สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า เกิดเหตุจลาจลขึ้นที่เมืองเบิร์กลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา หลังจากกลุ่มต่อต้านและกลุ่มสนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา เกิดการปะทะกันเมื่อวันที่ 15 เมษายน จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าปราบปราม และจับกุมตัวผู้ชุมนุมไปอย่างน้อย 21 คน ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บนับสิบราย
รายงานข่าวระบุว่า มีผู้คนหลายร้อยคนรวมตัวกันที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองเบิร์กลีย์ ซึ่งรวมทั้งกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ ที่ขึ้นกล่าวปราศรัยระหว่างการชุมนุม และมีกลุ่มต่อต้านนโยบายของทรัมป์ตะโกนขึ้นมา ทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายและเกิดการปะทะกันขึ้น และมีรายงานว่ามีผู้ถูกจับกุมตัวไป 21 ราย
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า กลุ่มสนับสนุนทรัมป์ได้นัดรวมตัวกันในวันรักชาติ เพื่อแสดงพลังสนับสนุน “เสรีภาพในการพูด” ขณะที่กลุ่มต้านทรัมป์ออกมารวมตัวกันเพื่อต่อต้านนโยบายของทรัมป์ เมื่อทั้งสองเจอกันที่สวนสาธารณะซีวิค เซ็นเตอร์ พาร์ค จึงเกิดการปะทะกันขึ้น และมีการใช้ระเบิดเพลิง รวมทั้งขว้างขวดใส่กัน
ด้านนายไบรอน ไวท์ โฆษกสำนักงานตำรวจเบิร์กลีย์ เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นว่า ขณะนี้ทางตำรวจกำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ รวมไปถึงภาพวิดีโอที่มีประชาชนส่งมาให้ตำรวจ เพื่อออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงต่อไป โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะครั้งนี้ 11 ราย และมีอย่างน้อย 7 คน ที่ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล
ทั้งนี้ นอกเหนือจากที่เบิร์กลีย์แล้ว ยังมีการรวมตัวกันประท้วงทรัมป์ในหลายเมืองทั่วสหรัฐอเมริกา แต่เป็นการวมตัวกันเพื่อกดดันให้ทรัมป์เปิดเผยข้อมูลการจ่ายภาษี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ปฏิเสธที่จะทำมาโดยตลอด โดยการออกมารวมตัวกันในวันที่ 15 เมษายน เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของการยื่นภาษีในสหรัฐอเมริกา