ดูโลก ดูธรรม และดูใจ
โดย ดร.พระมหาจรรยา สุทธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา
หน้าตาของบุญบาปเป็นอย่างไร





นับตั้งแต่ย่ำรุ่งวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 อันเป็นวันที่หัวหน้าคณะผู้รักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติได้ประกาศให้วัดพระธรรมกายเป็นเขตควบคุมของเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราวแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2557 แล้ว ข่าวคราวเรื่องพระภิกษุสงฆ์กลายเป็นข่าวกระแสหลักครองหน้าสื่อทุกชนิดมาจนถึงวันนี้(วันที่ 6 มีนาคม 2560)โดยไม่มีทีท่าว่าจะเงียบหายไปได้แต่ประการใด

  นอกจากผู้ติดตามข่าวจะติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวในวงการพระพุทธศาสนาและพระสงฆ์กันอย่างเกาะติดชนิดไม่กระพริบตาแล้วแล้ว ยังนำเอากรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจากข่าวนั้นมาเปรียบเทียบเพื่อศึกษาหลักการและเนื้อหาสาระต่างๆ อย่างน่าสนใจอีกด้วย ในการลงมือปฏิบัติการตามกฎหมายบางอย่างที่ทางราชการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ทำให้พุทธศาสนิกชนเห็นแล้วมักจะพูดกันว่า ทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ไม่ดีนะเป็นบาปนะ ต่างฝ่ายต่างโยนบาปใส่กันอย่างสะใจและดุเด็ดเผ็ดมันในอารมณ์ทั้งเผชิญหน้ากัน และใช้สื่อทางสังคมออนไลน์ใส่กันอย่างไม่ยั้ง

    จนกระทั่งวลีที่ว่า

“บาปนั้น หน้าตาเป็นอย่างไร” หลุดออกมาจากปากของคนไม่เล็กในบ้านเมือง ทำให้ใครๆ ได้ยินแล้วต้องอึ้งกันไปเป็นแถว บางรายก็กระอักกระอ่วน ไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไรดี เพราะตั้งแต่เกิดมาแต่อ้อนแต่ออก พ่อแม่ก็ห้ามมิให้ทำความชั่วให้กลัวบาป ก็เชื่อพ่อเชื่อแม่ไปตามกระแสสังคมชาวพุทธที่ยกย่องพ่อแม่ว่า เป็นบูรพาจารย์ของลูก ความเชื่อส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวันก็ได้มาจากพ่อแม่นั่นแหละ จะทำอะไรแปลกๆ หน่อยก็บอกว่า เป็นบาป ได้ยินแล้วคอยจำไว้

มีหลายอย่างมากมายที่ทำไม่ได้เพราะท่านว่า เป็นบาป เช่น เวลาโกรธใครสุดขีดตะโกนด่าแม่ใส่เต็มแรง ถ้าพ่อยู่ใกล้ๆ ก็เรียกมาตบปากสั่งสอนเสียก่อนแล้วบอกว่า คราวหลังอย่าด่าใครอีกมันบาปรู้ไหม เวลาแม่ให้ถือปิ่นโตอาหารที่มีกลิ่นหอมโชยไปถวายพระที่วัดก็สั่งนักสั่งหนาก่อนออกจากบ้านว่า อย่าได้กินอาหารก่อนพระนะ จะเป็นบาป รู้สึกบาปลงไปแอบอยู่ในอาหารที่แสนอร่อยอีกแล้ว ขืนชิมก่อนพระเดี๋ยวตัวบาปแผลงฤทธิ์อีก เวลาไปเที่ยวที่วัดพ่อแม่ก็กำชับอีก ผลไม้ในวัดไม่ว่าผลอะไรห้ามหยิบกินจะบาป ถ้าพระหยิบยื่นให้ไม่เป็นไร ตกลงว่า กระท้อน มะม่วงผลงามๆ ในวัดเป็นผลไม้แห่งความผิดบาปเกือบหมดทั้งวัดเลย ในวัดกว้างใหญ่มีไก่จำนวนหลายร้อยตัว ไข่เรี่ยราดหมากินสบาย แต่พ่อแม่ก็มีข้อห้ามตามไปอีก ห้ามเก็บไข่ไก่ในวัดไปต้มหรือทอดกินเด็ดขาดจะเป็นบาป เรานี้กลัวบาปไม่กล้าแตะไข่ไก่ ส่วนหมาไม่กลัวบาปเลยสบายหมาไป แม้หมาจะมีสิทธิ์พิเศษกินไข่ไก่วัดได้ไม่บาป แต่ไม่ปรารถนาเพื่อจะเกิดเป็นหมามารับสิทธิ์ยกเว้นบาป ถึงจะเกิดมาเป็นคนอดบ้างอิ่มบ้างก็ยังอยากเป็นคนอีกต่อไป ถ้ากำหนดเองได้ แต่ถ้าด้วยแรงกรรมอันใดที่ทำไปด้วยความพลั้งเผลอต้องไปเกิดเป็นหมาก็คงก้มหน้ารับผลแห่งกรรมอย่างไม่มีทางเลี่ยง แต่ชาตินี้เป็นคนแน่ๆ แล้วต้องใช้ชีวิตคนให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ ทำชีวิตให้ต่างจากหมาเข้าไว้

    ตั้งแต่เล็กจนโตได้ยินคำว่าบาปมานานแต่ยังไม่เคยคิดวิตถารว่า หน้าตาของบาปเป็นอย่างไรเพียงแต่กลัวบาปทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้าซะงั้น

