จากการที่งานสยามทาน์ยูเอสเราได้ลงพื้นที่จริง สอบถามเจ้าหน้าที่เชอรีฟ พบว่าช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่มีโอกาสปฎิบัติการกู้น่าจะเป็นช่วงเช้าตรู่ (ยังไม่ยืนยันจากหน่วยงาน) เนื
นอกเหนือจากนี้ทางสยามทาวน์ยูเอสได้มีโอกาสสอบถามกับคนในพื้นที่ ที่ทำงานมากว่า 25 ปีในบริเวณใกล้เคียงกับอุทยาน โดยกล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับนักศึกษาไทย อาจจะสามารถกู้รถขึ้นมาได้นานกว่าเคสอื่น แต่ถ้าเทียบเป็นภูมิอากาศและปริมาณน้ำเมื่อปีที่แล้วนั้น จะสามารถกู้รถและร่างขึ้นมาได้เร็วกว่าปัจจุบัน
เนื่องจากวิกฤตภัยแล้งที่แคลิฟอร์เนียประสบปัญหาหนักมากว่า 5 ปี นับจากปี 2011 - 2016 ทำให้แน่นอนว่าระดับน้ำมีปริมาณต่ำมากในช่วงนั้น แต่หลังจากพ้นปี 2016 เข้าปี 2017 มาแล้วนายเจอรี่ บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียก็ได้ประกาศว่าวิกฤภัยแล้งของแคลิฟฯได้หมดลงแล้วตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2017 ที่ผ่าน เพราะมีฝนตกและพายุช่วง 2 เดือนแรกของปี 2017 ทำให้ปริมาณระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ อีกทั้งมีหิมะที่ละลายจากภูเขาสูงไหลลงสู่แม่น้ำอีก ทำให้การกู้ภัยนักศึกษาไทยต้องช้าลงตามไปด้วย
โดยคนในพื้นที่ให้จับตาดูสภาพอากาศสุดสัปดาห์นี้ที่อาจเกิดพายุฝนฟ้าคะนองได้ในวันอาทิตย์ แต่ก็ความเป็นไปได้ยังไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ซึ่งทราบกันดีว่าจะมีผลอะไรตามมา ขอภาวนาให้ผ่านสุดสัปดาห์นี้ไปได้ด้วยดี 🙏🏻
-----------
ด้านล่างนี้คือข่าวที่ทางสยามทาวน์ยูเอสเคยนำเสนอ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แคลิฟอร์เนียพ้น “ภัยแล้ง” ฉบับที่ 334 ปี 2016
หลังจากที่ได้รับปริมาณน้ำฝนมากเป็นประวัติการณ์จากพายุฝนหลายลูกที่พัดผ่านเข้ามา ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย พ้นจากสภาพ “วิกฤติภัยแล้ง” อันเกิดจากความแห้งแล้งต่อเนื่องมานานกว่าห้าปี
จากรายงานการเฝ้าติดตามสภาพแห้งแล้ง (U.S. Drought Monitor report) ฉบับล่าสุด พบว่ารัฐแคลิฟอร์เนีย ยังคงมีพื้นที่เพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ยังอยู่ในสภาพแห้งแล้ง จากเดิมที่มีมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และความแห้งแล้งในพื้นที่ที่เหลือนี้ ไม่ถึงขั้นที่เรียกว่ารุนแรง (extreme) อีกต่อไป
พื้นที่ที่ยังแห้งแล้งบางส่วนอยู่ใน ซานตา บาร์บาร่า และแวนทูร่า เคาน์ตี แต่ระดับน้ำในทะเลสาปคาชูม่า (Cachuma lake) ที่เคยลดต่ำจนน่ากลัวนั้น ในวันนี้มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นมาถึง 31 ฟุต
อย่างไรก็ตาม การผ่านพ้นวิกฤติภัยแล้ง ที่รุนแรงถึงขั้นที่ทุกเมืองต้องออกเทศบัญญัติควบคุมการใช้น้ำของประชาชน ในช่วงที่ผ่านมานั้น ต้องแลกกับความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล เพราะพายุฝนที่กระหน่ำอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่ ก่อให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน โคลนถล่ม ฯลฯ จนรัฐบาลกลางต้องประกาศสภาวะฉุกเฉินในเกือบทุกเคาน์ตี เพื่อให้หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น.