เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2017 ที่เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี ได้จัดการประชุมใหญ่ครั้งที่ 130 และได้มีการลงมติว่าจะประกาศผลการคัดเลือกเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปี 2024 และ 2028 พร้อมกัน โดยระหว่างเมืองลอส แอนเจลิส และปารีสนั้น ผู้ที่ไม่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพในปี 2024 ก็จะเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันโอลิมปิกในปี 2028 ทันที
ข่าวบอกว่าการการประกาศผลคัดเลือกเมืองเจ้าภาพโอลิมปิกสองปีพร้อมกันเช่นนี้ เป็นผลดีกับการพัฒนาการกีฬาโอลิมปิกในระยะยาว เพราะมีเมืองที่พร้อมในทุกด้านถึงสองเมืองเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก จึงควรให้ทั้งสองเมืองมีโอกาสในการเป็นเจ้าภาพ โดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากลเพียงแค่เลือกว่าเมืองใดจะได้เป็นเจ้าภาพก่อนเท่านั้น
การประชุมครั้งนี้ อีริค การ์เซ็ตติ นายกเทศมนตรี เมืองลอส แอนเจลิส ได้นำคณะทำงานผลักดันให้แอลเอ เป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกปี 2024 หรือ “แอลเอ 2024” ไปร่วมให้ปากคำด้วย โดยข่าวบอกว่าคณะของนายกเทศมนตรี ใช้เวลา 45 นาที ในการเสนอความพร้อมของเมืองแอลเอ ในการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก จากนั้นก็ตอบข้อซักถามของ ไอโอซี อีกประมาณ 30 นาที
โดยหนึ่งใน “ข้อได้เปรียบ” ของเมืองลอส แอนเจลิส ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกปี 2024 ที่มีการนำเสนอต่อที่ประชุม ไอโอซี คือความพร้อมของเมืองแอลเอ ในด้านสถานที่จัดการแข่งขัน เพราะมีสนามกีฬาทันสมัยมากมาสย เช่น แอลเอ โคลิเซียม ฯลฯ ทำให้เมืองแอลเอ ต้องการงบประมาณในการเตรียมความพร้อมเพียงแค่ 5.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่ไม่มากนัก และเห็นผลกำไรค่อนข้างชัดเจน
โดยการประกาศผลเมืองเจ้าภาพของโอลิมปิก 2024 และ 2028 อย่างเป็นทางการ จะมีขึ้นหลังการประชุมใหญ่ประจำปีของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ที่กรุงลิม่า ประเทศเปรู ในวันที่ 13 กันยายนที่จะถึงนี้ ซึ่งหากลอส แอนเจลิส ได้เป็นเจ้าภาพจริงๆ ก็จะกลายเป็นโอลิมปิกครั้งที่สามของเมืองบันเทิงแห่งนี้ หลังจากที่เคยเป็นเจ้าภาพมาแล้วในปี 1932 และ 1984 และจะกลายเป็นโอลิมปิกครั้งที่ห้าของประเทศสหรัฐฯ
ทั้งนี้ มหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนของปี 2024 ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่แอลเอ หรือที่ปารีสก็ตาม จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19 กรกฎาคม - 4 สิงหาคม 2024 ต่อด้วยกีฬาพาราลิมปิก ระหว่าง 21 สิงหาคม - กันยายน 2024
ขณะเดียวกัน ทันทีที่ทราบว่าลอส แอนเจลิส จะได้เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันโอลิมปิกอย่างแน่นอนในปี 2024 หรือ 2028 นั้น ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้ส่งข้อความผ่านทวิทเตอร์ อ้างว่า เป็นผลงานของตัวเอง โดยบอกว่าเขาทำงานอย่างหนักเพื่อดึงเอาโอลิมปิกฤดูร้อนมายังลอส แอนเจลิส ท่ามกลางเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากหลายฝ่าย เพราะประธานาธิบดีไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน กระทั่งมีโอกาสได้พบกับ โทมัส แบช ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล เมื่อเดือนมินายนที่ผ่านมาที่ทำเนียบขาว และบอกว่าทำเนียบขาวจะสนับสนุนเมืองแอลเอ เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันโอลิมปิกเต็มที่
นอกจากนั้น ยังเป็นที่หวั่นเกรงกันตลอดมาว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ จะกลายเป็นสาเหตุให้ลอส แอนเจลิส พลาดจากการเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิก 2024 เพราะสมาชิกส่วนใหญ่ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล มาจากประเทศลาตินอเมริกา รวมถึงแม็กซิโก ซึ่งมีปัญหากับ “แนวคิด” ของทรัมป์มาตั้งแต่สมัยหาเสียงเลือกตั้ง นอกจากนี้ทรัมป์ยังข่มขู่เมืองแอลเอ ว่าอาจถูกตัดงบช่วยเหลือของรัฐบาลกลาง หากยังคงทำตัวเป็น “เมืองหลบภัย” ของผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายต่อไป ซึ่งหากเป็นจริง เมืองแอลเอ ก็จะขาดงบประมาณมหาศาลในการปรับปรุง หรือแก้ไขปัญหาต่างๆ อันจะส่งผลกระทบให้การเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน เป็นไปได้ยากขึ้นอีกด้วย.