ข่าวคนไทยในอเมริกา
แถลงข่าวกิจกรรมใหญ่ เยาวชนเยือนแผ่นดินแม่


สุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง




คณะกรรมการโครงการาเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ ถ่ายภาพกับกงสุลใหญ่ฯ ธานี แสงรัตน์ สื่อมวลชน หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวโครงการปี 2017 ณ สถานกงสุลใหญ่ฯ เมื่อวันจันทร์ที่ 3 เมษายน 2016




แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : สุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง เปิดแถลงข่าวโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐฯ เยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 11 นำเยาวชนไทย “แอ่วเหนือ” เพื่อสร้างความผูกพันกับแผ่นดินเกิด พร้อมเดินทางในเดือนกรกฎาคมนี้

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 ที่ห้องประชุมชั้น 4  สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส  กงสุลใหญ่ธานี แสงรัตน์ พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง ประธานโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ ฝ่ายสหรัฐอเมริกา นายสาคร ศิริรัฐ และนายสุรชาติ กาญจนวิจิตร รองประธานโครงการฯ  นางศรีวงศ์ อาญาสิทธิ ประธานจัดงานสานสายใยน้ำใจไทยสู่แผ่นดินแม่ ครั้งที่  6 นายยุทธนา บำรุงเขตร์ เจ้าหน้าที่อาวุโสจากบริษัทสตาร์ทัวรส์  และคณะกรรมการโครงการอีกหลายท่าน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่  ครั้งที่ 11 ซึ่งโครงการในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรหลักของแอลเอ 3 องค์กร ประกอบด้วย ชมรมอนุรักษ์มรดกไทย ยูเอสเอ,  องค์กรไทยนิวเยียร์สงกรานต์เฟสติวัล  และสภาสตรีไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้

นายสุรศักดิ์ วงศ์ข้าหลวง ประธานโครงการฯ ฝ่ายสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวในเบื้องต้นว่า โครงการในปีนี้เป็นการจัดครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 1-16 กรกฎาคม 2560 แต่เป็นการจัดปีที่ 22 แล้ว เพราะจัดสองปีครั้ง โดยประธานโครงการฝ่ายประเทศไทย คือ พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ จะเป็นประธานงานไทยไนท์ แฟร์เวลปาร์ตี้ ในคืนสุดท้ายของโครงการเหมือนกับสองสามครั้งที่ผ่านมา และในปีนี้ทางเยาวชนไทยในยุโรปจะขอเข้ามาร่วมกับโครงการด้วยอย่างเต็มรูปแบบ แต่ทางโครงการให้เข้าร่วมได้แค่ 40 คนเท่านั้น รวมทั้งทางบ้านลูกเหรียงที่ดูแลเด็กที่พ่อแม่ถูกฆ่าตายในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็จะขอส่งเด็กมาเข้าร่วมตลอดโครงการด้วย

“ตอนเราจัดโครงการครั้งที่ 8 และ 9 ตอนนั้น ท่านทูตจักร บุญ-หลงเป็นกงสุลใหญ่แอลเออยู่ ได้แนะนำให้เอาเยาวชนจากยุโรปมาร่วมกับโครงการเยาวชนจากอเมริกา เด็กทั้งสองทวีปจะได้ทำความรู้จักและสร้างเครือข่ายกัน ปีแรกเค้าทดลองส่งมา 20 คน ปรากฎเค้าชอบมาก แต่เรามีที่ให้เค้าได้เพียงหนึ่งคันรถ ประมาณ 40 คนเท่านั้น มากกว่านี้เรากลัวจะรับไม่ไหวครับ เพราะปีนี้ผู้ปกครองและเยาวชนจากฮิวสตันก็จองมาหนึ่งคันรถแล้ว รวมกับทางแอลเอก็คงจะประมาณสองร้อยกว่าคนครับ” ประธานโครงการฯ กล่าว ก่อนที่จะเปิดเผยให้ฟังต่ออีกว่า

ในด้านงบประมาณที่ใช้สำหรับโครงการแต่ละครั้งจะใช้ประมาณ 5 ล้านบาท อันเป็นงบที่คณะกรรมการฝ่ายประเทศไทยจะร่วมกันหามาจากสปอนเซอร์ที่เมืองไทย โดยแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เป็นสปอนเซอร์ที่ให้ประจำ สปอนเซอร์ใหญ่ ๆ ที่สนับสนุนโครงการมาตลอด อาทิ กิฟฟารีน สหพัฒนพิบูล ปตท. และ คิงก์พาวเวอร์ และทางโครงการยังได้สปอนเซอร์เล็กๆ อีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งทางสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และการบินไทย ก็ให้การสนับสนุนมาตลอด ซึ่งทุกสปอนเซอร์ จะมีโลโก้และชื่อติดไปกับป้ายโครงการในการเดินทางไปทุกแห่งในประเทศไทย เพื่อขอบคุณและตอบแทนที่ทำให้โครงการสามารถทำต่อเนื่องมาได้จนถึงปัจจุบัน เป็นประโยชน์กับเยาวชนไทยที่เกิดและเติบโตในสหรัฐอเมริกา ได้มีโอกาสกลับไปเยือนแผ่นดินบ้านเกิดของบรรพบุรุษและสัมผัสศิลปวัฒนธรรมประเพณีไทยตามภาคต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้เด็กเกิดความรักความผูกพันและอยากกลับไปเที่ยวประเทศไทยอีกในอนาคตอันใกล้

จากนั้น กงสุลใหญ่ธานี แสงรัตน์ ได้กล่าวว่า ทางสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอเนจลิส จะให้การสนับสนุนโครงการเหมือนเดิม โดยตัวเองและบุตรชายคนโตจะร่วมเดินทางไปกับโครงการในปีนี้ด้วย นอกจากนี้ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่โครงการจะนำเยาวชนและผู้ปกครองไปทัศนศึกษาที่กระทรวงการต่างประเทศ และทางกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารเย็น ได้มีการหารือกันในคณะกรรมการว่าจะเชิญ อดีตกงสุลใหญ่แอลเอ ทุกท่านที่สามารถมาได้ มาร่วม “รียูเนี่ยน” กับชาวแอลเอในวันดังกล่าวด้ย

นายสาคร ศิริรัฐ รองประธานโครงการฯ ที่รับผิดชอบดูแลเกี่ยวกับโปรแกรมการเดินทาง ได้กล่าวให้รายละเอียดว่า โครงการเยาวชนไทยฯ จะออกเดินทางจากแอลเอในช่วงดึกของวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ถึงเมืองไทยในวันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม 2560 และจะเริ่มโครงการกันในวันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม หลังอาหารเช้าจะมีการประชุมคณะกรรมการฝ่ายไทยและผู้ปกครองที่ห้องประชุมโรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค บนถนนรัชดา อันจะเป็นโรงแรมที่ใช้พักตลอดเวลาที่ทำกิจกรรมอยู่ในกรุงเทพฯ ช่วงเที่ยงเดินทางไปสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 เพื่อเปิดแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนในประเทศไทย และบันทึกเทปถวายพระพร และทาง ททบ.5 จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ

วันอังคารที่ 4 กรกฎาคม 2560 เจ็ดโมงเช้าเดินทางไปเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นไปศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ทัศนศึกษาพระบรมมหาราชวัง เวลาบ่ายโมงครึ่งเดินทางไปถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ช่วงเย็นเดินทางไปเยี่ยมคารวะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

วันพุธที่ 5 กรกฎาคม 2560 ทัศนศึกษาหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ จากนั้นไปเยี่ยมและมอบเงิน พร้อมของเล่น ให้กับสถานสงเคราะห์เด็กพิการและทุพพลภาพบ้านปากเกร็ด จังหวัด นนทบุรี บ่ายสามโมงครึ่งทัศนศึกษากระทรวงการต่างประเทศ และรับประทานอาหารเย็น

วันพฤหัสที่ 6 กรกฎาคม 2560 เช้าเยี่ยมชมโครงการสวนจิตรลดา ตอนเที่ยงเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจทหารผ่านศึกที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก เย็นทัศนศึกษาเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์

วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม 2560 เดินทางไปทัศนศึกษาที่ จังหวัดกาญจนบุรี จัดเลี้ยงต้อนรับโดย นายแพทย์เดชา สุขารมณ์

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2560 เช้าเดินทางไปชมตลาดน้ำลำพญา จังหวัดนครปฐม และทัศนศึกษาสถานที่สำคัญอีกหลายแห่งของจังหวัด

วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม 2560 ออกเดินจากกรุงเทพฯ มุ่งสู่ จังหวัดพิจิตร และต่อไปจังหวัดพิษณุโลก

วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2560 เที่ยวจังหวัดเชียงราย วัดร่องขุ่น สามเหลี่ยมทองคำ

วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม 2560 ทัศนศึกษาศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน ท่าน ว.วชิรเมธี เดินทางต่อไปเชียงใหม่ ชมไนท์ซาฟารี

วันพุธที่ 12 กรกฎาคม 2560 เดินทางไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ เยี่ยมสถานสงเคราะห์เด็กพิการและทุพพลภาพ จังหวัดเชียงใหม่ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา

วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม 2560 เดินทางไปชมเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ทัศนศึกษาอุทยานไม้กลายเป็นหิน ยาวที่สุดในโลก กราบสักการะพระเจ้าทันใจ

วันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม 2560 ทัศนศึกษาจังหวัดอุทัยธานี

วันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม 2560 บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จัดให้เข้าชม นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน ช่วงหกโมงเย็นคณะทุกคนในโครงการเข้าร่วมงานไทยไนท์แฟร์เวลล์ปาร์ตี้ ที่ห้องจัดเลี้ยงโรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค โดย พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ ประธานโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ ฝ่ายประเทศไทย เป็นประธานในพิธี

และวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม 2560 เป็นวันสิ้นสุดโครงการ หากใครต้องการอยู่ต่อและต้องการพักที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์คต่อ ในราคาโครงการให้แจ้งกับคณะกรรมการแต่เนิ่น ๆ

ทั้งนี้ รองประธานโครงการ นายสาคร ศิริรัฐ ได้กล่าวย้ำด้วยว่า โปรแกรมที่โครงการได้จัดเอาไว้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้คนในโครงการทราบล่วงหน้า

จากนั้น นายสุรชาติ กาญจนวิจิตร รองประธานโครงการฯ อีกท่านหนึ่งซึ่งเป็นผู้ริเริ่มจัดงานสานสายใยน้ำใจไทยสู่แผ่นดินแม่ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การจัดงานสานสายใยน้ำใจไทยสู่แผ่นดินแม่ขึ้นมานั้น ก็เพื่อหารายได้ก้อนหนึ่งขึ้นมาเพื่อนำไปบริจาคช่วยเหลือเด็กพิการซ้ำซ้อนตามสถานที่ต่าง ๆ ของประเทศไทยที่โครงการเยาวชนไทยฯ เดินทางไปเยี่ยม โดยจะแบ่งให้ตามความเหมาะสมของสถานที่แต่ละแห่งว่ามีจำนวนเด็กที่ดูแลมากขนาดไหน ซึ่งการจัดงานแต่ละครั้งจะได้เงินเป็นกอบเป็นกำนำไปบริจาคเพราะเป็นการจัดงานที่ไม่มีการหักค่าใช้จ่าย ทุกบาททุกสตางค์ถึงมือเด็กพิการอย่างแน่นอนแบบเต็ม ๆ และผู้ปกครองเยาวชนยังช่วยกันบริจาคเพิ่มอีกแทบทุกแห่งเมื่อได้ไปสัมผัสความน่าสงสารของเด็กเหล่านี้ด้วยตาตัวเอง เยาวชนหลายคนในโครงการถึงกับร้องไห้ออกมาเลย งานสานสายใจที่เราจัดแต่ละครั้งคณะกรรมการทำงานทุกคนจะช่วยกันเป็นสปอนเซอร์จ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทำให้เราได้เงินไปเมืองไทยอย่างเต็มที่โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ในงานห้าครั้งที่จัดกันมา ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของคณะกรรมการอย่างมาก

นางศรีวงศ์ อาญาสิทธิ คณะกรรมการโครงการที่ได้รับหน้าที่ให้เป็นประธานจัดงานสานสายใจน้ำใจไทยสู่แผ่นดินแม่ ครั้งที่ 6 ได้กล่าวต่อว่า “งานของเราปีนี้กำหนดจัดในวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ที่ อาร์เคเดียคอมมูนิตี้เซ็นเตอร์ จะเป็นงานการกุศลที่ทุกคนทำเพื่อหาเงินไปมอบให้กับเด็กพิการซ้ำซ้อนที่เมืองไทย ตอนนี้คณะกรรมการช่วยกันออกค่าใช้จ่าคัฟเวอร์หมดแล้วทั้งค่าสถานที่ ค่าจัดสถานที่ ค่าดนตรีอัปสรศรี ที่จะมาเล่นในงานซึ่งคณะเค้าร่วมทำบุญกับเราทุกครั้งมาเล่นให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เราจะมีรายการร้องเพลงการกุศล เพื่อหารายได้ในงาน มีการขายรัฟเฟิลการกุศลใบละ 2 ดอลลาร์

รางวัลที่หนึ่งเป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับแอลเอ-กรุงเทพฯ และยังมีรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย เราจะขายทั้งในงานและล่วงหน้า ใครที่สนใจจะร่วมทำบุญกับเราโทรติดต่อมาได้เลย ทั้งซื้อบัตรเข้าร่วมงาน ราคาใบละ 25 ดอลลาร์ และ 30 ดอลลาร์ หรือซื้อรัฟเฟิลใบละ 2 ดอลลาร์ โทรมาได้ที่เบอร์ ศรีวงศ์ อาญาสิทธิ 323-482-5494 สุจิต พุ่มวิเศษ 323-229-9954 และที่ข่าวสดยูเอสเอ 323-464-1425

ในงานแถลงข่าวครั้งนี้ได้เชิญ นายยุทธนา บำรุงเขตร์ (โต้ง) เจ้าหน้าที่อาวุโสของบริษัทสตาร์ทัวรส์ มาให้รายละเอียดเกี่ยวกับการจองตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางไปกับโครงการ เพราะสายการบินไทยที่ทางโครงการเคยใช้มาตลอดได้หยุดบินเส้นทางแอลเอ-กรุงเทพฯ ไปเมื่อเดือนตุลาคมปี 2015 ซึ่งนายยุทธนาได้กล่าวว่า ราคาตั๋วในช่วงไฮท์ซีซั่นราคาปกติจะอยู่ที่ 1,200-1,500 ดอลลาร์ แต่ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษอยู่ หลายสาย อยากให้ผู้ที่จะเดินทางไปกับโครงการ โทรไปคุยกับตนเองแต่เนิ่นๆ เพื่อตัดสินใจ หากได้ในช่วงกำลังมีโปรโมชั่นอาจจะจ่ายแค่พันนิด ๆ พร้อมกับแนะนำด้วยว่า หากทางคณะกรรมการโครงการสามารถติดต่อประสานกับทางการบินไทย โดยเดินทางด้วยสายการบินอื่นจากแอลเอแล้วไปต่อการบินไทยเข้าประเทศไทยก็จะได้ภาพที่ดีไม่น้อย ซึ่งทางคณะกรรมการได้รับเอาไว้พิจารณา สำหรับผู้ที่ต้องการจะติดต่อกับ นายยุทธนา หรือ โต้ง สตาร์ทัวรส์ สามารถโทรไปหาได้ที่เบอร์ 323-644-1063 ให้บอกด้วยว่าเป็นกรุ๊ปโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดิน

ทั้งนี้ทางโครงการฯจะปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการฯ ครั้งที่ 11 ในวันที่ 30 เมษายน 2560 ผู้ปกครองที่สนใจจะนำบุตรหลานร่วมไปกับโครงการในปีนี้ ติดต่อขอใบสมัคร ระเบียบการ และส่งใบสมัคร ได้ที่ สุรศักดิ์-วราภรณ์ วงศ์ข้าหลวง 4049 Verdugo Road,Eagle Rock,CA 90065 โทรศัพท์ 323-833-3723 แฟ็ก 323-255-5872 อีเมล์ samswongs@hotmail.com โดยผู้ใหญ่เสียค่าทัวร์ตลอดโปรแกรมคนละ 600 ดอลลาร์ ส่วนเยาวชน คนละ 100 ดอลลาร์ ส่วนตั๋วเครื่องบินนั้น สามารถติดต่อซื้อกับสตาร์ทัวร์ ได้โดยตรง.

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข