นอกจากนี้ยังได้ความรู้ใหม่ว่า เมื่อไปถึงสถานีต้องเลือกวันเดินทาง เพราะแต่ละวันราคาไม่เหมือนกัน เขาจะดูราคาขณะนั้นว่าเท่าไร ตั๋วที่เรามีอยู่ราคาเท่าไร ถ้าตั๋วที่เรามีอยู่ราคาเท่ากันกับราคาวันเดินทาง เราจะได้เดินทางฟรี แต่ถ้าราคาตั๋วขณะนั้นราคาแพงกว่าตั๋วที่เรามีอยู่ ต้องเติมเงินจากราคาตั๋วที่เรามีจนครบตามจำนวนราคาตั๋วปัจจุบัน
วันที่ 18 เมษายน 2560 เวลา 14.15 น. เป็นเวลาเดินทาง จากสถานี Chicago Union Station ไปยัง King street Station, Seattle รัฐวอชิงตัน
ก่อนออกเดินทางเที่ยวนี้ มีญาติโยมที่มาเลี้ยงอาหารเพลแล้วมาส่งที่สถานีหลายคน เนื่องจากมาถึงสถานีก่อนเวลา จึงมีเวลาคุยกันนานตามสมควร เมื่อถึงเวลารถไฟออกจึงกล่าวคำอำลาจากกัน ประกอบกับได้บอกความตั้งใจว่า ได้มาทำงานพระพุทธศาสนาในตำแหน่งเจ้าอาวาสที่วัดพุทธธรรมในช่วงเปลี่ยนผ่านนานพอสมควร เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ระบบการบริหารวัดสามารถขับเคลื่อนโดยสมาชิกของวัดได้แล้ว ก็ขอลาออกจากตำแหน่ง จากนี้ต่อไป ไม่รู้ว่า เมื่อไรจะได้พบกันอีก เมื่อเดินเข้าประตูผู้โดยสาร หลายท่านได้เมล์มาบอกว่า น้ำตาไหลไม่รู้ตัว
ขอขอบคุณ ทุกท่านที่มาถวายอาหารเพลและมาส่งถึงสถานีรถไฟ ได้พบสัจธรรมที่ว่า มีพบก็มีพราก แต่ไม่พรากกันตลอดไป ต้องมีวันพบกันอีก เมื่อใจที่ใฝ่ธรรมเรียกหาการศึกษาและปฏิบัติธรรมก็จะพบกันได้ หากทุกคนยังรักธรรม รักการภาวนา ก็จะพบกันได้เสมอ
หน้าที่หลักของพระธรรมทูต คือ การเผยแผ่ธรรม เมื่อพุทธบริษัทใฝ่ธรรมย่อมสมปรารถนา เป็นธรรมดา
เมื่อลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพุทธธรรม ชิคาโก้แล้ว กลับมาทำหน้าที่เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญาเพียงแห่งเดียว เพื่อทำหน้าที่พระธรรมทูตในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่พี่น้องพุทธบริษัทในเขตรัฐแคลิฟอร์เนียต่อไป
เมื่อเป็นเจ้าอาวาสเพียงวัดเดียว ภารกิจต่างๆก็เบาลง จึงมีเวลาในการจาริกไปเยี่ยม ท่านพุทธศาสนิกชนในที่ต่างๆที่ใฝ่ธรรมมะได้สะดวกมากขึ้น
รถไฟออกจากสถานีตรงเวลา นั่งมองทิวทัศน์ต่างๆที่หลากหลายสลับกันเริ่มตั้งแต่สภาพเมืองใหญ่ อย่างชิคาโกและวิสคอนซิน ที่พัฒนาอย่างเต็มที่ แล้วค่อยๆออกจากเขตเมืองไปเรื่อยๆ สภาพความเป็นเมืองเริ่มเบาบางลงตามลำดับ สภาพชนบท ปรากฏเข้ามาแทนที่หนาแน่นขึ้น
เมื่อตั้งใจอำลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพุทธธรรมแล้ว มีความรู้สึกโล่งเบา เพราะตำแหน่งเจ้าอาวาส ไม่ว่าวัดไหน ย่อมมีภาระที่ต้องดูแลมากมายทั้งเรื่องจิตใจของ ผู้คน ชุมชน วัฒนธรรม ประเพณีต่างๆที่เกี่ยวกับชีวิต รายจ่าย รายรับของวัดที่จะนำมาหล่อเลี้ยงกิจกรรมของวัดต่างๆ ล้วนเป็นที่มาของความหนักใจได้ทั้งนั้น ฉะนั้นคนโบราณจึงขนานนามเจ้าอาวาสว่า “สมภาร แปลว่า ผู้ที่รับภาระหนักพร้อม”
การแบกภาระหนักนานๆ เมื่อวางลง รู้สึกได้ถึงความเบา โล่งโปร่งสบาย เลยได้ข้อคิดว่า นี่แค่วางภาระหน้าที่รับผิดชอบได้แค่นี้ ยังโล่งโปร่งเบาขนาดนี้ แล้วพระอริยเจ้าละ ท่านวาง ความรู้สึกแม้ชีวิตหรือขันธ์ 5 ว่าเป็นตัวกูของกูลงได้ จะมีความสุขเบาสักปานใด คงไม่มีคำพรรณนา นี่แหละหนาพระพุทธเจ้า พระอริยเจ้า จึงวางสิ่งต่างๆอันให้ความรู้สึกสุขจากการครอบครองลงทั้งหมดออกไป แล้วรับวิมุตติสุข อันเป็นสุขจากความหลุดพ้นปล่อยวางไปตลอดชีพ ชีวิตของท่านเหล่านั้นช่างสูงส่งน่าเคารพบูชาเหลือเกิน
ที่นั่งบนรถไฟในห้องผู้โดยสารที่ไปยัง ซีแอตเติล ว่างเปล่าจำนวนมาก มีเพื่อนร่วมทางไม่กี่คนส่วนมากจะเป็นฝรั่งในวัยเกษียณ ที่มากันเป็นคู่เป็นนักท่องเที่ยว ได้พบฝรั่งทั้งจากยุโรปและแคนาดาหลายคู่
เมื่อจิตใจโล่งโปร่งเบาจากการวางภาระลงได้ ก็หลับไปอย่างสนิท หลับจนรู้สึกว่าสดชื่นมาก ตื่นขึ้นมาประมาณตีสามกว่า ฟังธรรมจาก YouTube ซึ่งมีให้ฟังมากมาย เลือกเอาเรื่องเกี่ยวกับความทุกข์และความดับทุกข์ ที่มีเป็นชุดของหลวงพ่อพุทธทาสและเรื่อง ภาวนาของท่านพรหมวังโส พระชาวอังกฤษ ที่พำนักอยู่ที่ออสเตรเลีย
เมื่อจิตเบากายเบา ได้ฟังธรรมดีๆเหมือนได้ลิ้มรสอาหารวิเศษ ฟังจนสว่าง มองเห็นอะไรต่างๆริมทางได้ชัดแล้ว ก็มองทิวทัศน์ต่างๆริมทาง ฝรั่งที่ทำงานในรถเสบียง นำกาแฟมา ถวาย 1 แก้ว ขอบอกขอบใจเป็นอย่างมาก แล้วจัดการฉันแอปเปิลเขียวผลหนึ่ง ข้าวเหนียว และกล้วยหอมที่เตรียมมา ตามด้วยน้ำอีก 1 ขวด อาหารเช้าก็ผ่านไปอย่างดี ที่ไหนมีกล้วยและแอปเปิลเขียวชีวิตก็ปลอดภัย พกพาง่ายฉันง่าย ฉันแล้วสบายไม่อึดอัด กระบวนการสุดท้ายเวลาถ่ายยังคล่องอีก
เมื่อฉันอาหารเช้าแล้ว มองทิวทัศน์ริมทางไปเรื่อยๆ เข้าเขตรัฐ Dakota จาก South Dakota สู่ North Dakota พื้นที่เป็นทุ่งหญ้า ทะเลทราย เห็นแท่นขุดเจาะน้ำมันตั้งอยู่เป็นระยะๆ เห็นขบวนรถไฟบรรทุกน้ำมันผ่านไปมาบ่อยๆแสดงว่า เป็นเขตอุตสาหกรรมผลิตน้ำมันที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกาทีเดียว
ทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล ฟาร์มเลี้ยงสัตว์เหมือนกันแต่ไม่มากนัก นานๆจึงจะเห็นฝูงวัวสักฝูงหนึ่ง ดินแดนแห่งนี้ ใต้ดินน่าจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำมันมากมาย
รถไฟวิ่งผ่านรัฐ Dakota เข้าสู่รัฐ Montana เมื่อเข้าเขต Montana สิ่งพบเห็นถี่ขึ้นคือ แม่น้ำลำธาร ฟาร์มขนาดใหญ่ รถวิ่งไปเรื่อยๆก็เห็นยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะแต่ไกล รถแล่นใกล้เข้าไปเรื่อยๆ ตกเย็น ก็เข้าเขตภูเขา รถไฟวิ่งไปตามป่าระหว่างเทือกเขา ผ่านแม่น้ำลำธารใสดังมรกตถี่ยิบ ผ่านป่าสนที่หิมะยังปกคลุมอยู่เป็นหย่อมๆมากบ้างน้อยบ้าง หนาบ้างเบาบ้างตลอดเส้นทาง
ระลึกถึงผู้ดำริสร้างทางรถไฟเส้นนี้ และคนสร้างทางรถไฟทุกคนช่างทรหดอดทนมาก เส้นทางรถไฟเส้นนี้วิ่งลอดอุโมงค์หลายแห่ง สั้นบ้างยาวบ้าง จำได้ว่า อุโมงค์ที่ยาวที่สุดนั้นยาวถึง 7 ไมล์กว่า
รถไฟวิ่งผ่าน Flat head national forest ที่แสนอุดมสมบูรณ์ เป็นต้นน้ำลำธารอย่างดี รถไฟวิ่งทั้งคืนอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติ พอรุ่งสางก็เข้าเขตรัฐวอชิงตัน ที่เรียกว่า เป็นรัฐสีเขียวตลอดปีหรือ Evergreen พอเข้าเขตรัฐวอชิงตันเจอแต่แม่น้ำน้อยใหญ่ที่ซอกซอนอยู่ตามป่าตามเขา ทางรถไฟก็วิ่งเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ ผ่านฟาร์มขนาดเล็ก ขนาดใหญ่มากมาย
เมื่อเข้าเขต Seattle ก็เห็นทะเลสาบกว้างใหญ่เวิ้งว้าง เมื่อเห็นทะเลสาบที่กว้างใหญ่สุดสายตาเช่นนี้ ก็พอคาดคะแนได้แล้วว่า บรรดาน้ำจากแม่น้ำทั้งหลายในรัฐวอชิงตันมาประชุมพร้อมหน้าในมหาทะเลสาบแห่งนี้นี่เอง
คงจะจบบันทึกการเดินทาง 2 วัน 2 คืน โดยรถไฟสาย Chicago-Seattle ด้วยความชุ่มเย็นแห่งทะเลสาบเพียงแค่นี้
เมื่อรถไฟเข้าสู่สถานี King Street, Seattle พระเดชพระคุณ พระวิเทศธรรมาภรณ์ ได้กรุณานำคณะมารับและนำไปพักที่วัดอตัมมยตาราม เมือง วูดดินวิลล์ ที่กุฏิหลังน้อยในป่าที่แสนร่มรื่นสงบเย็น
ขอขอบคุณท่านพุทธศาสนิกชนชาววัดพุทธธรรมที่มาส่งที่สถานีต้นทางและขอขอบคุณทุกท่านที่เดินทางมารับที่สถานีปลายทางไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
วัดอตัมมยตาราม เมืองซีแอตเติล
รัฐวอชิงตัน
24 เมษายน 2560 เวลา 7.04 น.