สำนักงานสาธารณสุขของรัฐแคลิฟอร์เนีย ออกประกาศฉุกเฉินเพื่อเตือนประชาชนเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2017 ว่ามีการตรวจพบยุงที่ไม่ใช่ยุงพื้นเมืองของแคลิฟอร์เนียสองชนิด คือ Aedes aegypti หรือยุงลายบ้าน และ Aedes albopictus หรือยุงลายสวน ในสิบเคาน์ตีของแคลิฟอร์เนีย รวมทั้งสิ้น 129 เมือง (ซิตี้) ซึ่งยุงทั้งสองชนิดเป็นพาหนะของไวรัสซิก้า, ไข้เลือดออก, ไข้ชิคุนกุนยา และไข้เหลือง
ทั้งสิบเคาน์ตี้ที่พบยุงอันตรายทั้งสองชนิดนี้ คือเฟรสโน่, เคิร์น, อิมพีเรียล, ลอส แอนเจลิส, มาเดร่า, ออเรนจ์, ริเวอร์ไซด์, ซานเบิร์นนาดิโน่, ซานมาเทโอ และทูแลร์ (Tular)
คำเตือนของสำนักงานสาธารณสุขแคลิฟอร์เนีย ระบุว่าความแตกต่างระหว่างยุงลายทั้งสองชนิดกับยุงพื้นเมืองของแคลิฟอร์เนียมีหลายอย่าง แต่ที่สำคัญที่สุดคือยุงลายทั้งสองชนิดจะออกหากินเฉพาะตอนกลางวัน โดยอาศัยความได้เปรียบของขนาดที่เล็ก และลายดำ-ขาวที่ลำตัวและขา ทำให้มองเห็นได้ยาก
ยุงลายบ้านและยุงลายสวน พบมากในแม็กซิโก อเมริกากลางและอเมริกาใต้ รวมถึงหมู่เกาะคาริบเบี้ยนและหลายๆ ประเทศในเอเชีย โดยเพิ่งจะมีรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสซิก้า เพราะถูกยุงลายทั้งสองชนิดกัดเป็นครั้งแรกในอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว โดยพบที่เซาท์ ฟลอริด้า และบราวน์วิลล์ รัฐเท็กซัส
ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมโรคบอกว่า การแพร่ระบาดของไวรัสที่มียุงเป็นพาหะในสองรัฐดังกล่าว จะหยุดนิ่งในช่วงฤดูหนาว (winter) ซึ่งเป็นช่วงที่ปริมาณของยุงลดลง และอาจจะจะเพิ่มปริมาณขึ้นอีกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หากไม่มีการกำจัดยุงที่ได้ผลพอ
แต่สำนักงานสาธารณสุขของแคลิฟอร์เนีย กำลังกังวลว่า สภาพอากาศที่ไม่หนาวจัดของแคลิฟร์เนีย อีกทั้งมีปริมาณน้ำฝนและหิมะที่ตกลงมาอย่างมากมายในช่วงที่ผ่านมา อาจทำให้รัฐแคลิฟอร์เนียอยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการลุกลามของไวรัสซิก้า หรือโรคร้ายอื่นๆ ที่มียุงเป็นพาหะ ถึงขั้นเป็นโรคระบาด (pandemic) ได้ หากไม่มีการจัดการปัญหาที่ดีพอ ทั้งนี้เพราะยุงลายบ้านและยุงลายสวน สามารถวางไข่ในที่ๆ มีน้ำเพียงเล็กน้อย ตั้งแต่บนเศษกระเบื้อง กระถางต้นไม้และจานรอง อ่างให้น้ำนก เรื่อยไปจนถึงน้ำที่ขังอยู่บนใบไม้แห้ง เมื่อรวมกับน้ำนิ่งตามแหล่งน้ำธรรมชาติ และน้ำจากการละลายของหิมะตลอดช่วงหน้าร้อนนี้ ก็จะทำให้มีปริมาณของยุงลายบ้านและยุงลายสวน เพิ่มขึ้นจนน่ากลัว ดังนั้นจึงถือเป็นหน้าที่ของชาวแคลิฟอร์เนียทุกคน ในการดูแลบริเวณรอบๆ บ้าน ไม่ให้มีแหล่งน้ำขังจนกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงได้
ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขของแคลิฟอร์บอกด้วยว่านับจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2017 มีตัวเลขผู้ติดไวรัสซิก้าในแคลิฟอร์เนียรวมทั้งสิ้น 529 คน เป็นสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ 104 คน และมีทารกแรกคลอดที่พิการเพราะมารดาติดเชื้อร้ายชนิดนี้ 5 คน
อย่างไรก็ตาม คำเตือนของสำนักงานสาธารณสุขรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุชัดเจนว่ายังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสซิก้าจากยุงลายทั้งสองชนิดในแคลิฟอร์เนีย และว่าในจำนวนผู้ได้รับเชื้อไวรัสซิก้าทั้งหมดนั้น มีเพียง 18 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างรุนแรง หรือถึงขั้นเสียชีวิต แต่ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ได้รับเชื้อซิก้า จะมีอาการไข้ปานกลาง ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหัวและตาแดง
นอกจากยุงแล้ว สำนักงานสาธารณสุขของแคลิฟอร์เนีย บอกด้วยว่าไวรัสร้ายสามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย โดยในแคลิฟอร์เนียมีผู้หญิงห้าคน ที่ติดไวรัสซิก้าจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เคยเดินทางไปกลุ่มประเทศที่องค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นประเทศที่มีการระบาดของไวรัสซิก้า
วันเดียวกัน รอยเตอร์รายงานข่าวว่าประเทศอเมริกาได้เริ่มทดลองวัคซีนรักษาเชื้อซิก้าในมนุษย์เป็นครั้งแรก เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยทดลองกับผู้ป่วยในเมืองฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส ก่อน และจะเริ่มทดลองกับผู้ป่วยในไมอามี และซาน ฮวน ของปัวโตริโก้ ในเร็วๆ นี้ โดยสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (the National Institute of Allergy and Infectious Diseases) ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนชนิดนี้ บอกว่าจะทดลองยากับอาสาสมัคร 2,000 คนทั่วประเทศอเมริกาได้ภายในเดือนมิถุนายน 2017 และหากประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง วัคซีนชนิดนี้จะถูกผลิตเพื่อการค้าในเวลาอีกสองปีข้างหน้า.