ตระเวนแอลเอ
ตระเวนแอลเอ 342

.

.



เตือนอันตราย “งูหางกระดิ่ง”

แอลเอไทมส์ รายงานข่าวว่าในช่วงที่ผ่านมา หน่วยงานควบคุมสัตว์ของเคาน์ตีต่างๆ ในแคลิฟอร์เนีย ได้รับแจ้งเรื่องการพบเห็นงูหางกระดิ่งในบริเวณรอบบ้านหรือย่านชุมชนต่างๆ มากกว่าปีที่ผ่านมา เช่นในซานดิเอโก้ เคาน์ตี มีการส่งเจ้าหน้าที่ออกไป “จับงู” ในย่านชุมชนแล้วเกือบ 300 ครั้งนับจากเดือนมกราคม เป็นต้นมา ถือว่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2016 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เชื่อว่าตลอดปีนี้ จะมีการแจ้งเรื่องพบงูหางกระดิ่งในย่านชุมชนมากกว่า 1,000 ครั้งของปีก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน

ข่าวบอกว่าปริมาณของงูหางกระดิ่งในแต่ละปี มีส่วนสัมพันธ์โดยตรงกับปริมาณหนู และสัตว์จำพวกหนูชนิดต่างๆ และเนื่องจากรัฐแคลิฟอร์เนียมีปริมาณน้ำฝนอย่างเหลือเฟือในช่วงที่ผ่านมา ทำให้หญ้าและต้นไม้ต่างๆ งอกงาม เป็นอาหารและที่หลบซ่อนอย่างดีของบรรดาสัตว์ประเภทหนูชนิดต่างๆ

ข่าวบอกด้วยว่าโดยปกติแล้ว งูหางกระดิ่งจะไม่กัดคน นอกจากจะถูกยั่วยุ ดังนั้นหากพบเห็นก็ให้หลีกเลี่ยง อย่าพยายามจับหรือขับไล่ หากพบเห็นในบริเวณบ้านหรือในย่านชุมชน ให้แจ้ง 911 ทันที

โดยในแต่ละปี จะมีชาวแคลิฟอร์เนียถูกงูหางกระดิ่งกัดประมาณ 300 คน ในช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงตุลาคม แต่จะมีเหตุ “งูกัด” สูงสุดในเดือนพฤษภาคม

วิธีป้องกันอันตรายจากงูหางกระดิ่งคือการใส่รองเท้าบูท และกางเกงขายาวขณะไฮกิ้ง รวมถึงระวังสุนัขซึ่งมีโอกาสถูกงูหางกระดิ่งกัดระหว่างออกไปไฮกิ้งค่อนข้างสูง โดยการใช้สายจูงสุนัขตลอดเวลา นอกจากนี้ ควรรักษาบริเวณรอบบ้านให้สะอาด และโล่งเตียนอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เป็นที่หลบซ่อนของงู หรือหนู ซึ่งจะทำให้มีงูตามมาในภายหลัง

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นสัตว์อันตราย แต่งูหางกระดิ่งมีบทบาทสำคัญในการกำจัดหนู เป็นกลไกธรรมชาติในการสร้างความสมดุลย์ของระบบนิเวศ ทำให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานควบคุมสัตว์ จะจับหรือโยกย้ายงูหางกระดิ่งเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น.





แอลเอประกาศ “วิกฤตโฮมเลส”

สภาเมืองลอส แอนเจลิส ประกาศสภาวะวิกฤตเกี่ยวกับปัญหาบ้านพักคนเร่ร่อน (declare a shelter crisis) เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อให้การเปิดบ้านพักสำหรับคนเร่ร่อน สามารถทำได้ง่ายขึ้นกว่าปกติ ถือเป็นการประกาศใช้ครั้งแรก หลังจากที่สภาเมืองลงมติผ่านเทศบัญญัติอนุญาตให้สามารถประกาศสภาวะวิกฤติเกี่ยวกับที่พักคนเร่ร่อนได้ปีละ 356 วัน โดยไม่จำกัดเฉพาะช่วงฤดูหนาวเหมือนที่ผ่านมา

ภายใต้สภาวะวิกฤติดังกล่าว เทศบาลสามารถให้ความช่วยเหลือบรรดา “โฮมเลส” โดยการอนุญาตให้หน่วยงานสาธารณกุศล หรือองค์กรศาสนาต่างๆ เปิดที่พักฉุกเฉิน หรือที่พักระยะสั้นให้กับคนเร่ร่อนได้โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการขออนุญาตมากมายเหมือนช่วงปกติ นอกจากนี้ยังสามารถใช้อาคารของเทศบาล หรือสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ในความดูแลของเทศบาลเป็นที่พักฉุกเฉินให้กับคนเร่ร่อนได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ปัญหาคนไร้บ้านในลอส แอนเจลิส กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยการนับจำนวนคนเร่ร่อนครั้งล่าสุดเมื่อปี 2016 พบว่ามีคนเร่ร่อนอาศัยอยู่ตามริมถนนในเมืองแอลเอ มากกว่า 28,000 คน ส่งผลให้เกิดปัญหาต่อเนื่องต่างๆ มากมาย

และปัญหาคนเร่ร่อนในลอส แอนเจลิส กลายเป็นเครื่องมือต่อรองของรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้เมืองลอส แอนเจลิส ปฏิบัติตามนโยบาย “แอนตี้อิมมิแกรนท์” เช่นต้องให้ความช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวกกับเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นในการจับกุมและเนรเทศผู้เข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ได้พูดหลายครั้งว่า หากเมืองแอลเอ ยังคงทำตัวเป็นเมืองหลบภัยของคนกลุ่มนี้ ก็จะไม่ได้รับงบประมาณช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางอีกต่อไป.





ห้ามครูจัดงานหาทุนที่แม็กโดนัลด์

คณะกรรมการบริหารการศึกษาของลอส แอนเจลิส (LA Board of Education) มีมติเห็นชอบกับระเบียบใหม่เกี่ยวกับเรื่องอาหารของเด็กนักเรียนสองข้อเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา หนึ่งคือเขตการศึกษาต้องจัดอาหาร “วีเก้น” ซึ่งเป็นอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ รวมถึงนมและไข่ ให้เด็กๆ ได้เลือกรับประทาน กับสองคือห้ามไม่ให้ครูจัดกิจกรรมหาทุน ที่เรียกว่า McTeacher’Night หรือกิจกรรมหาทุนของโรงเรียน ที่ร้านแม็กโดนัลด์ อีกต่อไป

โดยกิจกรรม McTeacher’Night คือความร่วมมือระหว่างโรงเรียนกับร้านแม็กโดนัลด์ สาขาใกล้โรงเรียน โดยในคืนดังกล่าว คณะครูรวมถึงครูใหญ่ จะทำหน้าที่เป็นพนักงานของร้าน เพื่อให้ผู้ปกครองและนักเรียนเข้ามาสั่งอาหารรับประทาน โดยแม็กโดนัลด์จะมอบรายได้ส่วนหนึ่งของยอดขายในคืนนั้นให้กับทางโรงเรียน ซึ่งข่าวบอกว่าระหว่างปี 2013-2016 มีกิจกรรม McTeacher’sNight ในลอส แอนเจลิส มากกว่า 120 ครั้ง ขณะที่แม็กโดนัลด์ เคยแถลงว่าได้มอบเงินมากกว่า 2.5 ล้านดลลาร์ให้กับโรงเรียนต่างๆ ผ่านกิจกรรม McTeacher’sNight ระหว่างเดือนมกราคม 2013 ถึงเดือนกันยายน 2015 มากกว่า 2.5 ล้านดอลลาร์

ข่าวบอกว่า มติดังกล่าวถือว่าสอดคล้องกับระเบียบว่าด้วยเรื่องการจัดเตรียมอาหารสำหรับนักเรียนของเขตการศึกษาลอส แอนเจลิส ที่เน้นอาหารเพื่อสุขภาพมากกว่าอาหารที่เด็กๆ ชอบ เพราะอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ส่งผลต่อเนื่องให้เด็กนักเรียนประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องการเรียนและกิจกรรมต่างๆ รวมถึงทำให้เด็กขาดเรียนเพราะเจ็บป่วยน้อยลง และว่าเขตการศึกษาลอส แอนเจลิส มีระเบียบ หรือ guideline ที่ชัดเจนว่าห้ามไม่ให้โรงเรียนขอสปอนเซอร์จากธุรกิจเกี่ยวอาหารที่ไม่เป็นผลดีกับสุขภาพของเด็กๆ เช่นของมึนเมา หรืออาหาร และเครื่องดื่มไขมันสูง-แคลอรี่สูง.





ให้ “ล้างตัว” ที่ฝักบัวริมหาดได้แล้ว

ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 14 เมษายน 2016 เป็นต้นมา ชาวแคลิฟอร์เนียรวมถึงนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำทะเลตามชายหาดของรัฐ (state beach) ทั้ง 38 แห่งของแคลิฟอร์เนีย สามารถ “ล้างตัว” จากฝักบัวริมหาดได้แล้ว หลังจากที่สำนักงานดูแลสวนสาธารณะและสันทนาการของรัฐ (State Parks and Recreation) ได้ “แบน” ห้ามไม่ให้เปิดน้ำบริการประชาชนเป็นเวลานานเกือบสองปี คือตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2015 เพื่อประหยัดน้ำในช่วงที่รัฐกำลังเผชิญกับวิกฤตภัยแล้ง

ทั้งนี้ การยกเลิกคำสั่งดังกล่าว มีขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย นายเจอร์รี่ บราวน์ ลงนามในคำสั่งบริหารยกเลิกวิกฤตภัยแล้ง หรือ state’s drought emergency

อย่างไรก็ตาม ข่าวบอกว่ายังคงมีชายหาดหลายแห่งที่ยังไม่สามารถให้ประชาชนเปิดฝักบัวเพื่อล้างตัวได้ เพราะอยู่ในสภาพชำรุด ถูกทำลาย หรือผุพังเพราะไม่ได้ใช้งานมานาน แต่หน่วยงานที่ดูแลยืนยันว่าจะเร่งทำการซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้การได้ก่อนที่ “ซัมเมอร์” จะมาถึง

ข่าวบอกด้วยว่า การปิดน้ำจากฝักบัวริมหาดดังกล่าว สามารถทำให้รัฐแคลิฟอร​์เนียสามารถประหยัดน้ำได้ถึง 18 ล้านแกลลอนต่อปี.



 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข