ข่าวคนไทยในอเมริกา
บุคคลหน้าสาม : “อิ่มอร่อย” ผลพลอยลุ้นของ บุญส่ง อนันตสุคนธ์


บุญส่ง อนันตสุคนธ์




กับเพื่อนฝูงที่รักใคร่ชอบพอ ไปร่วมอวยพรวัน แกรนด์โอเพ่นนิ่ง ร้านอิ่มอร่อยกันคึกคัก




“น้องเบ๊นซ์” ณัฐสิมา อนันตสุคนธ์ ผู้บริหารร้านอิ่มอร่อย กับหนึ่ง คณิต เขียวเซ็น คอยดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด




โดย : กฤติยา รักแต่งาม

อันเนื่องมาจากกราฟยอดขาย “ผลไม้ไทย” ดิ่งระดับลง บุญส่ง อนันตสุคนธ์ จึงได้ “อิ่มอร่อย” มาเป็น “ผลงานดีๆ” อีกชิ้น เก็บไว้เป็นคำตอบว่า...นอกเหนือการ “นำเข้า” แล้ว เขาทำอะไรได้อีก?
 
ย้อนหลังไปประมาณสองปีที่แล้ว ธุรกิจการนำเข้าผลไม้ไทยกระทบกระเทือนมาเรื่อย เสี่ยใหญ่ที่เป็น“นักสะสมประสบการณ์”อย่างเขา เตรียมตัวพร้อมเสมอสำหรับการเปลี่ยนแปลง  เขา “โยนหินถามทาง” มาตลอด ตามประสานักธุรกิจที่มีสายตายาวไกล

“...ต้องท้าวความไปถึงเรื่องของการนำเข้าผลไม้ไทยก่อนนะครับ ซึ่งทุกคนทราบว่าผมมีธุรกิจนี้อยู่ แต่ปัจจุบันการนำเข้าผลไม้ไทยไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะว่าประเทศรอบข้างอเมริกา อย่าง เม็กซิโก ทุกวันนี้เขาปลูกผลไม้ไทยได้แล้ว เช่น มังคุด เงาะ ลำไย ต่อไปก็คงเป็นทุเรียน เพราะเขาเริ่มปลูกทุเรียนแล้ว...

เงาะ มังคุด ลำไย มีผลกระทบกระเทือนกับการนำเข้าของเรามาก สาเหตุคือราคาเราสู้เขาไม่ได้ อย่างผลไม้กล่องนึงเนี่ย ของเราจะแพงกว่าของเขาสิบเหรียญ...ทีนี้ในด้านผู้บริโภคเขาก็เห็นว่า เงาะเอย ลำไยเอย มันก็เหมือนกันน่ะนะ แต่เขาไม่รู้ว่ารสชาติมันต่างกันยังไง...ผมขอออกตัวหน่อยว่า ผลไม้ไทยของเรารสชาติดีกว่า สดกว่าของเขาแน่นอน แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เขาก็คำนึงราคา เพราะฉะนั้น การจำหน่ายของเรายอดมันตกลง เป็นอย่างนี้มาสองปีแล้ว...

แต่เราก็อดทนทำนะ ไม่ใช่ไม่ทนทำ มันเหมือนเราเคยขายได้ร้อยนึง ต่อมามันเหลือเจ็ดสิบ...ทีนี้ที่มันยังอยู่ได้เพราะยังพอมีลูกค้าที่เขายังชอบรสชาติของผลไม้ไทย คนบางส่วนเขาติดรสชาติผลไม้ไทยอยู่ เช่น เขาจะถามว่าผลไม้ไทยนี้มาจากไหน ถ้าไม่ได้มาจากไทยเขาจะไม่ซื้อ ลูกค้าแบบนี้ยังมีอยู่แต่เป็นส่วนน้อย ทุกวันนี้ตกไปแล้วห้าสิบเปอร์เซ็นต์

ส่วนผลไม้ที่มาจากเม็กซิโกเนี่ย แพ็คนึงสิบห้าปอนด์ เขาขายเจ็ดสิบเหรียญ แต่ของเราจำนวนเท่ากัน การแพ็คของเราดีกว่า ความสดกับรสชาติผลไม้เรากินขาดเขาอยู่แล้ว แต่มันต้องขายแปดสิบ แพงกว่าของเขาสิบเหรียญ ผู้บริโภคเขาก็เห็นว่าเป็นผลไม้เหมือนกัน จะจ่ายแพงกว่าทำไม แต่ผลไม้จากเม็กซิโกมีเสียอยู่อย่างหนึ่ง คือมังคุดเขาต้องอบไอน้ำ พอมังคุดโดนน้ำก็จะแข็งตัว เพราะฉะนั้นในสิบห้าปอนด์ที่เขาซื้อมา ก็จะมีมังคุดที่กินได้ครึ่งนึงนอกนั้นก็จะแข็งหมด เวลาซื้อก็ต้องดูให้ดี ผลไม้ไทยของเราผมแพ็คในกล่องกระดาษอย่างสวยเลย ส่วนของเม็กซิโกนั้น เขาใช้กล่องพลาสติคแล้วก็เอาพลาสติคแร็พๆ เอาเท่านั้น...

เลยทำให้คิด คิดเรื่องเปิดร้านอาหารเนี่ยมาสองปีแล้ว อีกอย่างมีผู้ใหญ่สนับสนุนด้วย อย่างสถานกงสุลใหญ่เอย, ททท., ไทยเทรด เอย...เขาก็คอยผลักดันผมอยู่เรื่อยว่าเมื่อไหร่จะเปิดร้านอาหารเสียที ผมก็บอกอยากจะหาร้านสวยๆ หน่อย แบบนั่งสบายๆ เวลาแขกผู้ใหญ่จากเมืองไทย อย่างคณะรัฐมนตรีมา อยากหาที่สงบๆ ก็จะได้มานั่งคุยกัน

...ปีเศษๆ มานี่ผมก็ตระเวนดูร้านนะ ผมไปโน่นมานี่ ที่ผ่านมาก็ไม่ถูกใจสักร้าน ทำเลมันไม่ใช่ คือผมเชื่ออยู่อย่างนึงนะ ถ้ามันไม่ใช่ ก็คือไม่ใช่...เพราะ ฉะนั้นที่ผมไปดูมาสิบยี่สิบร้านเนี่ย มันไม่ใช่เลย จนมาถึงร้านนี้ ก็ทราบจาก “นัท” ลูกสาว “แม่ชวนพิศ” เขาขับรถผ่าน เดิมทีเดียวร้านนี้ชื่อร้าน “นาวา ไทย คูซีน” เขาก็บอกผมมาประมาณสี่เดือนเต็มๆ ให้มาดูร้านนี้ ตอนนั้นผมก็ยังไม่ให้ความสนใจเท่าไหร่ ก็ยังไม่มาดู...

จนกระทั่งภรรยาผม (ณัฐฐา “แมว” อนันตสุคนธ์) มาจากเมืองไทยเมื่อสองสามเดือนที่แล้วก็เลยชวนเขามา พอภรรยาผมเห็นเข้าก็ชอบใจ ตกลงเทคโอเวอร์เลย...เทคโอเวอร์ในวันที่มาดู ไม่มีการดูซ้ำ ซื้อเลย ที่ชอบร้านนี้ก็เพราะเวลาเดินเข้ามาก็รู้สึกสบาย มันโปร่ง มันโล่ง มันเย็น นั่งสบาย ครัวก็ใหญ่ ที่จอดรถก็เยอะ จอดบนถนนก็ได้...

ผมใช้เวลาเดือนนึงในการทำร้านใหม่ทั้งหมด ผมบินไปเมืองไทยฉลองวันเกิดเมื่อเดือนกุมภาฯ จัดฉลองวันเกิดวันที่ยี่สิบสี่ แล้วพอยี่สิบหกผมก็บินกลับ มาทำร้านเลย รื้อทำใหม่ทั้งร้าน ครัว ห้องน้ำ เค้าน์เตอร์ โต๊ะ เก้าอี้ เปลี่ยนใหม่หมดเลย ข้างฝานี่ใช้ไม้บุทีละแผ่น สีที่ใช้ก็ลูกสาวเลือกหมด เขาเรียน “มาร์เก็ตติ้ง ดีไซเนอร์”...

