ดูโลก ดูธรรม และดูใจ
โดย ดร.พระมหาจรรยา สุทธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา
ความเอื้ออาทรจากชาววัดพุทธปัญญา และชุมชนคนรักธรรม ถึงเด็กน้อยยอดดอย














โดย : ดร. นภาพร วิจารณ์ปรีชา


วันที่ 29 พฤษภาคม 2560 เวลา 7.00 น. ผู้เขียนได้ร่วมเดินทางพร้อมกับดร. พระมหาอัมพร ชุตินฺธโร เจ้าอาวาสวัดสันคะยอม อ. สันป่าตอง จ.เชียงใหม่และคุณพิมพรรณ ภู่ปะวะโรทัย. โดยมีคุณศราวุธ ตุ้ยตาจม (บอย) เป็นผู้ขับรถมุ่งหน้าสู่อำเภอแม่แจ่ม ทำหน้าที่เป็นสะพานบุญให้กับชาววัดพุทธปัญญาและชุมชนคนรักธรรม ตามที่ พระอาจารย์ ดร. พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณ ให้เกียรติมอบความไว้วางใจ เพื่อนำเงินที่คุณจุไร ไกรสอน ดร. นภาพร วิจารณ์ปรีชา เหรัญญิกวัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย โอนมาให้จำนวนทั้งสิ้น 120,000 บาท ตามคำสั่งของ ดร. พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณเจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา

เงินจำนวนนี้ได้จากการทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษาของวัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2560 ซึ่งชาววัดพุทธปัญญาร่วมกันจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินที่ได้ทั้งหมดมาช่วยเหลือการศึกษาแก่โรงเรียนในถิ่นทุรกันดารในประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2560 ก็ได้นำเงินจำนวน 120,000 บาทมอบให้เพื่อการศึกษา (จ้างครูสอน) แก่โรงเรียนไตรมิตรสามัคคี อ.สบปราบ จ. ลำปาง

เงินอีกส่วนหนึ่งได้จากโครงการ “รักษ์โลก รักน้อง” ซึ่งชาววัดพุทธปัญญา และชุมชนคนรักธรรม ชาวกริฟฟิตปาร์ค มหานครลอส แอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ร่วมกันจัดตั้งและดำเนินการมาเป็นเวลานานแล้ว โดยโครงการนี้เกิดจากความคิดริเริ่มของดร. พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดขยะ รักษาโลกให้สะอาดสวยงาม ในขณะเดียวกัน ขยะเหล่านี้ก็สามารถนำไปขายเป็นเงินที่ค่อยๆ สะสมไว้ แล้วนำไปช่วยเหลือการศึกษาแก่เด็กๆในถิ่นทุรกันดารได้ เรียกว่า ช่วยกันคนละไม้คนละมือรักษาโลกให้สะอาด สวยงามแล้วยังได้เผื่อแผ่ความรัก ความเอื้ออาทรให้แก่เด็กๆ ในถิ่นทุรกันดารด้วย แม้ว่าคนไทยเหล่านี้จะจากบ้านเมืองไทยไปอยู่ที่อเมริกา เมืองที่ทันสมัย สวยงาม สุขสบายพรั่งพร้อมทุกๆอย่างแต่ก็ยังไม่ลืมคนไทยที่อยู่เมืองไทยในถิ่นทุรกันดาร หรือจะเรียกว่า คนไทยไม่ทิ้งกัน ก็น่าจะใช้ได้กับคำนี้

แวะรับประทานอาหารมื้อเช้าที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ก่อนที่จะขับรถมุ่งหน้าขึ้นดอยสู่ อ. แม่แจ่ม ต่อไป วันนี้เช้ามีฝนตกประปรายมาตลอดทางหยุดบ้างตกบ้างสลับกันไป ทำให้อากาศไม่ร้อนมาก มาถึงโรงเรียนแห่งแรกที่อ.แม่แจ่ม เวลาประมาณ 10.00 น. คือโรงเรียน “ชุมชนการเรียนรู้ สมเด็จย่า” วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แม่แจ่ม

กว่าจะมาถึงโรงเรียนแห่งนี้ต้องโทรติดต่อประสานงานกับครูแม้ว ซึ่งทำงานที่โรงเรียนแห่งนี้ และมารอรับที่ถนนใหญ่ ก่อนจะขี่รถนำทางพวกเราเข้ามาถึงที่โรงเรียน เพราะเป็นถนนทางเส้นเล็กที่แยกจากถนนเส้นใหญ่ เลี้ยววกวน ถ้าขับรถเสาะหามาเองคงใช้เวลามากกว่านี้อย่างแน่นอน เมื่อมาถึงโรงเรียน ได้พบกับนายสิงหา แซ่ตึ้ง ผู้อำนวยการโรงเรียนและครูอีก 2 คน  โรงเรียนแห่งนี้ คุณสิงหา แซ่ตึ้ง เล่าให้ฟังว่าเพิ่งย้ายห้องเรียนมาจากที่เดิม ซึ่งเราก็ไม่เคยมาจึงวาดภาพไม่ออกว่าสถานที่เดิมเป็นอย่างไร แต่สถานที่ใหม่แห่งนี้ เป็นลานกว้าง ดินเหนียวเละเฉอะแฉะ เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาฝนตก ขณะที่มาถึงก็ยังมีฝนตกโปรยปรายเบาๆ ต้องเดินอย่างระมัดระวังมากเพราะมีสิทธิ์ลื่นล้ม เสื้อผ้าเปื้อนดินเหนียวเละอย่างแน่นอน

คุณสิงหาเดินนำพวกเราขึ้นไปที่เรือนหลังหนึ่งที่ใช้เป็นห้องเรียน เรือนหลังนี้ฝาผนังใช้ไม้ไผ่ซึ่งชุบแช่ยูเรียนาน 3 วัน ดังนั้นมอดจะไม่กินอย่างแน่นอน พวกเราได้กลิ่นเหม็นคล้ายอุจาระม้า คิดว่านี่คงเป็นกลิ่นยูเรีย หลังคาคล้ายๆสังกระสีแต่ไม่มีลอน คุณสิงหาบอกว่าไม่สามารถใช้กระเบื้องลอนได้ เพราะโครงหลังคาที่เชื่อมเป็นเหล็กเส้นไม่ใหญ่มาก ไม่สามารถรับน้ำหนักกระเบื้องได้ สักครู่ครูก็เรียกนักเรียนขึ้นมารวมตัวกันที่เรือนหลังนี้ และฟังโอวาทจาก ดร.พระมหาอัมพร ชุตินฺธโร หลังจากนั้นก็มอบเงินให้แก่ทางโรงเรียนแห่งนี้เป็นจำนวนเงิน 40,000 บาทถ้วน พร้อมทั้งหนังสือ “ธรรมะทูโก 4” และ “บทธรรมในบทความ” แก่ทางโรงเรียนด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวตอบขอบคุณ

พวกเราออกจากโรงเรียน“ชุมชนการเรียนรู้ สมเด็จย่า” เวลาประมาณ 10.45 น.ต้องรีบเดินทางต่อไปยังโรงเรียนแห่งที่ 2 ซึ่งอยู่ไกลออกไปอีก โดยมีครูแม้ว (ชื่อนิคเนม) เป็นผู้นำพาเราไปเช่นเดิม เพราะต้องรีบทำเวลาเล็กน้อย เนื่องจากจะเลยเวลาฉันเพลของพระ มาถึงโรงเรียนแห่งที่ 2 เวลาประมาณ 11.40 น.โรงเรียนนี้ชื่อ ”โรงเรียนบ้านแม่วาก” ได้พบกับ ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อ นางพัชรินทร์ วงศ์ติ๊บ เมื่อคุยแนะนำตัวกันเรียบร้อยอย่างไม่เป็นทางการ ก็รีบตั้งโต๊ะเสริฟอาหาร ให้แก่ ดร. พระมหาอัมพร ชุตินฺธโร และผู้ร่วมคณะ ก่อนที่จะเริ่มพบปะนักเรียนอย่างเป็นทางการหลังอาหารมื้อเพล โดยอาหารมื้อเพลนี้ มีทั้งก๋วยเตี๋ยวน้ำลูกชิ้นหมู และอาหารพื้นเมืองภาคเหนือ อาหารมื้อนี้ ดร. นภาพร วิจารณ์ปรีชา ได้ร่วมบริจาคทั้งหมด

หลังจากอาหารมื้อเพลแล้ว ได้พบปะนักเรียนและครูทั้งโรงเรียนมารวมตัวกันที่ห้องเรียนเพื่อฟังโอวาทจาก ดร. พระมหาอัมพร ชุตินฺธโร หลังจากให้โอวาทแก่นักเรียนแล้วก็ได้มอบเงินให้แก่ทางโรงเรียน เป็นจำนวนเงิน 40,000 บาทถ้วนพร้อมทั้งหนังสือ “ธรรมะทูโก 4” และ “บทธรรมในบทความ” แก่ทางโรงเรียนด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวตอบขอบคุณ

พวกเราก็พากันออกเดินทางต่อไปยังโรงเรียนแห่งที่ 3 ซึ่งมีระยะทางไกลมากถึง 90 กิโลเมตรจากโรงเรียนบ้านแม่วากแห่งนี้ ขับรถออกจากโรงเรียนแม่วากเวลา 13.15 น.มาถึงโรงเรียนพุทธเกษตร ขุนยวม อ.ขุนยวม จ. แม่ฮ่องสอน เวลาประมาณ 15.00 น.ครูสิงหา แซ่ตึ้งและครูแม้ว ขับรถนำทางมาตลอด

เมื่อมาถึงโรงเรียนพุทธเกษตร ได้พบกับพระเจริญพัฒนา ปวฑฺฒโณ ผู้อำนวยการโรงเรียนออกมาให้การต้อนรับและพาเข้าสู่ห้องเรียนที่มีนักเรียนเป็นพวกชนเผ่าต่างๆนั่งรออยู่ จากการฟังครูที่โรงเรียนเล่าให้ฟังว่า นักเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้เป็นชนชาวเขาเผ่าต่างๆหลายเผ่า เช่น อาข่า ม้ง พื้นราบ กะเหรี่ยง ไทยใหญ่ ลีซอ จีนฮ่อ ซึ่งมาจากหลายจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย ตาก นักเรียนจะพักกินนอนที่โรงเรียนตลอดเวลา หลังจากนั้น ดร. พระมหาอัมพร ชุตินฺธโร ได้ให้โอวาทแก่นักเรียน

หลังจากให้โอวาทแก่นักเรียนแล้วก็ได้มอบเงินให้แก่ทางโรงเรียน เป็นจำนวนเงิน 40,000 บาทถ้วนพร้อมทั้งหนังสือ “ธรรมะทูโก 4” และ “บทธรรมในบทความ” แก่ทางโรงเรียนด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวตอบขอบคุณ

พวกเราออกจากโรงเรียนพุทธเกษตรเวลาประมาณ 17.00 น. ขับรถย้อนกลับเส้นทางเดิม กลับถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพเวลาประมาณ 20.30 น. ตลอดการเดินทางมีฝนตกประปรายเป็นบางแห่ง สองข้างทางเขียวชอุ่มด้วยต้นไม้ สังเกตเห็นว่าต้นไม้ถูกตัดทำลายมากมาย ภูเขาโล้นเป็นพื้นที่กว้างหลายแห่ง

ความรู้สึกของผู้เขียนเห็นว่าครูที่ทำการสอนเด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลตัวเมืองมากๆ ห่างไกลแสงสีของความศิวิไลซ์ ต้องมีความเสียสละ มีใจรักเด็กนักเรียนผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาและตัวครูมีความรักในชีวิตสันโดษ เนื่องจากพอเวลาพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าจะมีแต่ความมืดบริเวณภายนอก เงียบสงัด ไม่มีรถราวิ่งขวักไขว่เหมือนชีวิตคนในเมือง ชีวิตที่มีแต่ความเงียบเหงาแต่มีเสียงเด็กนักเรียนที่คอยเรียกหาครู ที่เปรียบเสมือนพ่อแม่ เป็นขวัญและกำลังใจ ให้ความอบอุ่นแก่ชีวิตเด็กนักเรียนเหล่านี้ ขอเป็นกำลังใจให้แก่คุณครูผู้เสียสละทุกคน และขอให้เด็กนักเรียนทุกๆคนจงตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้เต็มสติปัญญาความสามารถ และประสบความสำเร็จในการศึกษาเล่าเรียนเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติต่อไป และหันมาช่วยกันสืบสานความช่วยเหลือกันและกันรุ่นต่อๆไป

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณชาววัดพุทธปัญญาและชุมชนคนรักธรรม กริฟฟิตปาร์ค มหานครลอส แอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ทุกๆ ท่านแทนเด็กๆ นักเรียนบนยอดดอย ที่พวกท่านได้ร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเหลือกันเสียสละทั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือเด็กๆนักเรียนเหล่านี้ให้มีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนตลอดไป ขอชมเชยในน้ำใจของทุกๆ ท่าน แม้ท่านจะอยู่ในดินแดนที่เปี่ยมด้วยความศิวิไลซ์ แต่ท่านก็ยังคิดถึงเด็กน้อยผู้ที่อยู่ในหุบเขา ยอดดอยที่ไร้แสงสี พวกท่านทั้งหลายได้มอบความรัก ความอบอุ่น มอบกำลังใจให้แก่ครูผู้เสียสละ และเด็กๆนักเรียนทั้งหลายให้สามารถยืนหยัดบนโลกที่นับวันจะขาดความเอื้ออาทรต่อกัน

ด้วยผลานิสงส์แห่งผลบุญที่ทุกๆท่านได้กระทำแล้วจงเป็นพลวปัจจัยให้ทุกๆท่านประสบแด่ความสุข ความเจริญก้าวหน้าทั้งในชาตินี้ และทุกๆชาติเทอญ...

ดร. นภาพร วิจารณ์ปรีชา
บ้านเวชกานต์ อ.เมือง จ. เชียงใหม่
วันที่ 30 พฤษภาคม 2560 เวลา 20.50 น.

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส
12-07-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 50 สุดทางสายบาลี (0/2795) 
06-07-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 49 ฝึกฝนตนที่วัดชลประทานรังสฤษฎ์ (0/645) 
28-06-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 48 สอบได้แต่แม่เสีย (0/609) 
20-06-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 47 สอบเปรียญธรรม 7 ประโยคได้ (0/679) 
07-06-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 46 กราบหลวงพ่อปัญญานันทะ (0/668) 

แสดงความคิดเห็น

Name :
 
Detail :
 



ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข