ฮีทเวฟ คร่าสองศพในแคลิฟอร์เนีย

คลื่นความร้อนที่พัดผ่านแคลิฟอร์เนียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อยสองราย โดยสำนักงานสาธารณสุขของซานตา คลาร่า เคาน์ตี้ แถลงเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองคนอยู่ในซาน โฮเซ่ คนแรกเป็นชายวัย 72 ปี รายที่สองเป็นหญิงวัย 87 ปี โดยทั้งสองเสียชีวิตจากภาวะไข้สูง (Hyperthermia) ที่มีต้นเหตุจากความร้อน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน

โดยอุณหภูมิในวันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน ในเมืองซาน โฮเซ่ นั้นสูงถึง 94 องศา ส่วนในย่านอินแลนด์ อุณหภูมิผ่านหลักร้อยองศา โดยในย่าน ริดดิ้ง (ใน Shasta County) มีอุณหภูมิสูงสร้างสติถิใหม่ที่ 113 องศา โดยทำลายสถิติเดิมของปี 1988 ที่ 104 องศา

ส่วนวันอังคารที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่อุณหภูมิสูงสุดของสัปดาห์ ในบริเวณ เดธ แวลเล่ย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ทะเลทราย อุณหภูมิสูงถึง 127 องศา หรือต่ำกว่าอุณหภูมิสูงสุดที่เคยวัดได้บนโลกนี้เพียงแค่เจ็ดองศาเท่านั้น

ที่ซานดิเอโก้ อุณหภูมิเมื่อวันอังคารสูงสร้างสถิติที่ 124 องศา และคาดว่าในวันพฤหัสฯ ที่ 22 มิถุนายน อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3-4 องศา

สาธารณสุขของซานตา คลาร่า เคาน์ตี บอกว่าวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันอันตรายจากอุณหภูมิที่ร้อนจัด คือการดื่มน้ำให้เยอะกว่าปกติ อาบน้ำ และพยายามเลี่ยงการออกไปอยู่กลางแดด.



ชายหาดแคลิฟอร์เนียใต้ “สอบตก” อีกปี

องค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติ ชื่อ Heal the Bay ซึ่งได้จัดทำรายงานผลการตรวจสอบความสะอาดของน้ำทะเลชายฝั่งแคลิฟอร์เนียตอนใต้เป็นประจำทุกปี ได้ประกาศผลรายงานฉบับล่าสุด โดยบอกว่าปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มี “มลภาวะ” ในทะเลมากกว่าปกติ และมีผลให้คนที่ลงเล่นทะเลในภูมิภาคนี้ เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้มากกว่าการเล่นน้ำทะเลในภูมิภาคอื่น

ผลสำรวจที่มีการเปิดเผยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา คือผลการสำรวจคุณภาพน้ำทะเลอย่างต่อเนื่อง ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน ถึงตุลาคมของปี 2016 พบว่าเกือบครึ่งของชายหาดของแคลฟอร์เนียภาคใต้จำนวนทั้งสิ้น 85 ชายหาด ได้เกรด F เพราะมีปริมาณของแบ๊กทีเรียมากในระดับที่อาจทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ หรือหากว่ากันเฉพาะชายหาดที่อยู่ใน แอลเอ เคาน์ตี นั้น ส่วนใหญ่ คือกว่าครึ่งได้เกรด F

โดยอาการจากการสัมผัสแบ๊กทีเรียดังกล่าว มีตั้งแต่หมดแรง ท้องร่วง หูติดเชื้อ ระบบหายใจติดเชื้อ รวมถึงมีผื่นคัน

ทั้งนี้ ชายหาดสิบแห่งที่ได้รับเกรดต่ำที่สุดจากองค์กร ฮีลเดอะเบย์ คือ Lakeshore Park และ Marina Lagoon ใน ซาน มาเทโอ้ (F), La Jolla Cove, La Jolla (D), Santa Monica Pier (D), Capitola Beach ในซานตาครูซ เคาน์ตี (D), Luffenholtz Beach ในทรินิแดด ฮัมโลลด์ เคาน์ตี (D), Mother's Beach ในมาริน่าเดลเร (D) และ Monarch Beach ทางเหนือของ เซาท์ ครีท ของเดน่าพอยท์ (D).




ร.ร.ลากันยาด้า ไฮฯ เลื่อนเปิดเรียนเป็น 8.30 น.

นักเรียนของโรงเรียน ลา กันยาด้า ไอสกูล (La Cañada High School) ได้เฮ เพราะนับจากโรงเรียนเปิดเทอมในช่วงฟอลล์ ซึ่งใกล้เข้ามาแล้วนี้ พวกเขาจะมีเวลานอนนานขึ้นกว่าครึ่งชั่วโมง เพราะโรงเนียนจะเปิดสายลง คือจากเดิม 7.45 น. เป็น 8.30 น.

การเลื่อนเวลาเข้าเรียนของโรงเรียนในย่านคนรวยแห่งนี้ เป็นผลมาจากมติเอกฉันท์ของคณะกรรมการบริหารโรงเรียนของเทศบาลเมืองลากันยาด้า ที่จะให้ “ทดลอง” การขยับเวลาดังกล่าวเป็นเวลาหนึ่งปี เพื่อดูว่าจะมีผลดีกับการเรียนหนังสือของเด็กตามที่มีการวิเคราะห์กันหรือไม่

ทั้งนี้ การเพิ่มเวลาให้เด็กได้พักผ่อนเพิ่มขึ้นในช่วงเช้า ทำให้สมองของนักเรียนปลอดโปร่ง สามารถเรียนหนังสือในชั่วโมงแรกได้ดีขึ้น อีกทั้งเป็นการลดอุบัติเหตุ หรืออันตรายที่อาจจะเกิดกับเด็กที่ยังคงสลึมสลือขณะเดินทางไปโรงเรียนได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ข่าวบอกว่าการปรับเปลี่ยนเวลาเรียนดังกล่าว อาจจะมีผลกระทบกับกิจกรรมที่โรงเรียนต้องทำร่วมกับโรงเรียนอื่น เช่นการแข่งขันกีฬา ฯลฯ เพราะเวลาเลิกเรียนของแต่ละโรงเรียนจะไม่ตรงกัน.