เมื่อค่ำวันที่ 11 กรกฎาคม 2017 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้แถลงทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำปี 2560 ณ ห้องแพลนนารี ฮอลล์ 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยกล่าวว่าแผนการแผนการตลาด ปี 2561 ของ ททท. ได้กำหนดเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น 8 เปอร์เซ็นจากยอดประเมิน 35 ล้านคนของปี 2560 ซึ่งตัวเลขดังกล่าว ทำรายได้เข้าประเทศได้ประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ จะมีการผลักดันผ่านการทำตลาด 3 แนวทาง คือ 1 การสร้างกระแสการใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพื่อชะลอความเสื่อมโทรมของทรัพยากรด้านท่องเที่ยว 2 การสร้างสรรค์เนื้อหา (Content) เพื่อเพิ่มคุณค่าให้สินค้าท่องเที่ยวไทย และ 3 การขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ ด้วยการนำเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวที่สัมผัส “Thai Local Experience” ผ่านแนวคิดด้านวิถีการกิน “สวรรค์นักกิน จากอาหารถิ่นถึงมิชลิน สตาร์” ให้สอดรับกับการที่ไทยจะมีโครงการมิชลิน ไกด์ แบงค็อก และเป็นเจ้าภาพ UNWTO World Forum on Gastronomy Tourism หรือการประชุมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงอาหารโดยองค์กรการท่องเที่ยวแห่งสหประชาชาติโดยเฉพาะ
ส่วนตลาดอเมริกานั้น นายกิตติพงษ์ ประพัฒน์ทอง ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานลอส แองเจลิส กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ จะผ่านหลักหนึ่งล้านคนเป็นครั้งแรกในปีนี้ หลังจากที่ตัวเลขของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 900,000 คน ทั้งนี้เพราะมีปัจจัยที่เป็นบวกหลายประการ และว่าจากการกำหนดเป้าหมายปี 2561 ภูมิภาคอเมริกาจะมีการเติบโตราว 14 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์สูงสุดเทียบกับทุกตลาด เนื่องจากประเมินเศรษฐกิจอเมริกากลับมาสู่ภาวะขาขึ้นแล้ว หลังเผชิญวิกฤตในรอบหลายปีที่ผ่านมา ประกอบกับการติดตามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังการเลือกตั้ง ไม่มีผลกระทบในเชิงลบ นอกจากนั้น มีปัจจัยเสริม เช่น ค่าเงินดอลลาร์แข็งแรงมากขึ้น อัตราการว่างงานของประชากรในประเทศต่ำสุดในรอบ 6 ปี
ขณะเดียวกัน ที่ตัวเลือกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวมีความหลากหลายมากขึ้น จากการที่ ททท.ไปร่วมมือเป็นพันธมิตรการตลาดกับสายการบินอีวีเอ แอร์ ที่มีเที่ยวบินเชื่อมต่อจากหลายเมืองในอเมริการวมกว่า 92 เที่ยวบิน/สัปดาห์ โดยผ่านฮับที่กรุงไทเปสู่กรุงเทพฯ ยังไม่รวมกับสายการบินอื่นๆ ในเอเชียที่มีเที่ยวบินสู่อเมริกาเช่นกัน อาทิ ออลนิปปอน แอร์เวยส์, ไชน่า แอร์ไลน์ และสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เป็นต้น รวมถึงบอกว่าหากการบินไทย สามารถมีเที่ยวบินตรงในเส้นทางกรุงเทพฯ-แอลเอ ได้อีกครั้ง ก็จะมีนักท่องเที่ยวอเมริกันเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น
สำหรับแนวทางการตลาดที่มีการปรับเปลี่ยนและต้องจับตามองอย่างมากคือ การเปลี่ยนผ่านจากยุคเบบี้บูมเมอร์ ที่มีขนาดใหญ่สุดมาสู่ยุคของเจเนอเรชั่นวาย หรือ มิลเลนเนียลส์ ที่มีฐานประชากรกว่า 92 ล้านคนในอเมริกา ซึ่งกำลังจะแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 เป็นผลทำให้ต้องปรับเปลี่ยนมิติในการทำตลาดให้เข้ากับพฤติกรรมมิลเลนเนียลส์ ที่ใช้ช่องทาง “ดิจิทัล” เข้าถึง และพัฒนาสินค้าแนวท่องเที่ยวชุมชนซึ่งมีกิจกรรมให้ทำ เช่น การปลูกข้าวกับชาวนา, เข้าร่วมกิจกรรมประเพณีท้องถิ่น เป็นต้น
“การทำตลาดต่อไป จะเห็นการจับกลุ่มเฉพาะที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากขึ้น เช่น ล่าสุด เตรียมร่วมมือบริษัท Contiki ที่มีเป้าหมายเฉพาะเจาะตลาดคนอายุ 18-35 ปีโดยเฉพาะ ซึ่งมีการออกแบบใช้ดนตรีร่วมในการทำการตลาด เพื่อชักจูงความสนใจของคนวัยนี้ โดยมองว่าตลาดนี้ไม่ควรละเลย เพราะนอกจากจะท่องเที่ยวสอดคล้องกับการส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชนของไทยแล้ว ตลาดมิลเลนเนียลส์ยังใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย”
ผอ.ททท.สำนักงานแอลเอ กล่าวอีกว่า ทางสำนักงานยังมีแผนทำตลาดผ่านบุคคลที่มีชื่อเสียง ร่วมมือกับร้านอาหารจิตรลดา ในแอลเอ ซึ่งเป็นร้านไทยที่มีดาราดังฮอลลีวูดมารับประทานประจำ เช่น ไรอัน กอสลิง เพื่อหาทางส่งเสริมอาหารถิ่นของไทย ให้สอดคล้องกับเป้าหมายยกระดับรายได้ด้วยอาหาร อันเป็นแผนหลักของปี 2561 ด้วย ขณะเดียวกัน จะหาแนวทางเข้าไปร่วมมือกับดิสนีย์ และพิกซาร์ ผู้ผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่น ดูแนวทางเป็นไปได้ว่าจะนำเสนอเรื่องท่องเที่ยวไทยสอดแทรกผ่านสื่อบันเทิงอย่างไร
นายกิตติพงษ์ ประพัฒน์ทอง ยังระบุด้วยว่า ททท.มีแผนที่จะเปิดสำนักงานในเมืองโตรอนโต้ ของแคนาดา ในปีนี้ด้วย โดยบอกว่าขณะนี้ ประเทศไทยถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับสี่ของนักท่องเที่ยวแคนาดา
ทั้งนี้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการ ผู้บริหาร ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในทุกภูมิภาคทั่วโลก ได้เข้าร่วมประชุมบูรณาการแผนปฏิบัติการ ททท. ประจำปี 2561 ( Tourism Authority of Thailand Action Plan 2018 : TATAP 2018) เพื่อวางแนวทางในการกำหนดทิศทางการทำงานในปี 2561 โดยได้เข้าร่วมประชุมจัดทำแผน ตั้งแต่วันที่ 11 - 14 กรกฎาคม 2560 ณ โรงแรม ณ เวลา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี.