เมื่อวันอังคารที่ 1 สิงหาคม 2017 เทศบาลเมืองลอส แอนเจลิส แถลงว่าจะทำการเพิ่มยอดเงินในโปรแกรมจ่ายคืน (rebate) ให้เจ้าของบ้านหรือเจ้าของธุรกิจ ที่ลงมือซ่อมทางเดิม หรือไซด์วอล์ค ที่ชำรุดเสียหายด้วยตัวเอง เป็นเงินสูงสุดถึง 10,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่เคยกำหนดไว้เพียง 2,000 ดอลลาร์สำหรับเจ้าของบ้าน และ 4,000 ดอลลาร์สำหรับเจ้าของธุรกิจ
แกรี ลี มัวร์ วิศวกรของเทศบาลเมืองแอลเอ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า การเพิ่มเงินชดเชยดังกล่าว เพื่อสร้างความเป็น “หุ้นส่วน” ระหว่างเทศบาลและประชาชนในการแก้ไขปัญหาทางเดินริมถนนที่ผุผัง อันเป็นปัญหาใหญ่ที่คาราคาซังมานาน และว่าความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะมีผลให้เทศบาลสามารถซ่อมแซมทางเดินริมถนนที่ผุผัง ได้ไม่น้อยกว่า 11,000 ไมล์ในระยะเวลา 30 ปีตามที่วางแผนเอาไว้
ข่าวบอกว่า โปรแกรมให้เงินชดเชยสำหรับเจ้าของบ้านและเจ้าของธุรกิจที่ลงมือซ่อมแซมทางเท้าหน้าบ้านหรือหน้าธุรกิจของตัวเอง โดยไม่ต้องรอเทศบาลดังกล่าวนี้ ทางสภาเมืองแอลเอ ได้ผ่านความเห็นชอบเมื่อปี 2016 ด้วยงบประมาณปีละไม่ต่ำกว่า 30 ล้านดอลลาร์ ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 30 ปี
ข่าวบอกด้วยว่านับถึงขณะนี้ มีเจ้าของบ้านยื่นสมัครเข้าโปรแกรมรับเงินชดเชยดังกล่าวนี้กับเทศบาลเมืองแอลเอ ประมาณ 1,100 รายนับจากเริ่มใช้โปรแกรมนี้เมื่อปลายปี 2016 และว่าหากเจ้าของบ้าน หรือธุรกิจ ได้รับอนุมัติจากเทศบาลแล้ว ก็สามารถลงมือว่าจ้างช่างหรือลงมือซ่อมทางเท้าได้เลย เมื่อซ่อมเสร็จและผ่านการรับรอง (certified) ว่าเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยผู้พิการ หรือ Americans with Disabilities Act-compliant เจ้าของที่ก็จะสามารถขอรับเงินชดเชยได้ตามความเป็นจริว หรือไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์
พอล กรีโคเรียน สมาชิกสภาเมืองแอลเอ เขต 2 ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณและการเงินของเทศบาล กล่าวในการแถลงข่าวครั้งนี้ว่า การลงทุนซ่อมแซมทางเดินริมถนน จะทำให้เมืองลอส แอนเจลิส น่าอยู่และปลอดภัยมากขึ้น
“ขณะนี้ เรากำลังเร่งซ่อมแซมทางเดินริมถนนที่สวนสาธารณะของเทศบาล ห้องสมุด และศูนย์สันทนาการต่างๆ ก่อน ส่วนในย่านชุมชนนั้น เราเสนอให้ประชาชนทำการซ่อมแซมในส่วนที่จำเป็นด้วยตัวเองก่อน โดยหวังว่าการเพิ่มยอดเงินชดเชยในคราวนี้ จะเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนแก้ไขปัญหาของชุมชนตัวเองกันมากขึ้น”.