขึ้นทันที” เอกสารของสำนักงานเชอรีฟระบุ
ข้อมูลบอกด้วยว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของคนขับรถที่ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงในแคลิฟอร์เนีย มี “ยา” ชนิดใดชนิดหนึ่งอยู่ในร่างกาย
ในปี 2014 นั้น รัฐแคลิฟอร์เนีย มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับอัลกอฮอล์มากถึง 1,155 คน และบาดเจ็บร้ายแรงเกือบ 24,000 คน และเฉพาะในเขต แอลเอ เคาน์ตี ตลอดระยะสามปีที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับอัลกอฮอล์ 1,483 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 58 ราย และบาดเจ็บร้ายแรง 2,153 ราย
ทางสำนักงานเชอรีฟ ยังบอกด้วยว่า ผู้ที่นิยมดื่มทุกคนควรดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Designated Driver VIP หรือ DDVIP ซึ่งเป็นแอพฯ ไม่เสียเงิน ใส่โทรศัพท์มือถือเอาไว้ เพราะแอพพลิเคชั่นตัวนี้มีข้อมูลที่มีประโยชน์มากมาย เช่นชื่อและที่อยู่ของบาร์ หรือร้านอาหารที่มีบริการพิเศษสำหรับผู้ที่อาสาเป็นคนขับรถ (ไม่ดื่ม) เช่นมีเครื่องดื่ม (ไม่ผสมอัลกอฮอล์) หรือของว่างฟรี และอื่นๆ อีกมากมาย
และท้ายที่สุด เอกสารของสำนักงานเชอรีฟระบุว่า หากพบเห็นพฤติกรรมขับรถขณะมึนเมา ให้โทรแจ้ง 911 ทันที.