อันเนื่องมาจาก “ศิลปินชานกรุง” กำลังจะมีงานกุศล “เริงลีลาศกับชานกรุง” ครั้งที่ 2 ในวันเสาร์ที่ 11 มีนาคมนี้ ที่ Arcadia Community Center 365 Campus Drive, Arcadia, CA 91007 เพื่อหารายได้เข้าโครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อน” ซึ่งการทำงานของกลุ่ม “ศิลปินชานกรุง” ทั้งหมด ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิ “ธรรมจาริก” ดังได้เกริ่นไว้ในฉบับก่อน (ประจำวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา)
วิรังรอง ถาวโรทิพย์ “พีอาร์” ของกลุ่ม “ศิลปินชานกรุง” ได้ให้ข้อมูลพอสังเขปถึงที่มาที่ไปของความสัมพันธ์ ซึ่งได้รับความเมตตาจาก พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระเทพโกศล เจ้าอาวาสวัดศรีโสดา พระอารามหลวง ซึ่งท่านมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 7 ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมจาริกส่วนภูมิภาค องค์ดำริสร้างวัดไทย ศรีโสดา ซัน แวลเล่ย์ แห่ง นครลอส แอนเจลิส
ซึ่งพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระเทพโกศล ท่านมาให้การรองรับการทำงานของกลุ่มทำงาน “เพื่อนช่วยเพื่อน” ว่าเป็นไปอย่างโปร่งใส และสอดคล้องกับความมุ่งหวัง 3 ประการของมูลนิธิธรรมจาริก นั่นคือ การเผยแผ่พุทธศาสนา, การสังคมสงเคราะห์ แก่ชาวไทยในต่างประเทศ และการพัฒนางานวิชาการเพื่อการเผยแผ่และการพัฒนาจนเกิดเป็นโครงการพัฒนาวัดไทย ศรีโสดา ซัน แวลเล่ย์ และ มูลนิธิพระธรรมจาริก ลอส แอนเจลิส
“...ขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับมูลนิธิ “ธรรมจาริก” นี้นะคะ ซึ่งบางท่านอาจจะยังไม่เคยได้ยิน...มูลนิธินี้เป็นพระบรมราชินูปถัมภ์ ในพระบรมราชชนนี หรือ “สมเด็จย่า” ซึ่งมีอธิบดี กรม“พัฒนามนุษย์และสังคม” โดยตำแหน่งเป็นประธานของมูลนิธินี้ ซึ่งเราจะดำเนินการงานอะไรก็แล้วแต่ เราจะต้องรายงานสายตรงไปยังมูลนิธิ “ธรรมจาริก” นี้นะคะ
เมื่อมีพระสงฆ์ซึ่งท่านได้มาจำวัดอยู่ที่ วัด “ศรีโสดา” ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานของเพื่อนช่วยเพื่อน ท่านก็ได้มีการวิเคราะห์และสังเกตการณ์การทำงานของกลุ่ม “ศิลปินชานกรุง” และศึกษาข้อมูลต่างๆ จากปีที่ผ่านๆ มาที่พวกเราได้ทำการช่วยเหลือไปแล้ว ซึ่งเป็นเพื่อนคนไทยทั้งที่รู้จักและบางท่านก็ไม่รู้จักกัน ก็ช่วยกันทั้งงานบุญ งานศพ งานที่มีผู้เดือดร้อน บาดเจ็บ เบื้องต้น ที่เราพอจะมีทุนช่วยเหลือได้ ซึ่งทุนของพวกเราก็จะมาจากกองทุนของโครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อน” นี่แหละค่ะ...
...การหาเงินเข้ากองทุนของเราครั้งนี้ก็คืองานที่เรากำลังจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 11 มีนาคม งานเริ่มตั้งแต่เวลาหกโมงเย็น ถึงห้าทุ่มครึ่ง บัตรราคา 35 เหรียญทุกที่นั่ง อาหารเป็นแบบบัฟเฟ่ต์ค่ะ ในงานมีการร้อง เล่น เต้นรำ...ซึ่งเป็นช่วงของ “คีตะลีลา”...ขอเอ่ยถึงว่าทำไมเราถึงมี “คีตะลีลา” นะคะ
คือเราเริ่มต้นจากการมี “พ่อหลวง” เดียวกันเรามี “พ่อหลวง” ที่เหมือน “พ่อเรา” ซึ่งถึงแม้เราจะสูญเสียพระองค์ไปแล้ว แต่เราก็ยังมีพระราชาองค์ใหม่ชึ้นมา ซึ่งเราไม่ลืมที่จะแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ เป็นสิ่งที่เราจะต้องทำตลอดไป..เราจึงขออัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาในช่วงแรก เพื่อเป็นสิริมงคลของพวกเรา ส่วนช่วงที่สองนั้น...เนื่องจากพวกเราเกิดมาจากลูกทุ่ง เกิดมาจากศิลปินพื้นบ้าน...”
ลูกทุ่งหนุ่มใหญ่ ชายชาว (นคร) สวรรค์ นรินทร์ ประสานสุข หัวหน้ากลุ่ม “ศิลปินชานกรุง” ซึ่งเป็นนักร้องนำและเป็นอีกหนึ่งแกนหลักในช่วงเริ่มต้นของการดำริเริ่มโครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อน” กล่าวเสริมบรรยากาศของงาน “เริงลีลาศกับชานกรุง” ครั้งที่ 2 ว่า
“...ครับ เราจะไม่ลืมถิ่นกำเนิดที่เราเกิดจาก “ลูกทุ่งชานกรุง” พอเรามารวมกันก็ตัดคำว่า “ลูกทุ่ง” ออกไปกลายเป็น “ศิลปินชานกรุง” แต่ยังไงใจเราก็ยังเป็นลูกทุ่ง เพราะงั้นช่วงที่สองในงานของเราจึงเป็นช่วงโชว์วัฒนธรรมพื้นบ้าน เช่น การเปิดวงรำวงย้อนยุค ซึ่งเป็นหัวใจของการได้เกิดมาเป็นศิลปินพื้นบ้านของ “ชานกรุง”...
...พร้อมทั้งการโชว์ของกลุ่มเพื่อน “สาว สาว สาว” ชาว “ชานกรุง” จัดช่วงนี้ให้เป็น “คีตะลีลา” ซึ่งจะเป็นช่วงที่ทำให้ผู้ร่วมงานตื่นตาตื่นใจพร้อมทั้งร่วมสนุกด้วยกันตามสไตล์ลูกทุ่งพื้นบ้าน...เราขอรับรองความสนุกสนานว่าจะมีเหมือนเดิม อาจมากกว่าเก่านะครับ เราจะไม่ยอมให้มีใครนั่งเหงา ทุกคนที่ไปจะต้องได้เต้นรำกันแบบชนิดที่ต้องร้องขอว่า “ขอพักก่อนได้มั้ย” เราพยายามจะทำให้เป็นแบบนั้น ทั้งลูกทุ่ง ลูกกรุง และลีลาศ...
...ผมขอชี้แจงเพิ่มเติมนะครับสำหรับบัตรราคา 35 เหรียญ ซึ่งเราจำเป็นจะต้องขึ้นราคามากขึ้นจากปีที่แล้ว เพราะอะไรต่ออะไรก็ขึ้นราคากันไป แต่เราพยายามจะยังราคาสามสิบห้าเหรียญไว้ให้สำหรับแขกทุกท่านที่ไปเที่ยว เพื่อไม่ให้เป็นการหนักใจมากนัก...
และสำหรับอาหารในงานผมขอรับรองว่าครั้งนี้เราจะ “เทคแคร์” อย่างดี จะตรวจสอบเป็น “พิเศษ” และให้ความไว้วางใจกับร้านอาหารที่ถูกอนามัย สะอาด ไม่ให้มีความบกพร่อง อย่างครั้งที่แล้วเราต้องกราบขออภัยนะครับ แต่ปีนี้เราได้นำความบกพร่องนั้นมาปรับปรุงให้ดีเลิศคุ้มค่ากับบัตรราคา 35 เหรียญไว้แล้วครับ...”
วิรังรอง ถาวโรทิพย์ ไล่เรียงช่วงแห่งความบันเทิง พร้อมฝากชักชวนเพื่อนพ้องน้องพี่ ให้พากัน “แต่งตัวสวยหล่อตามสบาย และอย่าเสียดายสเปรย์ฉีดผม” เพราะงานนี้ จัดเพลงให้เต้นกันอย่างไม่บันยะบันยัง “กระบัง”ผมท่านอาจจะตกตอนดึก...เขาคึกคัก แซ่ปซี้ด...ต้องฉีดกันแบบ “กระหน่ำ” นะค้า
“...ช่วงที่สาม เป็นช่วง “คีตะลีลาศ” นะคะ ต้องขอเรียนเชิญบรรดาเท้าไฟลีลาศกันแบบไม่หยุดเลยนะคะ ผู้ที่มาร่วมงานจะได้โชว์ลวดลายการลีลาศให้สุดหรรษา ทั้งจังหวะบอลลูน, ลาติน, ดิสโก้ และรำวง...
...สรุป วัตถุประสงค์การจัดงานแบ่งเป็นสองกอง กองที่หนึ่งจะผลักเข้าโครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อน” ตามปณิธานของผู้ก่อตั้ง ส่วนอีกกองหนึ่งเราจะผลักเข้ากองทุนการกุศลต่างๆ ของมูลนิธิ “ธรรมจาริก” ซึ่งเป็นความภูมิใจของพวกเราชาว “ชานกรุง” นะคะ
...ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหลายเราจะมีการลงบัญชีและมีนักบัญชีเข้ามาดูแลอย่างไม่ให้บกพร่อง เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครั้งเราทำ “ด้วยใจ” อย่างเดียว ไม่ได้เฉลียวว่าจะมีใครมาเคลือบแคลงสงสัย ปีนี้เราได้ทำทุกอย่างอย่างรัดกุม โดยมีการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิในการทำบัญชีส่งไปที่กองบัญชีของวัด “ศรีโสดา" ซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์และเป็นกองบัญชาการแม่ของสำนักงาน “เพื่อนช่วยเพื่อน” ของเราอยู่...”
ถึงแม้จะมี “ตำรวจสังคม” ที่ไม่มีกรมกองเป็นที่ทาง แต่มี “กองบัญชาการ” อยู่ทั่วไป คอยใช้สายตาสอดส่ายจับผิดผู้อื่น และสายตานั้นได้ “เพ่งเล็ง” มายังกลุ่มทำงานเพื่อ “เพื่อนช่วยเพื่อน” นั้นด้วย วิรังรอง ถาวโรทิพย์ เคย “เสียใจ” แต่ไม่เสีย“กำลังใจ” จึงมีการดำเนินงานกันต่อ และมีการทำงานที่รัดกุมขึ้น
“...เราพร้อมที่จะช่วยเพื่อนคนไทยตามปณิธานเดิมที่เราตั้งไว้ ของการเดินตาม“รอยเท้าพ่อ” และ พระเดชพระคุณพระเทพโกศล ท่านเป็นคนที่ให้โอวาทและให้กำลังใจกับพวกเราในการทำงานต่อ...”
สำหรับ “หลักธรรม” ที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณโกศลได้เมตตาแสดงไว้ให้บุคคลทั้งหลายพึงจดจำนั้น คือ
“...การที่จะตัดสินใคร ตัดสินอะไรว่าดีหรือไม่ดี ได้หรือไม่ได้ ผ่านหรือไม่ผ่าน ต้องอยู่ใกล้กัน แล้วก็อยู่กันนานๆ จึงจะเห็นส่วนจริงของของแต่ละคน...”
“เริงลีลาศกับชานกรุง” ครั้งที่ 2 งานเริ่ม 6 โมงเย็น-ห้าทุ่มครึ่ง บัตรราคา 35 เหรียญ ทุกที่นั่ง จองวันนี้ที่ อ้อย 818-770-8033, จ๊อด 818-310-1501, แป๊ว 818-400-2548 และ ป๋อม 818-255-0225, อาหาร “บั๊ฟเฟ่ต์”, มีดอกไม้ พวงมาลัย จำหน่ายในงาน เงินรายได้ร่วมบุญมูลนิธิ “ธรรมจาริก” และนำไปคลี่คลายความทุกข์เบื้องต้นให้ผู้ตกทุกข์เจ็บไข้ ได้รับความลำบากในชีวิตตามนโยบายของโครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อน”
สนุก, อิ่มอร่อย...พาบุญกุศลกลับบ้าน...แบ่งปันความดีงาม...“บอกต่อ”ความอบอุ่นที่มี “เสียงเพลง”ขับกล่อมต่อจาก“เสียงธรรม” แห่งวัดไทยศรีโสดา ซัน แวลเล่ย์ ที่อีกไม่นานจะมีการ“เปิดตัว” ด้วยพิธีใหญ่อย่างสมเกียรติ ในนามเครือของ วัดศรีโสดา พระอารามหลวง ในพระราชูปถัมป์ของ “สมเด็จย่า”
อย่าลืมพาเพื่อนไป “ช่วยเพื่อน” แล้วภูมิใจกับการ “เดินตามรอยเท้าพ่อ” ไปพร้อมๆ กันนะ.