ร้านใกล้เรือนเคียง
รู้จัก..โรคมะเร็ง กับทางเลือกในการรักษา (ตัวเอง) ผู้ป่วย..ให้หายขาดไปเลย..

สัปดาห์นี้ เรามีเรื่องที่อยากจะนำมาให้คุณผู้อ่านทุกท่านได้ให้ความสนใจ และทำความรู้จัก กับการรักษา หรือการป้องกันการเกิด "โรคมะเร็ง " ที่เคยได้คร่าชีวิตของผู้คนมาแล้วจำนวนมาก ที่เราต้องยอมรับว่าแม้ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาด้วยเครื่องมืออันทันสมัย ทั้งการผ่าตัด การให้รังสี หรือวิธีการให้คีโม (บำบัด) แต่ทางการแพทย์ก็ไม่อาจยืนยันการรักษาโรคนี้ให้หายขาดไปได้ แต่หากคุณผู้อ่านได้อ่านคอลัมน์ของเราฉบับนี้จบแล้ว คงข่วยทำให้คุณผู้อ่านได้มีทางเลือกในการรักษา (ตัวเอง) หรือผู้ป่วย ด้วย "โรคมะเร็ง" ให้หายขาด ทั้งที่เกิดจากผลการศึกษาและวิจัยพืชสมุนไพรธรรมชาติที่มีสรรพคุณสามารถเปลี่ยนเซลมะเร็งให้กลับตัวเป็นเซลปกติ แม้ว่าจะเป็นผู้ป่วยในระยะสุดท้ายก็ดี หรืออีกหนึ่งทางเลือก ที่เราได้หยิบยกมาจากผู้ป่วยที่เป็นนายแพทย์ท่านหนึ่งที่รักษาตัวเองจนหายขาดโดยวิถีการใช้ชีวิตอย่างธรรมชาติก็ดี ก็ล้วนแล้วแต่เป็นตัวอย่างของทางเลือกในการรักษาโรคมะเร็ง ที่ได้นำมาฝากคุณผู้อ่านกันในฉบับนี้นะคะ ถ้าอย่างนั้นเรามาทำความรู้จักกับ การรักโรคมะเร็ง กันดีกว่าค่ะ เพราะไม่แน่ว่าอนาคตอันใกล้นี้ เราอาจจะรู้จักโรคมะเร็ง ที่มีฐานะเป็นเพียงโรคหวัดธรรมดาๆ ก็ได้.. จริงมั๊ยคะ

 มะเร็งคืออะไร
มะเร็ง (Cancer) คือ ภาวะที่เซลล์ในร่างกายของเรามีการแบ่งตัวและเจริญขึ้นโดยรวดเร็วอย่างผิดปกติในสารพันธุกรรม (DNA) โดยเริ่มจากเป็นเซลล์เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นตามเวลา นานวันเข้าเซลล์นั้นก็จะขาดเลือดไปหล่อเลี้ยงทำให้เซลล์ในก้อนเนื้อนั้นตาย จนกลายเป็นก้อนเนื้องอกร้ายที่ไปเบียดบังทั้งส่วนที่เกิดและส่วนอื่นๆ ที่อยู่ข้างเคียง จากนั้นก็จะค่อยๆ กระจายไปในส่วนอื่นๆ ของร่างกายโดยผ่านระบบกระแสเลือดหรือน้ำเหลืองของเราเป็นตัวนำเชื้อไป 
 
สัญญาณเตือนที่ควรเริ่มสันนิษฐานว่าเป็นมะเร็ง  

     มีเลือดออกผิดปกติทางทวารต่างๆ โดยเฉพาะในทวารหนัก หรือปากมดลูก รู้สึกว่ากลืนอาหารลำบากมากขึ้น หรือรู้สึกเสียดแน่นท้องบ่อยๆ และนานๆ  มีปัสสาวะออกมาเป็นเลือด หรืออุจจาระออกมาเป็นก้อนสีดำ
เสียงเริ่มแหบแห้ง และไอบ่อยมากขึ้นจนเรื้อรัง  หรือเมื่อเกิดบาดแผลขึ้นในร่างกายแล้วไม่หายสักที
อาจมีก้อนหรือตุ่มที่ขึ้นตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไฝ หูด หรือปานในร่างกายตามส่วนต่างๆ เริ่มเปลี่ยนแปลง เช่น ใหญ่ขึ้น หรือสีเปลี่ยน เป็นต้น (ขอบคุณที่มาจาก เกร็ดน่ารู้.net/โรคมะเร็ง)

สมุนไพรทางเลือก  และการรักษา (ตัวเอง) ผู้ป่วย..?

   อาจกล่าวได้ว่า ขณะที่มนุษย์ได้คิดค้นเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อรักษา เยียวยาผู้ป่วยโรคร้ายต่างๆ ที่คร่าชีวิตผู้คนจนกลายเป็นความน่ากลัว เช่นโรคมะเร็ง อยู่นี้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องขอบคุณความทันสมัยของเครื่องมือที่ได้ถูกใช้เพื่อการคิดค้นตัวยาต่างๆ จากพืชผักผลไม้ตามธรรมชาติ ที่ใช้เพื่อการรักษาโรคต่างๆ รวมถึงการรักษาผู้ป่วยด้วย "โรคมะเร็ง"  ด้วยนะคะ เพราะนี่คือหนึ่งในสมุนไพรที่เราจะได้กล่าวถึงสำหรับสรรพคุณอันน่าทึ่ง ที่ไดัรับคุณประโยชน์จากเครื่องมืออันทันสมัยเช่นกัน นั่นก็คือ "จิงจูฉ่าย"   

จิงจูฉ่าย พืชมหัศจรรย์ และสรรพคุณอันน่าทึ่ง..!!


  จากการศึกษาวิจัยพืชสมุนไพรธรรมชาติ ที่ชื่อว่า “จิงจูฉ่าย” (White Mugwort)  หรือที่คนไทยเรียกว่า “โกศจุฬาลัมพา” เป็นพืชล้มลุก ขนาดเล็กเป็นพุ่ม ต้นสูง 0.5-1 ฟุต คล้ายต้นขึ้นฉ่าย ใบรี หนา ขอบเป็นแฉกสีเขียว 5 แฉก  เหง้ามีขนาดใหญ่กระจายไปทั่ว เมื่อโตแตกกิ่งก้านออกเป็นกอคล้ายกับใบบัวบก ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด หากปลูกในที่อากาศเย็นจะได้ผลมากกว่าปลูกในอากาศร้อน และสามารถ นำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งได้ โดยให้นำใบจิงจูฉ่าย 1 กำมือ มาปั่นหรือตำแล้วคั้นเอาแต่น้ำ ดื่มเช้า-เย็น  โดยดื่มก่อนอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง วันละ 1-2 ครั้ง ให้กินติดต่อกันเป็นเวลา 2-3 เดือน  และควรดื่มอย่างสม่ำเสมอ จะสามารถต้านทานเซลล์มะเร็งได้ เพราะสารที่มีในต้นจิงจูฉ่ายจะช่วยให้ร่างกายรักษาโรคมะเร็งดีขึ้น ด้วยสรรพคุณที่ถูกค้นพบว่า  ตัว  จิงจูฉ่ายมีเกลือแร่และวิตามินสูง เฉพาะวิตามินซีมีสูงมากกว่ามะนาวถึง 58 เท่า และประกอบด้วย วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินบี 6 เหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และใยอาหาร จึงจัดเป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยาสูงมาก และ จิงจูฉ่ายยังเจัดเป็นสมุนไพรบำรุงเลือดลมได้ดี โดยเฉพาะบำรุงเลือดลมสตรี แก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ ช่วยประสะเลือดให้เลือดลมมาตามปกติทั้งน้ำมันหอมระเหยของจิงจูฉ่ายจะช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต ที่เหมาะกับผู้มีปัญหาเรื่องความดัน และช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ดี และเพราะ  จิงจูฉ่ายมีสรรพคุณเป็นยาเย็น หากกินในหน้าหนาวจะช่วยบำรุงปอด ช่วยฟอกเลือด ทำให้เลือดลมหมุนเวียนได้สะดวก ปรับสมดุลร่างกาย และยังพบว่า  จิงจูฉ่าย มีประโยชน์ช่วยดับพิษ แก้อักเสบ แก้ผิวหนังเป็นฝี ตุ่ม แก้ผดผื่นคันได้ดี  อีกทั้งยังสามารถ ใช้ในการรักษา โรคมาลาเรียได้  ซึ่งเชื้อโรคมาลาเรียนี้คล้ายๆ กับเซลล์โรคมะเร็ง แต่ยังมีข้อควรระวัง คือ ห้ามผู้หญิงที่กำลังมีครรภ์ กินผักจิงจูฉ่ายอย่างเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้แท้งได้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกเมื่อมีผลดี ย่อมมีผลเสีย แต่เมื่อเราเรียนรู้แล้ว เราพึงควรใช้เพื่อให้ได้รับแต่ผลดีนะคะ 

       

           นอกจากนี้ อ๊อกซิเจน ที่มีปริมาณไหลเวียนในร่างกาย ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยให้เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโต เพราะผู้ป่วยโรคมะเร็ง จะมีสภาวะของร่างกายที่มีเลือดเป็น " กรด " จึงต้องเพิ่มโปแตสเซียมเข้าไปในร่างกาย จึงเป็นที่มาของการกินผัก น้ำผัก หรือน้ำต้มผัก ที่ นายแพทย์ อารีย์ วชิรมโน ผู้ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ได้ให้ผลของทางเลือกในการรักษาตัวเอง เพื่อ การแก้เลือดเป็นกรด ซึ่งทำได้สองวิธีคือ กินพืชผักผลไม้ให้มากๆเพื่อเพิ่มโปแตสเซียม อีกอย่างคือเอาออกซิเจนเข้ามามากๆเพราะยิ่งออกซิเจนเข้าไปในเลือดมากเท่าไหร่ ยิ่งทำ ให้เลือดเราเป็นด่าง ประกอบกับการดูแลรักษาตัวเองโดยวิถีธรรมชาติ โดยคุณหมอไม่ยอมเข้ารับการผ่าตัด ไม่ฉายรังสี และไม่่ยอมให้คีโม แต่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ขีวิต ให้กลับไปสู่ธรรมชาติมากที่สุด การพักผ่อน ทำตัวให้อารมณ์ดี ความตั้งใจที่จะมีชีวิตต่อไป กำลังใจจากครอบครัว การนั่งสมาธิเพื่อทำจิตใจให้เป็นบวก โดยเมื่อคุณหมออารีย์ได้หายป่ายแล้ว ​ยังได้ใช้เวลาไปกับการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง และผู้ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่ได้เดินทางมาจากทั่วประเทศที่เข้ามาเพื่อเข้ารับการรักษาจากคุณหมอ อีกด้วยค่ะ  (อ่านต่อประสบการณ์การรักษาโรคมะเร็งด้วยตัวเอง ได้ที่ medinfo.psu.ac.th ) ซึ่งทั้งนี้ ผู้ป่วยก็สามารถจะนำทั้งวิธีการดื่มจิงจูฉ่ายเป็นประจำมาประยุกต์กับการดำเนินชีวิตให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างเรียบง่ายอย่างคุณหมอก็คงจะช่วยฟื้นฟู ปรับสภาพให้ร่างกายแข็งแรง และหายจากโรคมะเร็งเร็วขึ้นก็ได้นะคะ

     คุณผู้อ่านคะ โรคร้ายต่างๆ เมื่อเกิดได้ ก็ย่อมมีวิธีรักษาให้หายได้ แต่การรักษานั้น ย่อมขึ้นอยู่กับผู้ป่วยเองเป็นสำคัญนะคะว่าเลือกที่จะรักษาตัวเองอย่างไร แต่วิธีที่ดีที่สุด คือการไม่ต้องรักษา หรือก็คือการป้องกันไว้ก่อน ซึ่งก็อาจกล่าวได้อีกอย่างก็คือ การทำความพอดีให้กับร่างกายและการใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ทั้งการกิน และการประกอบธุรกิจการงานต่างๆ ให้สมดุล เพราะสิ่งแวดล้อมทางสถานภาพที่กดดันให้ร่างกายต้องเผชิญกับภาระหนักที่เกินกว่าอวัยวะจะรับได้นั้น ย่อมส่งผลให้เกิดภาวะผิดปกติในร่างกายที่แสดงผลแตกต่างกันออกไปตามแต่ละภูมิคุ้มกันของแต่ละคน จนเป็นโรคร้ายต่างๆ และเกิดความสูญเสีย แล้วถ้าอย่างนั้น สมควรหรือที่เราจะกดดันร่างกายตัวเองที่ลงท้ายด้วยความว่างเปล่ากันคะ นี่ก็เป็นอีกเรื่องราวดีๆ สำหรับคอลัมน์ของเราฉบับนี้ที่นำมาฝากคุณผู้อ่านกันนะคะ แล้วพบกับเราที่นี่ กับเรื่องราวดีๆ ฉบับหน้าค่ะ      








































 




นำเสนอข่าวโดย : Kittisuda .,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส
14-02-2024 ด่วนรัฐแจกเงินให้คนซื้อบ้านใครอยากได้ต้องรีบอ่าน มาก่อนได้ก่อนช้าหมดเรามีคำตอบพร้อมแนะวิธีซื้อบ้านที่คุณต้องรู้ (0/559) 
05-02-2024 บทความ: ทำความรู้จัก ภูชวิน “Gather” บริรักษ์คูเจริญ -ผู้นำการฟื้นฟูเทคโนโลยีของไทย (0/207) 
20-04-2022 อาณาจักรสระว่ายน้ำของ Pechanga Resort Casino จะกลับมาเปิดให้บริการได้ทันเวลาในช่วงสปริงเบรก (0/3957) 
29-01-2022 Pechanga Resort Casino ฉลองตรุษจีน ปีเสิอ ด้วยเมนูสุดพิเศษ (0/1408) 
24-12-2021 สมัครขอส่วนลด $50 บิลค่าอินเตอร์เน็ตรายเดือน คนมีรายได้ต่ำ (0/1200) 

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
599
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข