สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กองทุนสำรองแห่งรัฐหรือธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนว่า ธนาคารใหญ่ๆ ของสหรัฐจะสามารถทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงและยังสามารถปล่อยเงินกู้ให้ครัวเรือนและธุรกิจของชาวอเมริกันได้อีกด้วย
ผลการทดสอบภาวะวิกฤตหรือ “สเตรสเทสต์” ส่วนแรกของเฟดแสดงให้เห็นว่า ธนาคารใหญ่ 34 แห่งมีรากฐานทางด้านเงินทุนที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ผลการทดสอบจัดทำขึ้นภายใต้กฎหมายปฏิรูปการเงินด็อดด์-แฟรงก์ ปี 2010 ที่สภาคองเกรสผ่านออกมาภายหลังเกิดวิกฤตการเงินโลกครั้งใหญ่เมื่อปี 2008 ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าจะผ่อนคลายความเข้มงวดของกฎหมายฉบับนี้ลง
“แม้ว่าจะตกอยู่ในสภาพเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง ธนาคารใหญ่ๆ ของเรายังคงมีเงินทุนสำรองที่แข็งแกร่ง” นายเจอโรม เพาเวลล์ ผู้ว่าการเฟดระบุในแถลงการณ์ และว่า “นี่จะทำให้พวกเขาสามารถปล่อยเงินกู้ได้ตลอดวงจรเศรษฐกิจ และให้การสนับสนุนครัวเรือนและธุรกิจได้เมื่อสถานการณ์ย่ำแย่”
ทั้งนี้ ผลที่ออกมาแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นทนทานที่เพิ่มมากขึ้นในภาคการธนาคาร โดยสถาบันการเงิน 34 แห่งที่เข้าร่วมการทดสอบ มีการเพิ่มเงินทุนส่วนเจ้าของธุรกิจต่อสินทรัพย์เสี่ยงอีก 750,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