    เมื่อได้ยินผู้ใฝ่รู้ตั้งคำถามว่า บาปนั้น หน้าตาเป็นอย่างไร ครั้งแรกที่ได้ยินก็งงไปครู่ใหญ่ คิดว่า เออ ถ้าใครมาถามถึงวัดจะตอบอย่างไรดีนะ

    ลองคิดดูแล้วเขียนออกมาเป็นสูตรว่า

หน้าหนา หน้าด้าน หน้าบูด หน้าบึ้ง หน้าเบ้ = หน้าบาป

หน้าบาง หน้าชื่น หน้าบาน = หน้าบุญ

บาป คือ ความเศร้าหมองใจ ที่แสดงออกมาผ่านใบหน้าผ่านทีท่า ผ่านวาจา เช่น ทำหน้าบึ้ง ทีท่าเกรี้ยวกราด วาจาก้าวร้าว เจอใคร ที่ไหน เมื่อไร แน่ใจได้เลยว่า คนคนนั้นกำลังแสดง ความบาปออกมาทางใบหน้าและท่าทาง ที่บ่งชี้ว่า ผลแห่งความผิดบาปกำลังสุกงอมเต็มที่และเอ่อล้นออกมาทางใบหน้าและท่าที

ส่วนว่า ใคร เมื่อไร ที่ไหน ใบหน้าชื่นบาน สดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส หรือ หัวเราะได้ไม่อมทุกข์อมโศกพึงทราบว่า นั่น คือ หน้าของบุญ

บุญ คือ ความอิ่มอกอิ่มใจ เป็นนามธรรมที่แสดงออกได้ทางใบหน้าและท่าทางที่สุขสดชื่นแจ่มใสเบิกบานใครพบใครเห็นใครได้เข้าใกล้ล้วนสบายใจ ซึ่งต่างจากหน้าตาของบาปที่มีแต่เกรี้ยวกราด โผงผาง หม่นหมองเศร้าสร้อยบูดบึ้งอมทุกข์ใครเข้าใกล้ได้คุยด้วยได้ทำงานด้วยต้องรู้สึกไม่สบายทั้งในเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุด

หน้าตาของบาปที่คนถามหาจึงเห็นได้โดยทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องรอพบกันในนรกให้เสียเวลาทำมาหากินหรือเพลิดเพลินกะชีวิต หน้าตาแห่งบาปจะพบได้จากคนทุกเพศทุกวัยจากใบหน้าทารกที่ไร้เดียงสา ใบหน้าผู้นำประเทศ ผู้นำโลกที่เรืองอำนาจ หรือ ใบหน้านักพรตผู้ขยันล้างบาปหรือบวชมาเพื่อเป็นนักฆ่าบาปโดยตรง เมื่อถูกอกุศลครอบงำใจล้วนสามารถเปลี่ยนหน้าตาอันหล่อเหลาคมคายให้กลายเป็นหน้าแห่งบาปได้ทั้งนั้น

    บทความชิ้นนี้ ไม่มีเนื้อหาทางวิชาการใดๆ มากวนใจท่านผู้อ่าน เพียงแต่อยากมาตอบปัญหาคนช่างถามที่ลอยมาตามลม เท่าที่พอจะมาผสมผสานกันได้

    สุดท้ายนี้อยากจะบอกกันแบบกัลยาณมิตรว่า จงติดตามข่าวทุกข่าวในวงการพระพุทธศาสนาด้วย“โยนิโสมนสิการ” อันถ่องแท้กลั่นกรองเรื่องราวต่างๆ ให้ได้ความจริงจับหลักไว้ไม่หลงประเด็น จะทำให้ข่าวทุกข่าวเสริมปัญญาได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเสพข่าวด้วยการรับรู้แล้วเชื่อเลยโดยไม่ต้องกลั่นกรองจะเป็นบาปไม่รู้ตัว เพราะข้อมูลเหล่านั้นมีสารพิษทางความคิดปนเปื้อนมาก พอเสพแล้วเกิดความตื่นเต้น เร้าใจ เศร้าหมอง จิตใจหวั่นไหว วุ่นวาย กระสับกระส่าย เพราะพายุแห่งความชอบชัง ฉุดรั้งลงวังวนแห่งโมหะเสพข่าวไป ปรุงแต่งไป ทุกข์ไป ทรมานไป ดั่งมีข่าวว่ามีคนฆ่าตัวตายกันไปบ้างแล้ว ขอให้เสพข่าวเพื่อรู้ข่าว มิใช่เป็นเครื่องเร้าอารมณ์ โดยใช้ “โยนิโสมนสิการ”ไตร่ตรองให้รอบคอบและรอบด้านเสมอ
   
ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขกับการติดตามข่าวสารจากทุกสื่อทุกวันทุกเวลา เทอญ


วันที่ 6 มีนาคม 2560 เวลา 15.15 น.
วัดพุทธธรรม เมืองวิลโลบรูค รัฐอิลลินอยส์
   

 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส
12-07-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 50 สุดทางสายบาลี (0/2808) 
06-07-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 49 ฝึกฝนตนที่วัดชลประทานรังสฤษฎ์ (0/650) 
28-06-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 48 สอบได้แต่แม่เสีย (0/615) 
20-06-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 47 สอบเปรียญธรรม 7 ประโยคได้ (0/683) 
07-06-2022 บันทึกไว้สมัยเรียนบาลี : ตอนที่ 46 กราบหลวงพ่อปัญญานันทะ (0/671) 

แสดงความคิดเห็น

Name :

Detail :




ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข