ข่าวคนไทยในอเมริกา
จำคุก’นิมนต์’27เดือน ฐานลวงคนไทยขอลี้ภัย





แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ศาลตัดสินจำคุกหนุ่มไทย “นิมนต์ นาแพง” สองปีกับสามเดือน ฐานหลอกลวงอิมมิแกรนท์ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นคนไทยกว่า 320 คนให้ยื่นทำใบเขียวผ่านกระบวนการ “ลี้ภัย” ทั้งที่รู้เต็มอกว่าเหยื่อทั้งหมดไม่มีคุณสมบัติ ทำให้เหยื่ออยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการถูกเนรเทศโดยไม่รู้ตัว


เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2017 สำนักงานอัยการเขตโรดไอแลนด์ ได้แถลงถึงคำพิพากษาของศาลแขวงสหรัฐฯ ในเมืองโพรวิเดนซ์ ในคดีอาญาว่าด้วยการฉ้อโกงเรื่องอิมมิเกรชั่น ที่มีนายนิมนต์ นาแพง (Nimon Naphaeng) สัญชาติไทย อายุ 35 ปี ชาวเมืองเวคฟิลด์ รัฐโรดไอแลนด์ เป็นจำเลย โดยระบุว่าผู้พิพากษาได้พิพากษาจำคุกเขาเป็นเวลาสองปีกับสามเดือน พร้อมสั่งให้จ่ายชดเชยความเสียหายอีก 400,000 ดอลลาร์ โดยเงินก้อนนี้อาจจะเพิ่มขึ้นอีกหากปรากฎว่ามีผู้เสียหายเพิ่มมากขึ้นกว่า 320 คนตามที่ปรากฎในคำฟ้อง

ถ้อยแถลงของสำนักงานอัยการบอกด้วยว่า นายนิมนต์ นาแพง อาจถูกเนรเทศกลับเมืองไทยทันทีที่รับโทษครบถ้วน

ทั้งนี้ นายนิมนต์ นาแพง ได้ยอมสารภาพผิดต่อข้อหาฉ้อโกงผ่านระบบไปรษณีย์ (mail fraud) 7 กระทง และข้อหาฉ้อโกงวีซ่า (visa fraud) อีก 2 กระทง โดยยอมรับว่าระหว่างเดือนสิงหาคม 2014 จนถึงเดือนธันวาคม 2015 เขาได้รับเงินค่าธรรมเนียมจากเหยื่อ รายละประมาณ 1,500-2,500 ดอลลาร์ สำหรับการยื่นขอใบอนุญาตทำงาน หรือ Employment Authorization Document (EAD) ผ่านการขอลี้ภัย โดยบอกกับเหยื่อว่าจะได้รับสวัสดิการอื่นๆ ของรัฐบาล เช่นหมายเลขบัตรประกันสังคม ใบขับขี่ และหากมีคุณสมบัติครบถ้วนก็จะได้รับเงินช่วยเหลือเป็นสวัสดิการจากรัฐบาลด้วย ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เหยื่อทั้งหมดของนายนิมนต์ นาแพง ไม่มีคุณสมบัติที่จะยื่นเรื่องขอลี้ภัยแต่อย่างใด

ผู้ต้องหาชาวไทยสารภาพด้วยว่า เขาได้โพสต์ข้อความโฆษณาทางอินเตอร์เน็ต และทำเอกสารแจกจ่ายตามร้านอาหารไทยทั่วประเทศอเมริกา โดยยอมรับว่าเขาไม่เคยบอกกับเหยื่อว่าเขาจะยื่นเรื่องผ่านกระบวนการขอลี้ภัยแต่อย่างใด

ทั้งนี้ อัยการเชื่อว่านายนิมนต์ นาแพง ซึ่งถูกกักตัวโดยไม่ให้ประกันตัวตั้งแต่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2015 มีรายได้จากการหลอกลวงเหยื่อของเขาไม่ต่ำกว่า 518,000 ดอลลาร์ อีกทั้งเชื่อว่ายังมีเหยื่อของเขาที่ยังไม่กล้าแสดงตัวอีกจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้ การยอมรับสารภาพต่อความผิดทุกข้อหา ทำให้นายนิมนต์ นาแพง ได้รับการลดหย่อนโทษจำคุกเหลือเพียง 27 เดือน หรือสองปีกับสามเดือน ทั้งที่โทษจำคุกจากความผิดฐานฉ้อโกงผ่านระบบไปรษณีย์ (mail fraud) 7 กระทงนั้น อาจสูงสุดได้ถึง 20 ปี และปรับได้สูงสุดไม่เกิน 250,000 ดอลลาร์ จากนั้นต้องถูกควบคุมความประพฤติอีกสามปี ส่วนข้อหาฉ้อโกงวีซ่า (visa fraud) อีก 2 กระทงนั้น โทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 10 ปี  และปรับได้สูงสุดไม่เกิน 250,000 ดอลลาร์ จากนั้นถูกคุมความประพฤติต่ออีกสามปี

ทั้งนี้ เรื่องราวการฉ้อโกงของนายนิมนต์ นาแพง ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ช่วยทนายความ หรือที่ปรึกษาด้านกฎหมายอิมมิเกรชั่น จากรัฐโรดไอส์แลนด์ ได้กลายเป็นข่าวใหญ่ของชุมชนไทยในลอส แอนเจลิส ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2016 หลังจากที่เขาลงโฆษณากับหนังสือพิมพ์ภาษาไทยบางเล่มในแอลเอ แจกเอกสารโฆษณาตามธุรกิจของคนไทย รวมถึงโพสต์ข้อความตามกลุ่มต่างๆ ในเฟสบุ๊ก เพื่อโฆษณาบริการของตัวเองว่าสามารถยื่นขอใบอนุญาตทำงาน หรือใบเขียวให้กับผู้อยู่แบบผิดกฎหมายได้อย่างแน่นอน โดยคิดค่าบริการประมาณ 2,500 ดอลลาร์ต่อคน

ข้อความโฆษณาของนายนิมนต์ นาแพง กลายเป็นที่จับตามากขึ้น หลังจากที่เขาเปิดฉาก “ทะเลาะ” กับผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายอิมมิเกรชั่น หรือผู้ที่ทักท้วงเพราะรู้ทันพฤติกรรมของเขาตามเพจต่างๆ อยู่เนืองๆ ก่อนที่จะเริ่มมี “เหยื่อ” ของ “ทะแนะ” คนนี้ปรากฎตัวออกมามากขึ้นเรื่อยๆ

จากนั้น ศูนย์กฎหมายเอเชียน อเมริกัน แอดแวนซิ่ง จัสติส ได้ให้ข้อมูลกับสยามทาวน์ยูเอส ว่ามีคนไทยที่แสดงตัวว่าตกเป็นเหยื่อแล้วประมาณ 50 คน ทั้งคนไทยในแคลิฟอร์เนีย แมสซาชูเส็ทท์ ฟลอริด้า นิวยอร์ค และโอไฮโอ้ โดยเหยื่อส่วนใหญ่ บอกว่าไม่มีโอกาสได้อ่านแบบฟอร์ม หรือลงนามในแบบฟอร์มซึ่งนายนิมนต์ นาแพง ยื่นเข้าไปยังสำนักงานอิมมิเกรชั่นแต่อย่างใด  ทำให้ไม่มีใครทราบว่าการยื่นขอใบอนุญาตทำงานของตนเองนั้น ถูกยื่นในประเภทไหน จนกว่าจะได้รับใบเสร็จรับเงินจากสำนักงานอิมมิเกรชั่น จึงทราบว่าเป็นการยื่นขอวีซ่าผู้ลี้ภัย หรือ asylum application ซึ่งเหยื่อเกือบทั้งหมดจะไม่อยู่ในข่ายท่ีจะได้รับสิทธิพิเศษในเรื่องการลี้ภัยแต่อย่างใด ทำให้เหยื่อทุกคนอยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการถูกเนรเทศด้วย

จากนั้น ก็มีข่าวว่านายนิมนต์ นาแพง ถูกจับกุมตัวในเดือนธันวาคม 2015 จากบ้านพักในเมืองเวคฟิลด์ โรดไอแลนด์ และถูกนำตัวขึ้นส่งฟ้องศาลในวันที่ 19 มกราคม ด้วยข้อหาอาญาว่าด้วยการฉ้อโกงเรื่อง อิมมิเกรชั่น จำนวน 26 กระทง รวมถึงการกรอกแบบฟอร์มขอลี้ภัยด้วยข้อมูลเท็จในนามของบุคคลอื่น ซึ่งไม่ได้เรียกร้องหรืออนุญาตให้ผู้ต้องหาดำเนินการ รวมถึงมีการปลอมลายเซ็นของเหยื่อหลายๆ รายด้วย

ข่าวบอกว่าพฤติกรรมของนายนิมนต์ นาแพง ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางจับตาใกล้ชิด เพราะได้ยื่นเอกสารขอลี้ภัยให้กับคนไทยมากจนผิดสังเกตุ  และเมื่อมีการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ก็พบว่าผู้ยื่นขอลี้ภัยจำนวนมากใช้ที่อยู่เดียวกัน คือสำนักงานของจำเลย หรือบ้านพักของจำเลย อีกทั้งมีแบบฟอร์มจำนวนไม่ต่ำกว่า 250 ชุดที่กรอกข้อมูลเหมือนกันทุกอย่างด้วย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของสยามทาวน์ยูเอส พบข้อมูลจากเว็บไซต์ Yelp ว่านายนิมนต์ นาแพง เคยเป็นเจ้าของร้านอาหารไทยชื่อ Thai Basil Asian Bistro ตั้งอยู่ที่ 151 Main St. Old Town, ME 04468 ซึ่งปัจจุบันได้ปิดตัวลงไปแล้ว

โดยข้อมูลในส่วน พบเจ้าของธุรกิจ หรือ Meet the business owner ของ Yelp ระบุว่านายนิมนต์ นาแพง หรือ “นิ” เดินทางมาอเมริกาเมื่อปี 2002 ในช่วงที่อาหารไทยกำลังเป็นที่นิยม โดยพำนักอยู่ในบอสตัน และทำงานในร้านอาหารก่อนจะกลายเป็นเจ้าของร้านในที่สุด โดยบอกว่านายนิมนต์ นาแพง เรียนรู้วิธีการปรุงอาหารตั้งแต่อายุน้อยๆ เพราะครอบครัวเป็นเจ้าของโรงสีข้าว ซึ่งชาวนาที่นำข้าวมาสี จะรอรับข้าวสารตลอดคืนโดยนายนิมนต์คือผู้มีหน้าที่ในการปรุงอาหารรับรองลูกค้าของครอบครัว และได้นำความรู้ และศิลปะของการปรุงอาหารมาใช้ประโยชน์เมื่อมาถึงอเมริกา

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับนายนิมนต์ นาแพง บนเว็บไซต์ yelp นั้น นอกจากจะไม่สมบูรณ์แล้ว ยังมีความผิดพลาดค่อนข้างมาก เช่นบางครั้งก็ใช้สรรพนามแทนตัวนายนิมนต์ว่า him (เขา) บางครั้งก็ใช้สรรพนามว่า her (เธอ) เป็นต้น.

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส
23-04-2024 เตรียมปรับผังแอลเอเอ็กซ์ครั้งใหญ่ รับ “บอลโลก-โอลิมปิก (0/36)   
22-04-2024 จับโจร “งัดแมนชั่น” นายกเทศมนตรีเมืองแอลเอ (0/150) 
19-04-2024 เอาให้ชัด! ฟาสต์ฟู้ดแคลิฟอร์เนียแพงขึ้นเท่าไหร่ หลังปรับค่าแรง 20 เหรียญ (0/219) 
17-04-2024 รายได้เท่าไหร่ ถึงจะอยู่แบบ “สบายๆ” ในแคลิฟอร์เนีย (0/259) 
16-04-2024 ภูมิใจ! แอลเอครองแชมป์ “ยุงชุม” สุดในประเทศ (0/128) 

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
599
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข