เมื่อวันที่ 17 เมษายน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงการเสนอความเห็นต่อการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ว่า ข้อเสนอต่างๆ พรรคได้แจ้งกับทางคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งบางส่วนกรธ.ก็ไปปรับแก้ก่อนที่จะออกมาเป็นร่างกฎหมาย บางส่วนก็ยังไว้คงเดิม ซึ่งทางพรรคก็พร้อมที่จะปฎิบัติตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่อยากชี้ให้เห็นว่ากฎหมายที่ออกมาจะมีความยากในทางปฏิบัติ ไม่ใช่ความยากลำบากกับพรรคการเมืองแต่เป็นความยากลำบากของประชาชนด้วย โดยเฉพาะประชาชนที่สนใจเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ก็ต้องสูญเสียบางอย่างไป ในเรื่องการจ่ายค่าสมาชิกนั้น จริงๆแล้วคนเป็นสมาชิกพรรค ที่จ่ายค่าสมาชิก็เป็นการจ่ายค่าบำรุงพรรค ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วม แต่ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นเรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องใหญ่ของการเมืองบ้านเรา แต่เมื่อกฎหมายออกมาให้ปฏิบัติก็ต้องปฏิบัติตามนั้น ซึ่งพรรคก็ต้องชี้แจงให้สมาชิกทราบว่าต้องจ่ายค่าบำรุงพรรค แม้ที่ผ่านมาจะมีการจ่ายค่าบำรุงพรรคแต่ก็ไม่ได้บังคับ อย่างไรก็ตาม กฎหมายพรรคการเมืองที่จะออกมา ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้พรรคการเมืองได้เปรียบหรือเสียเปรียบอะไร แต่พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่ก็คงต้องทำงานหนักพอสมควร

เมื่อถามว่าในชั้นการพิจารณาของสนช.คาดว่าจะมีการปรับแก้ในส่วนที่ยังเป็นปัญหา ทางพรรคณจะนำเสนอข้อมูลหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์และเป็นอำนาจของสนช.จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ซึ่งก็ต้องติดตามต่อว่าจะพิจารณาเปลี่ยนแปลงอย่างไร แต่ก่อนหน้านี้ทางสนช.ก็ทำงานประสานกับกรธ.มาแล้ว ดังนั้นในส่วนของพรรคก็ต้องดูว่าจะเปิดโอกาสให้เราหรือไม่ ถ้าเปิดโอกาสให้เราไปนำเสนอข้อมูล เราก็พร้อมนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ส่วนที่เกรงกันว่าสนช.จะยื้อการเลือกตั้งออกไปนั้น คิดว่าสนช.คงไม่ตั้งใจจะยื้อการเลือกตั้ง เพราะกฎหมายก็กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญที่บัญญัติว่าจะต้องเสร็จเมื่อไหร่

“ดังนั้นจึงคิดว่าโรดแมปการเลือกตั้งยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะกรธ.มีเวลาในการทำกฎหมายลูก10 ฉบับ การที่รัฐบาลยังไม่ชัดเจนในการกำหนดวันเลือกตั้ง ก็คงยังบอกไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าการพิจารณากฎหมายลูกจะไปเสร็จสิ้นเมื่อไร จะมีการปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ แต่ถ้าทุกอย่างไม่มีการปรับแก้ไขก็ต้องเป็นไปตามโรดแมป ถ้ามีการปรับแก้ก็คงมีเวลาที่บวกหรือลบ ซึ่งคงไม่มากเท่าไหร่ และหากกฎหมายลูก 4 ฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับถ้าสามารถออกได้ไว้ก็จะมีส่วนทำให้เกิดการเลือกตั้งเร็วขึ้น”นายองอาจ กล่าว