ข่าวคนไทยในอเมริกา
จำคุก’เยาวภา’สองปี โกงภาษี-กดขี่โรบินฮูด


ร้านวอลเตอร์ คาเฟ่ หนึ่งในสองร้านอาหารของนางเยาวภา ฤทธิ์เดช




แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : “เยาวภา ฤทธิ์เดช” เจ้าของร้าน “เรือนทอง ไทย ค่าเฟ่” และ “วอลเตอร์ คาเฟ่” ในเมืองอูไคย่า ถูกศาลสั่งจำคุกสองปี ฐานเลี่ยงภาษี และเอาเปรียบแรงงานที่อยู่อย่างผิดกฎหมาย หลังจากที่ต้องชดใช้ค่าแรงย้อนหลังไปก่อนหน้านี้แล้วถึง 2.5 แสนดอลลาร์

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2017 สยามทาวน์ยูเอส ได้รับเอกสารข่าวจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แจ้งว่า นางเยาวภา ฤทธิ์เดช วัย 56 ปี นักธุรกิจร้านอาหารในเมืองอูไคย่า (Ukiah) เมนโดซิโน่ เคาน์ตี้ ทางเหนือของแคลิฟอร์เนีย ถูกผู้พิพากษา  เอ็ดเวิร์ด เอ็ม เช็น แห่งศาลแขวงแคลิฟอร์เนียภาคเหนือ สั่งลงโทษจำคุก 24 เดือนจากข้อหา เจตนาแจ้งเสียภาษีรายได้ที่เป็นเท็จ (Making and subscribing false tax returns) และเจตนาหาผลประโยชน์จากกลุ่มแรงงาน ที่เข้าประเทศแบบผิดกฎหมาย

โดยคดีอาญาทั้งสองข้อหาดังกล่าว เป็นการฟ้องร้องร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือกระทรวงแรงงาน กระทรวงยุติธรรม กระทรวงความมั่นคงภายใน (Homeland Security) และกรมสรรพากร (IRS) ด้วย

คำพิพากษาจำคุก 24 เดือนดังกล่าว ถือเป็นบทลงโทษที่ลดหย่อนจากโทษเต็มของความผิดในข้อหาเจตนาแจ้งเสียภาษีรายได้ที่เป็นเท็จ คือจำคุกระหว่าง 3-5 ปี โดยการลดหย่อนโทษดังกล่าวเป็นผลมาจากการยอมรับผิด (pleaded guitly) ของผู้ต้องหาชาวไทยเมื่อเดือนสิงหาคม 2016 ที่สารภาพว่าได้แจ้งเสียภาษีที่เป็นเท็จมาระหว่างปี 2007-2011 โดยแจ้งยอดขายของร้านอาหารทั้งสองต่ำกว่าความเป็นจริง และจ่ายค่าแรงคนงานเป็นเงินสด โดยไม่หักภาษี นอกจากนั้น ยังยอมรับว่าไม่ได้แจ้งรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากจากบัญชีธนาคารในเมืองไทยด้วย

อย่างไรก็ดี เอกสารของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แจ้งด้วยว่า นอกเหนือจากสั่งลงโทษจำคุก 24 เดือนแล้ว ผู้พิพากษา เอ็ดเวิร์ด เอ็ม เช็น ยังสั่งให้นางเยาวภา ฤทธิ์เดช อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ต่ออีกสามปีหลังพ้นโทษ, ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับ ไออาร์เอส 567,755.65 ดอลลาร์ และจ่ายให้กับคนงานที่ถูกโกงค่าแรงอีก 70,768.65 ดอลลาร์

ทั้งนี้ นางเยาวภา ฤทธิ์เดช และสามี คือนายสตีฟ วอลเตอร์ เจ้าของร้าน เรือนทอง ไทย ค่าเฟ่ และวอลเรอร์ คาเฟ่ ตกเป็นข่าวว่าถูกฟ้องร้องดำเนินคดีโดยกระทรวงแรงงาน มาตั้งแต่ปี 2012 จากพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบพนักงานในร้าน ที่ส่วนใหญ่เป็นคนไทย จำนวน 47 คน เช่นให้ทำงานวันละ 12 ชั่วโมงตลอดเจ็ดวัน ไม่มีเวลาหยุดพัก จ่ายค่าแรงต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด ไม่มีการจ่ายค่าล่วงเวลา ในช่วงระหว่างปี 2010-2013

ก่อนจะถูกตัดสินโทษจำคุกในวันนี้ นางเยาวภา ฤทธิ์เดช ถูกฟ้องร้องในคดีแพ่งมาก่อนแล้ว โดยการเอาเปรียบแรงงาน ซึ่งอยู่แบบไม่ถูกต้องของเธอนั้น กระทรวงแรงงานได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายให้กับแรงงานสูงถึง 1.9 ล้านดอลลาร์ ก่อนที่นางเยาวภา ฤทธิ์เดช จะยอมรับผิด และต่อรองเงินชดเชยความเสียหายจนเหลือ 250,000 ดอลลาร์ ในเดือนสิงหาคม 2016

โดยข่าวของนางเยาวภา ฤทธิ์เดช ที่สยามทาวน์ยูเอส ได้ติดตามนำเสนอมาเป็นระยะนี้ เคยกลายเป็นประเด็นที่ชาวไทยในอเมริกาให้ความสนใจอย่างมากเมื่อปีที่แล้ว เพราะมีการพูดถึงข้อหาเจตนาฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการมีบัญชีเงินฝากในต่างประเทศ (Willfully violating foreign bank account recording requirements) ที่นางเยาวภา ฤทธิ์เดช ได้รับถึงสองกระทง เพราะไม่ได้แจ้งว่ามีดอกเบี้ยจากเงินมากกว่า 10,000 ดอลาร์ในบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ของธนาคารกสิกรไทย ระหว่างปี 2009-2010 ซึ่งข้อหาดังกล่าวนี้ ข่าวบอกว่ามีโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี และปรับ 250,000 ดอลลาร์ หรือสองเท่าของยอดเงินในบัญชีต่างประเทศ (เลือกปรับจากยอดที่สูงกว่า) ประเด็นนี้ได้สร้างความตื่นตระหนักให้กับชาวไทยในอเมริกา เพราะส่วนใหญ่ไม่เคยรับรู้มาก่อน

เกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าวนี้ นายคิด ฉัตรประภาชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีของสหรัฐฯ เปิดเผยกับสยามทาวน์ฯ ว่าเป็นกฎหมายที่มีมาตั้งแต่ปี 1970 เรียกว่า the Bank Secrecy Act. เพื่อให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการสืบหาเงินที่ถูกนำไปฝากในต่างประเทศเพื่อหลบเลี่ยงภาษี ซึ่งอาจจะเกี่ยวพันไปถึงการฟอกเงิน หรือการสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อการร้าย ฯลฯ โดยกฎหมายฉบับนี้จะมีผลกับพลเมืองอเมริกัน และผู้มีถิ่นฐานถาวรในอเมริกา (ใบเขียว) เท่านั้น  โดยไออาร์เอส มีข้อตกลงความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินถึง 77,000 แห่งในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก รวมถึงทุกธนาคารในประเทศไทยด้วย

สาระของกฎหมายฉบับนี้ระบุว่า ผู้มีเงินฝากในบัญชีธนาคารในต่างประเทศเกินกว่า 10,000 ดอลลาร์ (ทั้ง Saving Checking, Secuities or Brokerage Insurance, Retirement Account และ annuities) จะต้องยื่นแบบฟอร์มเสียภาษี เรียกว่า FBAR Form 114 ภายใน 30 มิถุนายน ของทุกปี

อย่างไรก็ตาม ไออาร์เอส แถลงเพิ่มเติมว่า หากผู้ใดขอยื่นภาษีย้อนหลัง 3 ปี ถือว่าไม่มีเจตนาจะหลีกเลี่ยงการเสียภาษี จะเสียค่าปรับเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ของยอดเงินในบัญชีธนาคารต่างประเทศ และจะไม่มีความผิดทางอาญาแต่อย่างใด.

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :
 
Detail :
 



  • ¤ÇÒÁ¤Ô´àËç¹·Õè : 4

Nice blog here! Also your web site loads up very fast! What web host are you using? Can I get your affiliate link to your host? I wish my web site loaded up as fast as yours lol|

  • ¼ÙéÊè§: cartier santos review replica
  • 219.136.94.245 Nov 12, 2017 @04:36 AM
  • ¤ÇÒÁ¤Ô´àËç¹·Õè : 3

ในข่าวจะพูดถึงเรื่องการเลี่ยงภาษีเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่ได้กล่าวถึงการโกงและเอาเปรียบแรงงานคนไทยด้วยกันที่ทำงานที่ร้านแม้ไม่มีใบอนุญาต อันนี้คือกรณีตัวอย่างค่ะ ไม่ว่าคุณจะจ้างคนที่มีใบหรือไม่มีใบ คุ ณ ต้ อ ง จ่ า ย เ ข า ค่ า แ ร ง ขั้ น ต่ำ ต า ม Labor law ของรัฐและของเมืองค่ะ อันนี้อยากให้เป็นบทเรียนสำหรับทุกๆคนเพื่อจะได้แก้ไขทำในสิ่งที่ถูกต้องเพราะศาลแรงงานฟ้องเรียกค่าเสียหายสูงถึง 1.9 ล้านดอลล่าร์ แต่ตกลง settled กันที่ $ 250,000 ซึ่งถ้านายจ้างจ่ายอย่างถูกต้องจะไม่ต้องกังวลว่าจะถูกฟ้องและเราเองก็รู้สึกดีที่ทำในสิ่งที่ถูกกฏหมาย

  • ¼ÙéÊè§: Jee Suthamwanthanee
  • 104.13.61.161 May 08, 2017 @09:14 AM
  • ¤ÇÒÁ¤Ô´àËç¹·Õè : 2

เหมือนร้าน RCA ที่ปิดหนี

  • ¼ÙéÊè§: James
  • 108.81.21.230 May 08, 2017 @08:39 AM
  • ¤ÇÒÁ¤Ô´àËç¹·Õè : 1

กรรมตามทัน

  • ¼ÙéÊè§: พรชัย
  • 27.145.42.138 May 01, 2017 @07:20 AM
ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข