สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สหภาพยุโรป (อียู) สั่งปรับกูเกิล บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐเป็นเงินสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 2,400 ล้านยูโร (ราว 91,000 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน จากการเลือกปฏิบัติด้วยการเอื้อประโยชน์ให้บริการซื้อสินค้าออนไลน์ของตนเองเหนือคู่แข่ง นับเป็นบทลงโทษที่คาดว่าจะทำให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐไม่พอใจอย่างรุนแรง
นางมาเกรอเธ เวสเตเกอร์ กรรมาธิการยุโรปด้านการแข่งขันชาวเดนมาร์ก กล่าวว่า กูเกิลใช้การเป็นผู้ครอบครองส่วนแบ่งการตลาดในฐานะเสิร์ชเอ็นจิ้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ของตนเองในทางที่ผิดด้วยการสร้างความได้เปรียบให้กับบริการกูเกิลช็อปปิ้ง
“สิ่งที่กูเกิลทำผิดกฏหมายต่อต้านการผูกขาดของอียู” นางเวสเตเกอร์กล่าวในการแถลงข่าว “กูเกิลปิดกั้นโอกาสของบริษัทอื่นๆ ในการแข่งขันด้วยจุดเด่นและนวัตกรรม และที่สำคัญที่สุด พวกเขาปฏิเสธสิทธิที่แท้จริงของลูกค้าชาวยุโรปในการเลือกที่จะได้รับผลประโยชน์เต็มที่จากนวัตกรรม”
นางเวสเตเกอร์กล่าวว่า ถึงตอนนี้ กูเกิลมีเวลา 90 วันที่จะยุติการปฏิบัติดังกล่าว หรือเผชิญกับโทษปรับที่อัตราสูงขึ้น คิดเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ต่อวัน หรือเท่ากับประมาณ 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน
เงินค่าปรับดังกล่าวทำลายสถิติเดิมที่อินเทล บริษัทผู้ผลิตชิปประมวลผลยักษ์ใหญ่เคยถูกลงโทษปรับเป็นเงิน 1,060 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 36,000 ล้านบาท) เมื่อปี 2009
ทั้งนี้ กูเกิลระบุว่า เคารพคำตัดสินแต่ว่าไม่เห็นด้วยกับอียูหลังจากสอบสวนกรณีนี้มาเป็นเวลา 7 ปี และจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว