โปรแกรมทดลองแบบใหม่ จะเน้นไปที่การตรวจเครื่องไฟฟ้า (electronic device) ซึ่งปกติ ผู้โดยสารจะใส่ในกระเป๋าที่หิ้วขึ้นเครื่อง (carry-on bag) โดยนับจากนี้ ผู้โดยสารจะต้องใส่อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่างที่ใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่ iPad, tablets และ kindlesในถาดที่แยกต่างหาก แทนที่จะถูกตรวจทั้งที่อยู่ในกระเป๋า ดังนั้นจะใช้เวลาในการตรวจสอบนานขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน ที่มีผู้คนเดินทางท่องเที่ยวมากกว่าปกติ
เจ้าหน้าที่ของ TSA ระบุว่า โครงการทดลองแบบใหม่ดังกล่าวนี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมาตรการป้องกันการก่อการร้ายที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้มงวดถึงขั้นห้ามไม่ให้ผู้โดยสารจากบางประเทศ นำอุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านี้ขึ้นเครื่องบิน โดยยืนยันว่าเป็นเพียงมาตรการรักษาความปลอดภัยตามปกติ ทั้งนี้เพื่อให้การตรวจตรากระเป๋าหิ้วขึ้นเครื่องของผู้โดยสาร เป็นไปอย่างละเอียดมากขึ้น ด้วยว่าปัจจุบันนี้ ค่าธรรมเนียมกระเป๋า (baggage fee) ถูกปรับเพิ่มสูงขึ้น ผู้โดยสารจึงพยายามใส่สิ่งของในกระเป๋าหิ้วขึ้นเครื่องมากขึ้น ทำให้การตรวจสอบทำได้ยาก และใช้เวลานานขึ้นตามไปด้วย
โดยนอกจากสนามบินแอลเอเอ็กซ์แล้ว โปรแกรมทดลองดัวกล่าวนี้ มีขึ้นที่โคโลราโด้ สปริง, บอยซี่, ดีทรอยท์, ฟอร์ท ลอเดอร์เดล, บอสตัน, ลับบ๊อก, ซานฮวน, ลาสเวกัส และฟีนิกซ์.