ต่อจากนั้นยังได้กล่าวถึงความเชื่อที่น้องมินมาเข้าฝันเพื่อนของน้องที่ชื่อมิวว่า มินบอกกับเพื่อนว่ามินยังมีชีวิตอยู่ 3 วันแรก แต่มีอาการบาดเจ็บ กระดูกหักหลังหมดสติ แต่พยายามที่จะออกจากรถแล้วแต่สู้ไม่ไหวจริงๆ จากนั้นได้มาให้เพื่อนเห็นแล้วบอกับเพื่อนว่ามินหนาวมาก

จากนั้นประเด็นเรื่องการกู้ภัยในวันที่ 9 สิงหาคม 2017 ที่มีกำหนดว่าจะมีการกู้นั้น ทางครอบครัวของน้องสองคน ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะมีการเลื่อนอีกหรือไม่ และได้หยิบยกเรื่องการจ้างนักปีนเขาไต่เขาเอกชนเข้ามาช่วยถ่ายภาพน้องทั้งสองคนและรถในระยะใกล้ ซึ่งค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 5,000 เหรียญสหรัฐ โดยน่าจะเริ่มปฎิบัติการได้ในวันอังคารที่ 8 หรือพุธที่ 9 สิงหาคม 2017 นี้ ซึ่งแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ จะตามมาโดยทางสยามทาวน์ยูเอสได้แจ้งให้กับทางครอบครัวเป็นครั้งแรกว่าขณะนี้มีองค์กร สมาคมและชาวไทยในสหรัฐอเมริกาที่ได้ลงชื่อเพื่อเร่งรัดการกู้รถของเจ้าหน้าที่กู้ภัย และยินดีอย่างยิ่งที่จะระดมเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของครอบครัว อีกทั้งทางสยามทาวน์ยูเอสยังได้ติดต่อสื่ออเมริกาชื่อดังช่อง ABC30 ที่เป็นสื่อท้องถิ่นในเมืองเฟรซโน่เตรียมสัมภาษณ์น้องเพื่อเป็นการกระจายข่าวความล่าช้าในการกู้รถอีกด้วย

สุดท้ายเมื่อถามถึงกำหนดเดินทางกลับ ทางคุณแม่สุพินได้กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่าจะไม่ยอมกลับหากไม่ได้พาลูกชายกลับบ้าน ซึ่งทางพี่สาวของมินเองก็ได้กล่าวในลักษณะเหมือนกัน และขอขอบคุณ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส นำโดยนายธานี แสงรัตน์ กงสุลใหญ่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไทยที่ได้ช่วยเรื่องการเดินทางมาอเมริกา และได้ขอบคุณพี่น้องชาวไทย สือสารมวลชนในสหรัฐอเมริกาและในไทย

โดยหลังสัมภาษณ์ก็ได้มีการพูดคุยกำหนดการในการกู้ร่างของน้องสองคนขึ้นมา โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังหาวิธีนำร่างของน้องทั้งสองคนขี้นมาให้เร็วที่สุด ทางสยามทาวน์ยูเอสจะติดตามข่าวให้ทราบในโอกาสต่อไป