สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ได้เชิญนาย Brandon L. Menancio ผู้แทน U.S.Citizenship and Immigration Services (USCIS) มาบรรยายและตอบข้อซักถามเกี่ยวกับใบเขียวและสัญชาติสหรัฐฯ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560ณ สถานกงสุลใหญ่ฯ โดยมชุมชนไทยเข้าฟังกว่า ๘0คน สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
ประเด็นสำคัญที่คนไทยควรทราบและถือปฏิบัติ
1. ผู้ถือใบเขียวหรือผู้ที่ได้รับสัญชาติสหรัฐฯ แล้วสามารถเดินทางออกนอกสหรัฐได้ตามปกติ โดยผู้มีใบเขียวสามารถเดินทางออกนอกสหรัฐฯ ได้ไม่เกิน 1 ปี สำหรับผู้ที่ได้รับสัญชาติสหรัฐฯ แล้วสามารถเดินทางออกนอกสหรัฐฯ ได้ไม่จำกัดระยะเวลา ถ้าเกิน 1 ปี ต้องขออนุญาตตามแบบฟอร์ม I-131 และถ้าเกิน 2 ปี ต้องขอวีซ่า SB-1 ที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ
2. เมื่ออยู่ระหว่างกระบวนการต่ออายุใบเขียว แต่ยังไม่ได้รับบัตรใบใหม่และมีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกสหรัฐฯ ควรติดต่อ USCIS เพื่อขอ I-551 STAMP ในหนังสือเดินทาง เพื่อเป็นหลักฐานว่ามีถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐฯ หากไม่มีหลักฐานดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ อาจปฏิเสธการเดินทางกลับเข้าสหรัฐฯ ได้
3. ผู้ประกอบการในสหรัฐสามารถนำลูกจ้างชาวต่างชาติเข้ามาทำงานและขอใบเขียวให้ลูกจ้างได้ โดยนายจ้างต้องยื่นใบสมัคร Application for Permanent Labor Certification และได้รับการอนุมัติจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ก่อน และยื่นแบบฟอร์ม I-140 ต่อหน่วยงาน USCIS โดยลูกจ้างต้องมีทักษะพิเศษในสาขาวิชาชีพ อาทิ วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ อาจารย์ นักวิจัย ฯลฯ ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.uscis.gov
4. การพำนักเกินกำหนด (over stay) ไม่ว่าจะระยะเวลาเท่าใดถือเป็นความผิด อย่างไรก็ตามหากผู้ที่พำนักเกินกำหนดเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมาย มีเอกสาร I-94 จะยังมีสิทธิในการยื่นขอใบเขียวได้หากมีคุณสมบัติครบถ้วนและมีบุคคลในครอบครัว/คู่สมรสที่มีใบเขียวหรือมีสัญชาติสหรัฐฯ เป็นผู้ยื่นคำร้องให้
5. ผู้ถือสองสัญชาติควรเดินทางเข้า-ออกสหรัฐฯ ด้วยหนังสือเดินทางสหรัฐ เนื่องจากการได้รับสัญชาติสหรัฐฯ หมายถึงบุคคลผู้นั้นเป็นพลเมืองสหรัฐฯ แล้ว (จึงควรปฏิบัติตนในฐานะที่เป็นพลเมืองสหรัฐฯ ในทุกกรณี และไม่แสดงตนว่าเป็นบุคคลสัญชาติอื่น)
6. เหยื่อจากคดีความรุนแรงในครอบครัว (Domestic Violence) ยังสามารถยื่นคำร้องขอใบเขียวได้แม้จะหย่าร้างจากคู่สมรสสัญชาติสหรัฐฯ แล้ว โดยสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.uscis.gov
7. คนไทยหรือผู้เข้าเมือง (immigrants) ไม่ควรเชื่อถือข้อมูลหรือข่าวลือในโซเชียลมีเดีย ขอให้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมและข้อมูลเพื่อป้องกันการถูกล่อลวงจากมิจฉาชีพได้ที่ www.uscis.gov, www.whitehouse.gov, www.uscis.gov/avoidscams
การขอใบเขียวและสัญชาติสหรัฐฯ
1. ผู้ขอมีถิ่นที่พำนักถาวรในสหรัฐฯ (ใบเขียว) จะต้องมีคุณสมบัติตามข้อกำหนด โดยต้องเป็นบุคคลในครอบครัวของผู้ถือสัญชาติสหรัฐ และเป็นผู้เดินทางเข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือเป็นผู้เดินทางเข้าสหรัฐฯ อย่างถูกต้องภายใต้กฎหมาย Provision of the Legal Immigration Family Equity Act (LIFE Act) มาตรา 245 (i) ซึ่งได้ยื่นคำร้องก่อนวันที่ 30เมษายน 2544
2 สิทธิประโยชน์ของการได้ใบเขียวและการถือสัญชาติสหรัฐฯ
2. 1 สิทธิประโยชน์ของใบเขียว อาทิ
- ผู้มีใบเขียวสามารถอาศัยและประกอบอาชีพในสหรัฐฯ ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีสิทธิในการเดินทางออกนอกสหรัฐฯ ได้แต่ไม่เกิน 1 ปี ถ้าเกิน 1 ปี ต้องมีแบบฟอร์ม I-131 ถ้าเกิน 2 ปี ต้องขอวีซ่า
SB-1 ที่สถานเอกอัครราชทูต/ สถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ
- ผู้มีใบเขียวสามารถยื่นคำร้องขอใบเขียวให้แก่คู่สมรส บุตรที่อายุไม่เกิน 2 1 ปี และยังไม่ได้สมรสได้
2.2 สิทธิประโยชน์ของผู้ได้รับสัญชาติสหรัฐฯ (US Citizen) อาทิ
- บุคคลที่ได้สัญชาติสหรัฐฯ แล้วสามารถเดินทางออกนอกสหรัฐฯ ได้ระยะเวลาไม่จำกัด
- สามารถยื่นคำร้องขอใบเขียวให้แก่ครอบครัวเช่นเดียวกับผู้ถือใบเขียว รวมถึงพ่อ-แม่ บุตรที่แต่งงานแล้ว หรือยังไม่แต่งงาน และพี่-น้อง ที่เกิดจากพ่อ-แม่เดียวกัน
- มีสิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งและลงสมัครรับเลือกตั้ง
- ปฏิบัติหน้าที่ในคณะลูกขุน
- ทำงานในหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯ
3 ผู้ที่ได้รับใบเขียวและบุคคลที่ได้สัญชาติสหรัฐฯ สามารถยื่นคำร้องขอวีซ่า (Family Sponsored Visa) ให้แก่สมาชิกในครอบครัวที่เป็นคู่สมรส บุตรที่เป็นผู้เยาว์และพ่อแม่ (ประเภท F1 F2A F3 และ F4)
4. ขั้นตอนในการขอสัญชาติสหรัฐฯ (แบบฟอร์ม N-400) ใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ซึ่งเริ่มจากการตรวจสอบคุณสมบัติขั้นพื้นฐาน การยื่นใบสมัคร การสัมภาษณ์ และการเข้าพิธีสาบานตน ในกรณีที่สอบครั้งแรกไม่ผ่าน ผู้ร้องสามารถขอสอบใหม่ได้ 1 ครั้ง ภายในระยะเวลา 60วัน และสำหรับผู้ป่วย (Disability Exceptions) ที่มีข้อจำกัดไม่สามารถเรียนวิชาที่เป็นข้อกำหนดในการสอบได้ จะต้องมีใบรับรองแพทย์ตามแบบฟอร์ม N-648.