ข่าวคนไทยในอเมริกา
โฮมแลนด์สรุปตัวเลขจับกุม ‘โรบินฮูดติดคดี’เกือบ700คน





แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : โฮมแลนด์ฯ สรุปตัวเลขการจับกุมโรบินฮูดที่มีคดีอาญาติดตัว ตามปฏิบัติการที่กินเวลาห้าวันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สูงถึง 680 คน ยอมรับไม่ใช่ “ผู้ต้องหาคดีร้ายแรง” ทุกคน สถานกงสุลใหญ่ฯ ยืนยันไม่มีโรบินฮูดไทย ติดร่างแหการจับกุมครั้งนี้แต่อย่างใด


สำนักงานอิมมิเกรชั่น และศุลกากร (Immigrations and Customs Enforcement หรือ ICE) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดองกระทรวงความมั่นคงภายใน (โฮมแลนด์ซีเคียวริตี้) แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า ปฏิบัติพิเศษที่กินเวลาห้าวัน ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นการ “บุกจับกุม” หรือ raids และสร้างความตื่นตระหนกและปั่นป่วนอย่างรุนแรงในชุมชนของผู้อพยพทุกเชื้อชาตินั้น เป็นเพียงการบังคับใช้กฎหมายอิมมิเกรชั่นฉบับเดิม เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดก่อน คือเน้นไปที่เป้าหมายที่เป็นกลุ่มอาชญากร มีความผิดในข้อหาร้ายแรงเท่านั้น

ต่อมาเมื่อวันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ จอห์น เคลลี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโฮมแลนด์ ได้ออกแถลงการณ์อีกฉบับ โดยให้คำจำกัดความปฏิบัติการห้าวันดังกล่าวว่า “เป็นเพียงการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ”  โดยมีเป้าหมายที่บรรดาอาชญากร, สมาชิกแก๊ง, บุคคลที่ลอบเข้าประเทศอีกครั้งหลังจากถูกเนรเทศแล้ว หรือบุคคลที่ได้รับคำสั่งศาลให้เนรเทศแล้วแต่หลบหนีการเนรเทศ โดยระบุว่ามีผู้ถูกจับกุมทั่ประเทศประมาณ 680 คน

รัฐมนตรีกระทรวงโฮมแลนด์ บอกด้วยว่า การจับกุมผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายจำนวนมากครั้งนี้ เป็นผลงานของเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่น สำนักงานลอส แอนเจลิส, ชิคาโก้, แอทแลนต้า, ซานแอนโตนิโอ้ และนิวยอร์ค ซึ่งมีพื้นที่ดูแลคลุมไปถึงตอนใต้และมิดเวสท์ และว่าประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ของผู้ถูกจับกุมกว่า 680 คนดังกล่าว เป็นผู้อยู่แบบผิดกฎหมายที่มีประวัติอาชญารรม ทั้งคดีฆาตกรรม, การทำร้ายทางเพศ, การทำร้ายทางเพศกับผู้เยาว์, อนาจารต่อผู้เยาว์, ค้ายาเสพติด, ทำร้ายร่างกาย, เมาเหล้าขับรถ และคดีเกี่ยวกับอาวุธร้ายแรงต่างๆ อีก 25 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้ต้องหาคดีอาญาที่มีความรุนแรงลดหลั่นลงมา

ข่าวบอกว่าในบรรดาผู้ถูกจับกุมที่ไม่มีประวัติคดีอาญาร้ายแรงนั้น รวมถึงผู้ต้องหาในคดีขับรถโดยไม่มีใบขับขี่, หรือใช้หมายเลขประกันสังคม (Social Security Number) ปลอม ซึ่งเป็นเรื่องที่บรรดาผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายจำนวนมากจำเป็นต้องทำในการดำรงชีวิตประจำวัน

จอห์น เคลลี่ แถลงด้วยว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มีความชัดเจนมากกับภารกิจของกระทรวงโฮมแลนด์ ในการปกป้องประเทศชาติ และต้องการให้กระทรวงโฮมแลน์ เพ่งความสนใจกับจับกุมผู้ที่ละเมิดกฎหมายกฎหมายคนเข้าเมือง โดยจะเพ่งเล็งเป็นพิเศษกับกลุ่มคนที่เป็นอันตรายต่อสาธารณชน ถูกตั้งข้อหาคดีอาญาร้ายแรง หรือเคยถูกเนรเทศแล้วลักลอบกลับเข้ามาอีกครั้ง.

อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงดังกล่าวถูกแย้งโดยกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของผู้อพยพ รวมถึงนักการเมืองพรรคเดโมแครต ที่เป็นตัวแทนของประชาชนในพื้นที่ที่มีการบุกจับกุมว่า เป็นปฏิบัติการที่รุนแรงเกินกว่าที่เคยเกิดขึ้นในสมัยของประธานาธิบดีบารัก โอบาม่า ที่มีแนวทางชัดเจนว่าจะไม่จับกุมบุคคลที่ไม่ถือว่าเป็นอันตรายต่อสังคม อีกทั้งการจับกุมแบบเปิดเผย หรือ pulic arrest ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ยังสร้างความหวาดกลัวให้กับชุมชนในวงกว้างอีกด้วย

ในส่วนของปฏิบัติการจับกุมผู้อยู่แบบไม่ถูกต้อง และมีประวัติคดีอาญาในนครลอส แอนเจลิส ซึ่งเป็นเมืองที่มีชาวไทย ทั้งที่อยู่แบบถูกต้องและไม่ถูกต้องอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากนั้น หนังสือพิมพ์แอลเอไทมส์ รายงานข่าวเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ว่า มีการจับกุมมากถึง 161 คน โดยส่วนใหญ่ คือ 151 คนเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาร้ายแรง

โดยปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นแบบรุนแรงในช่วงดังกล่าว ทำให้เกิดความหวาดกลัวในชุมชนผู้อยพทุกเชื้อชาติ รวมถึงชุมชนไทยด้วย ซึ่งเรื่องนี้ นายธานี แสงรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ได้ออกมายืนยันว่าปฏิบัติการจับกุมผู้อยู่อย่างผิดกฎหมายดังกล่าวเป็นไปในลักษณะ targeted enforcement operation คือมีบุคคลเป้าหมายในการจับกุมชัดเจน โดยมุ่งเน้นจับกุมผู้ที่มีคดีอาชญากรรม และเป็นภัยต่อสาธารณะเท่านั้น จึงไม่น่าที่ชุมชนไทยจะต้องวิตกกังวลมากนัก

นอกจากนี้ กงสุลใหญ่ฯ ธานี แสงรัตน์ ยังระบุด้วยว่า ตนได้ตรวจสอบกับหน่วยงานอิมมิเกรชั่นในลอส แอนเจลิส เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เพื่อสอบถามว่ามีคนไทยถูกจับกุมจากปฏิบัติการครั้งนี้หรือไม่ ทำให้ทราบว่าไม่มีบุคคลสัญชาติไทยถูกจับกุมตัวแต่ประการใด

นอกจากนี้ ทางสถานกงสุลใหญ่ฯ ยังได้ประสานงานกับสำนักงานอิมมิเกรชั่น ในการจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายอิมมิเกรชั่น เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับชุมชนไทยด้วย โดยได้เชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอิมมิเกรชั่น มาบรรยายและตอบข้อซักถามของผู้สนใจที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส ระหว่างเวลา 15.00-17.00 น. ของวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ ศกนี้ด้วย โดยผู้สนใจจะเข้าร่วมการสัมมนาครั้งนี้ สามารถสำรองที่นั่งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 323-962-9574.




 




นำเสนอข่าวโดย : ภาณุพล รักแต่งาม,
แหล่งที่มาข่าวโดย : สยามทาวน์ยูเอส

แสดงความคิดเห็น

Name :
 
Detail :
 



ฉบับที่
597
siamtownus newspaper








Hots Clip VDO ดูทั้งหมด

ขออภัยสัญญาณ VDO มีปัญหากำลังดำเนินการแก้ไข