ระหว่างการกล่าวปราศรัยที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐอริโซนา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2017 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์กล่าวเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐและเม็กซิโก ของเขา และประกาศชัดเจนว่าเขาจะทำทุกอย่างให้งบประมาณก้อนนี้ผ่านสภา แม้จะต้องแลกมาด้วยการที่รัฐบาลต้องปิดการดำเนินงานก็ตาม
"ถ้าเราต้องปิดการดำเนินงานของรัฐบาล เราก็จะยังคงสร้างกำแพง" เขากล่าว
ขณะนี้ ปธน.ทรัมป์กำลังมีความขัดแย้งกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับการอนุมัติงบประมาณสำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก โดยถ้าหากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณชั่วคราวสำหรับการบริหารงานของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงงบในการสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโก ให้ประธานาธิบดีทรัมป์จะต้องลงนามเป็นกฎหมายภายในเส้นตายวันที่ 30 กันยายนนี้ หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐหลายแห่งก็ต้องปิดตัวลง เนื่องจากรัฐบาลขาดงบประมาณในการบริหารประเทศ
ขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตแสดงจุดยืนอย่างเปิดเผยว่า พวกเขาจะขัดขวางการอนุมัติงบประมาณซึ่งจะรวมถึงงบการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก
ทั้งนี้ ทรัมป์ได้ประกาศชัดเจนว่า หากสภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณสำหรับการบริหารงานของรัฐบาล แต่มีการตัดงบในการสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโก เขาก็จะทำการวีโต้ หรือเลือกที่จะไม่ลงนามในงบประมาณดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลให้หน่วยงานรัฐบาลต้องชัตดาวน์ หรือปิดการดำเนินงาน เนื่องจากขาดงบประมาณ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังกล่าวว่า เขาไม่มั่นใจว่าสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาแก้ไขข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) กับแคนาดา และเม็กซิโก ได้
"โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถบรรลุข้อตกลง ผมคิดว่าในที่สุดแล้ว เราอาจลงเอยด้วยการยกเลิกข้อตกลง NAFTA" เขากล่าว
หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ ได้แสดงท่าทีออกมาเช่นนั้น ข่าวบอกว่าส่งผลให้ดัชนีดาวโจนร่วงลงทันที หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้ ทั้งนี้เพราะบรรดานักลงทุนมีความกังวลต่อคำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่บอกว่าจะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดการดำเนินงาน ถ้าหากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ในช่วงบ่ายของวันที่ 23 สิงหาคม อยู่ที่ 21,816.19 จุด ลดลง 83.70 จุด หรือ 0.38 เปอร์เซ็นต์ หลังจากพุ่งขึ้นเกือบ 200 จุดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ทำสถิติปรับตัวดีที่สุดในรอบ 4 เดือน หลังจากที่นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวแสดงความหวังเกี่ยวกับการปฏิรูปภาษี.