ตัวแทนของเอฟบีไอ, แอลเอพีดี และหน่วยงานรักษากฎหมายอีกหลายหน่วยงาน ร่วมกันแถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่ 25 กรกฎาคม 2017 ถึงการ “หลอกลวง” ของกลุ่มคนร้ายที่กำลังระบาดแรงในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยการโทรศัพท์ถึงเหยื่อ ข่มขู่ว่าได้จับกุมตัวลูกหลานเอาไว้ หากไม่รีบไปโอนเงินเรียกค่าไถ่ จะทำการสังหารลูกหลานโดยทันที
การแถลงข่าวครั้งนี้ มีการนำเหยื่อมาบอกเล่าถึงประสบการณ์ด้วย โดย วาเลอรี่ โซเบิล จากเวสท์ ฮอลลีวูด บอกว่าเธอได้รับโทรศัพท์หมายเลขที่ไม่รู้จักเมื่อสองปีก่อน โดยทันทีที่รับสายก็มีเสียงดุดันบอกว่า “เรามีนิ้วมือของซีโมน ลูกสาวคุณแล้ว คุณอยากจะได้ชิ้นส่วนอื่นๆ ไหม จะใส่ถุงส่งไปให้”
ความตกใจและความห่วงใยลูกสาว ทำให้ วาเลอรี่ โซเบิล ทำตามที่คนร้ายสั่งทางโทรศัพท์ทุกอย่าง รวมถึงการขับรถไปยังร้านรับโอนเงิน เพื่อโอนเงิน 4,000 ดอลลาร์ให้กับคนร้ายด้วย และเมื่อได้รับเงินแล้ว คนร้ายก็วางสายไป โดย วาเลอรี่ โซเบิล ต้องทนทรมานกับความเป็นห่วงลูกสาวนานนับชั่วโมง และฝากข้อความในโทรศัพท์มือถือของลูกหลายครั้ง ก่อนที่ซีโมนจะโทรกลับมาบอกว่าเธอสบายดี ไม่มีใครลักพาเธอไปไหนทั้งสิ้น
เจ้าหน้าท่ีบอกว่า วาเลอรี่ โซเบิล เป็นหนึ่งใน “เหยื่อ” ของการหลอกลวงที่เจ้าหน้าที่เรียกว่าการลักพาตัวเรียกค่าไถ่แบบเหมือนจริง (virtual kidnapping for ransom) จำนวนหลายร้อยรายในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ และอีกหลายรัฐ นับจากปี 2015 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมคนร้ายรายแรกในคดี “ลักพาตัวเรียกค่าไถ่แบบเหมือนจริง” นี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน โดยคนร้ายเป็นผู้หญิง ชื่อ ยาเน็ทท์ รอดริเกซ อะคอสต้า วัย 34 ปี จากเมืองฮิวส์ตัน เท็กซัส ในข้อหาฉ้อโกงผ่านระบบธนาคาร และสมรู้ร่วมคิดทำการฟอกเงิน อันเป็นข้อหาที่มีโทษจำคุกสูงสุดได้ถึง 20 ปี
คำฟ้องระบุว่า ยาเน็ทท์ รอดริเกซ อะคอสต้า และผู้ร่วมงาน ซึ่งยังไม่มีการเปิดผยชื่อ ได้ใช้โทรศัพท์จากประเทศแม็กซิโก โทรไปหาเหยื่อและหลอกลวงว่าได้ทำการลักพาตัวลูกหลานของเหยื่อมาแล้ว และจะฆ่าหรือทำร้ายทันที หากเหยื่อไม่ยอมโอนเงิน หรือนำเงินไปทิ้งเอาไว้ในจุดที่คนร้ายต้องการ โ
เจ้าหน้าที่บอกด้วยว่า นับจากปี 2015 เป็นต้น มีเหยื่อในคดีหลอกลวงแบบนี้ถึง 39 รายในแคลิฟอร์เนีย เท็กซัส ไอดาโฮ่ และมินนิโซต้า รวมค่าเสียหายประมาณ 114,000 ดอลลาร์ และว่าเฉพาะในเมืองลอส แอนเจลิส แห่งเดียว มีผู้ได้รับโทรศัพท์ลักษณะนี้ และเข้าแจ้งความมากกว่า 250 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีผู้ที่ไม่แจ้งความอีกนับพันคน
เจ้าหน้าที่บอกถึงวิธีการหาเหยื่อของคนร้ายด้วยว่า มีทั้งใช้วิธีสุ่มโทรถึงบ้านเรือนในย่านคนรวยของรัฐต่างๆ และการเลือกเหยื่อ โดยหาข้อมูลของเหยื่อ และครอบครัวผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ก่อนจะลงมือโทร
ในกรณีของ ยาเน็ทท์ รอดริเกซ อะคอสต้า นั้น เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นคนโทรถึงเหยื่อหลายร้อยรายในปี 2015 โดยเหยื่อเกือบทั้งหมดถูกสั่งให้โอนเงินค่าไถ่เข้าบัญชีเงินฝากในประเทศแม็กซิโก โดยมีเหยื่อเพียงสองราย ที่ได้รับคำสั่งให้นำเงินสดไปทิ้งเอาไว้ในจุดนัดหมายในรัฐแท็กซัสแทน
เจ้าหน้าที่บอกด้วยว่า กลุ่มคนร้ายจะใช้วิธีข่มขู่ให้เหยื่อตกใจ บางครั้งก็มีเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ดังลอดโทรศัพท์ออกมาให้เหยื่อได้ยินด้วย ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือให้วางโทรศัพท์และรีบติดต่อลูกหลาน ที่คนร้ายอ้างถึงทันที จากนั้นให้โทรแจ้งความทันที.