ใครๆ อาจมี “คาถามหาระรวย” แต่ที่ช่วยให้เขาเป็น “บุญส่ง อนันตสุคนธ์” ได้อย่างทุกวันนี้ น่าจะเป็นคัมภีร์ที่มี “เคล็ดวิชา” ว่า...อุปสรรควัดความแกร่ง...ความเข้มแข็งวัดกำลังใจ...ปัญหามีไว้วัดสติปัญญา

“...เรายังไม่หยุดครับ ยังทำอยู่ทุกวันนี้ เรานี่หมายถึงผมและบริษัทเอ็นทีดับเบิ้ลยู เรายังดำเนินการอยู่ ก็จะทำต่อไปจนกว่าจะทำไม่ไหว ที่ว่าไม่ไหวนี่ก็หมายถึงว่าเมื่อนำผลไม้เข้ามาแล้วจำหน่ายไม่ออก นั่นคือเราต้องหยุด คือบริษัทที่เมืองไทยเรามี “แพ็คกิ้ง เฮ้าส์” ซึ่งเราเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปีที่แล้ว เปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคม “แพ็คกิ้ง เฮ้าส์” ของเรานี้สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับบริษัทเล็กๆ ที่เขาไม่มี “แพ็คกิ้ง เฮ้าส์” เป็นของตัวเอง เขาก็มาจ้างเราให้ทำ “แพ็คกิ้ง” ให้ เพื่อทำการส่งออก...

...ประเทศไทยเวลานี้เขามีมาตรการว่า ไม่ว่าบริษัทไหนก็ตามจะส่งออกผลไม้ไปทั่วโลก จะต้องมี “จีเอสพี” คือใบรับรองจาก “แพ็คกิ้ง เฮ้าส์” ที่ได้มาตรฐานโลก...ขอใช้คำว่า “มาตรฐานโลก” นะครับ แล้ว “แพ็คกิ้ง เฮ้าส์” ที่ผมสร้างขึ้นมานี่สามารถแพ็คผักและผลไม้ทุกตัวส่งออกได้ทั่วโลกเลย เพราะเราได้มาตรฐานในการแพ็คจาก “จีเอสพี”

เพราะงั้น บริษัทที่เมืองไทยจึงดำเนินการอยู่ ต่อให้ที่นี่หยุดนำเข้า ทางเมืองไทยก็ยังคงดำเนินการอยู่ สำหรับที่นี่ก็ถือว่ารอดูวิกฤตการณ์อยู่ ก็ดูว่าไหวมั้ย ถ้าเข้ามาแล้วขายไม่ได้ก็เท่ากับเอาไปทิ้ง เรื่องอะไรเราจะเอาเงินไปทิ้ง ผมสั่งเข้าผลไม้ไทยเข้ามานี่อาทิตย์นึงอย่างต่ำๆ นะ ห้าหมื่นเหรียญ อาทิตย์นึงเข้ามาสี่ล็อต ก็สองแสนเหรียญต่ออาทิตย์ ถ้าจะต้องเอาเงินมาทิ้งก็เอาเงินมาดำเนินกิจการนี้ไม่ดีเหรอ...

...พูดถึงกิจการร้านอาหาร ลูกสาวผมเขามีไอเดียว่า อีกหน่อยพอร้านนี้อยู่ตัวเขาก็อยากทำอาหารไทยแบบ “ออร์แกนิค” เป็นร้านที่สอง ผมก็บอกเขาว่าให้หาที่แถวเบฟเวอร์ลี่ย์ ฮิลลส์ หรือซานตา มอนิก้า ให้เป็นแบบมีระดับไปเลย เขาบอกขอเวลาไม่ถึงปี เขาจะทำ...”

“น้องเบ๊นซ์” ลูกสาวสุดที่รักของ “คุณพ่อบุญส่ง” และ “คุณแม่แมว” บ่งบอกความเป็น “เจ้า”(ความคิด) แบบ “เชื้อไม่ทิ้งแถว”

“...ร้านนี้ผมเป็นคนดูแล แต่ขอยอมรับนะครับว่าที่ผ่านมาผมไม่มีประสบการณ์เรื่องการดูแลร้านอาหารมาก่อนเลย อาศัยว่ามีเพื่อนฝูงเยอะ แล้วก็ไปทานตามร้านต่างๆ มาเป็นสิบยี่สิบร้าน ผมก็ไปทานของเขามาทั่วแล้ว ก็สังเกตดูว่าเขาทำกันยังไง การที่เราไปทานอาหารหลายๆ ร้านแล้วมีเพื่อนเป็นเจ้าของร้านนี่เราได้ประสบการณ์ไปด้วยนะ แต่สูตรอาหาร ผมไม่ตามใคร เป็นสูตรอาหารที่ผมคิดขึ้นมาเอง

...อาหารร้านผมไม่ได้ใช้น้ำปลา ใช้ซีอิ๊วขาวแทน นอกจากเวลาทำแกงเท่านั้นเราถึงจะใช้น้ำปลา เพราะการทำแกงมันต้องน้ำปลา แต่ทำอาหารทั่วๆไป เราใช้ซีอิ๊วขาว ไม่ใช้ผงชูรส แต่ใช้ “รสดี” แน่นอนครับว่ามันแพงกว่าผงชูรส ผมใช้ของดีราคาแพง ซีอิ๊วขาวก็ใช้ตรา “เด็กสมบูรณ์” และเราก็ไม่ได้ใช้น้ำตาลทราย ใช้น้ำตาลปี๊บที่แพ็คมาจากเมืองไทย แพ็คสดขึ้นเครื่องมาเลย ไม่ได้ซื้อมาเก็บเอาไว้ใช้เป็นปีๆ พอใกล้หมดก็สั่งให้เขาเอาขึ้นเครื่องมาอีก...

...เมนูที่อยากจะแนะนำมีหลายอย่างนะครับ อย่างแรกเป็น “ข้าวผัดปลาสลิด” ซึ่งปลาสลิดของเราไม่ได้เป็นปลาสลิดแบบแช่แข็ง เพราะปลาสลิดแบบนั้นกว่าจะมาถึงมือเราก็เป็นเดือนๆ เลย ลูกค้าก็จะไม่ได้รับรส “ความสด” ปลาสลิดของเรานี่อยากสั่งให้บินตรงจากเมืองไทยมาวันไหนก็ได้ รับรองได้ปลาสลิดสดมาก ซึ่งตอนนี้เราสต๊อคไว้มีอยู่สี่ร้อยห้าร้อยตัวเห็นจะได้

...เรื่องปลาสลิดนี้ภรรยาผมเขาเป็นคนจัดการ เขาเป็นคนรู้ที่ซื้อ...เมนูที่ผมทำไม่เหมือนใคร มี “ข้าวผัดแกงเขียวหวาน”, กะเพราผัดวุ้นเส้น, ไข่ตุ๋นอิ่มอร่อย ผมกล้าบอกเคล็ดลับได้นะครับ คือพอเราตีไข่แล้วเราก็นำไปกรองก่อน กรองหลายครั้งเพื่อให้มันใสแล้วถึงเอาไปนึ่ง ไข่จะเนียนเรียบ ทีนี้ก็แล้วแต่ว่าลูกค้าอยากได้เนื้อสัตว์อะไร สมมติเป็นไก่ ผมก็เอาไก่มาปรุงรสแล้วโปะไปบนหน้าไข่ตุ๋น...

อีกจานคือ “ปลาหมึกยึดไส้หมูนึ่งมะนาว” เราจะใช้ปลาหมึกตัวยาวๆ ยัดไส้หมูสับ บั้งๆ แล้วก็เอาไปนึ่ง ปรุงน้ำซ้อสรสแบบ “ปลานึ่งมะนาว” เนื้อปลาหมึกจะกรอบเด้งดึ๋งเลยนะครับ...

ที่ร้านมี “ข้าวผัดปลาเค็ม” ด้วย ปลาเค็มเราใช้ปลาอินทรีย์แท้ใหม่ๆ เลย ส่งมาจากเมืองไทย เป็นแบบสดใหม่ตลอดเวลา น้ำพริกแกงที่ผมใช้ก็เป็นน้ำพริกของ “นิตยา” น้ำพริกเขาชื่อดังมาก ร้านเขาอยู่ตรงข้ามสหกรณ์ ที่พาหุรัด น้ำพริกแม่นิตยาเป็นเครื่องแกงที่แท้จริง แล้วที่สำคัญเขาไม่ใส่ยากันบูด น้ำพริกเขาสดมาก ปกติน้ำพริกเขาเก็บได้ปีนึง ทั่งๆ ไม่ใส่สารกันบูดนะ แต่ของเราก็สั่งมาอยู่เรื่อยๆ  ผมกล้ารับรองเลยว่าน้ำพริกเขาอร่อยกว่าเจ้าอื่น ผมรับรองเลย ถึงแม้จะแพงกว่าน้ำพริกเจ้าอื่น แต่ก็อยากให้ลูกค้าได้รับของดีมีคุณภาพระดับ “ตำนาน” นะครับ...

...ข้าวมันไก่ของผมก็ไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร ผมใช้วิธีเอาหนังไก่มาเจียวน้ำมันออกมาก่อน แล้วก็เอาน้ำมันนั้นมาผัดกับข้าวให้มันหอม ข้าวที่เราใช้ก็ปนข้าวเหนียวเข้าไปด้วย มันจึงมีความหนึบเหนียวนิดๆ น้ำจิ้มก็เป็นสูตรของภรรยาผม เขาคิดสูตรของเขาเอง

...แล้วก็มีข้าวขาหมู การต้มการใช้เครื่องเป็นแบบเต็มที่ เคล็ดลับของเราใส่โอวัลตินด้วยครับ แล้วก็เสิร์ฟกับผักคะน้า เราจะไม่ตามแบบใคร เรามีสูตรของเราเอง ร้านผมเปิดเจ็ดวัน จันทร์ถึงพฤหัสฯ สิบเอ็ดโมงถึงสี่ เสาร์สิบเอ็ดโมงถึงห้าทุ่ม อาทิตย์ สิบเอ็ดโมงถึงสี่ทุ่ม น้ำพริกกะปิกับปลาสวาย เราจะหั่นปลาเป็นชิ้นๆ ออกมา คือที่อื่นเขามีน้ำพริกปลาทูใช่ไหมครับ แต่ของเราใช้ปลาสวายแทน จะได้ไม่เหมือนใคร แล้วน้ำพริกกะปิก็อร่อยมาก...

...ร้านจุได้ร้อยยี่สิบคน ขนเครื่องคาราโอเกะไปจัดงานได้นะครับ ส่วนเบียร์ไวน์ต้องมีการใส่ภาชนะอย่างอื่นแทนและติดใบเสร็จมาด้วย ช่วงแกรนด์โอเพนนิ่ง คือช่วงนี้ไปจนถึงสิ้นเดือน ทุคนที่สั่งอาหารในราคาสิบเหรียญขึ้นไปแจกฟรีดริ๊งค์ นะครับ ที่ร้านมี ชาไทย ชาเขียว กาแฟเย็น สูตรเข้มข้น เราใช้ชา กาแฟตรามือ เป็นแบรนด์ดั้งเดิมสมัยพระเจ้าเหา โน่น...

... ของหวานมีไอสครีม, ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวมูนที่นี่ไม่ได้เสิร์ฟน้ำกะทิมาด้วยเพราะข้าวเหนียวฉ่ำกะทิอยู่แล้ว หวานมันส์ หอม นุ่มละมุน เป็นข้าวเหนียวเขี้ยวงู ทุกเม็ดหนึบหอมกะทิทุกคำ

ร้าน “อิ่มอร่อย” (Im Aroi) อยู่เลขที่  525 North Garfield Ave. เมือง Montebello, CA90640 (323)490-7590 เปิดเจ็ดวัน จันทร์ถึงพฤหัสบดี และอาทิตย์ เปิดสิบเอ็ดโมงเช้า ถึงสี่ทุ่ม, ศุกร์-เสาร์ สิบเอ็ดโมงเช้า ถึงห้าทุ่ม

บุญส่ง อนันตสุคนธ์ “เท่ห์” ได้ขนาดนี้ เพราะมีแผนที่ “เดินทาง” ตามความคิด

ส่วนประสบการณ์ที่เก็บสะสมมาทีละนิด...เขาพินิจเก็บตอน “มีแรง”.

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส
24-04-2024 จับ (ซะที) สามโจรทุบร้านไทยและ ฯลฯ กว่า 130 แห่งในแคลิฟอร์เนีย (0/150)   
23-04-2024 เตรียมปรับผังแอลเอเอ็กซ์ครั้งใหญ่ รับ “บอลโลก-โอลิมปิก (0/63) 
22-04-2024 จับโจร “งัดแมนชั่น” นายกเทศมนตรีเมืองแอลเอ (0/160) 
19-04-2024 เอาให้ชัด! ฟาสต์ฟู้ดแคลิฟอร์เนียแพงขึ้นเท่าไหร่ หลังปรับค่าแรง 20 เหรียญ (0/247) 
17-04-2024 รายได้เท่าไหร่ ถึงจะอยู่แบบ “สบายๆ” ในแคลิฟอร์เนีย (0/272) 

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
599
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข