มิอาจประสบพบพักตร์ ใช่ว่าจักคิดหักใจ คิดถึงทุกวันไป แม้มีได้อยู่ใกล้กัน
ไม่ใกล้ก็เหมือนใกล้ เพราะดวงใจอันผูกพัน เหมือนเห็นกันทุกวัน
เราพบกันนั้นด้วยใจ ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
หลังจากการสิ้นพระชนม์ของ เสด็จในกรมฯ ผู้เป็นพระบิดา หม่อมเจ้าหญิงอุรวศี
ก็ถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับตำหนักใหญ่ ซึ่งเป็นที่อยู่ของ
หม่อมต่วน หม่อมใหญ่ของเสด็จพ่อ เพราะหม่อมต่วนเกลียดชัง หม่อมสลวย
หม่อมแม่ของอุรวศี ที่มาแย่งชิงความรักของเสด็จฯไปจากเธอ แม้ว่าเสด็จฯ จะมี
หม่อมเรี่ยม เป็นหม่อมอีกคน ก็ไม่ถูกชิงชังเท่าหม่อมสลวย
อุรวศีเป็นห่วงว่าห้องทรงพระอักษรของเสด็จพ่อจะไม่มีคนดูแลความสะอาด
จึงขัดคำสั่งของหม่อมต่วน แอบเข้าไปทำความสะอาดห้อง
แต่กลับพบว่าหม่อมต่วนให้คนมาเก็บหนังสือในห้องทั้งหมด ถวายแด่เสด็จเสนาบดี
โดยมี อนล เป็นคนที่มาขนย้ายหนังสือตามคำสั่ง
อนลเข้าใจว่าอุรวศีเป็นนางข้าหลวงในวัง จึงไม่ได้คำราชาศัพท์ด้วย
อุรวศีไม่ได้แก้ไขความเข้าใจผิดนั้น และขอหนังสือของเสด็จฯ
เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกไม่กี่เล่ม
อนลพยายามจะสานสัมพันธ์ต่อด้วยการชวนให้อุรวศีมาดูเครื่องเรือนที่ต้องการเก็บไว้
อุรวศีตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ไปที่ตำหนักใหญ่อีก
เมื่ออนลรู้ความจริงว่าอุรวศีเป็นถึงหม่อมเจ้าหญิง
จึงฝากจดหมายขอประทานอภัยมากับ จัน คนสนิทของอุรวศี อุรวศีรับจดหมายไว้
แต่ไม่คิดจะตอบเพราะจะไม่เหมาะสมหากถูกจับได้ว่าส่งจดหมายติดต่อกับชายหนุ่ม
หม่อมสลวยพาอุรวศีไปฝากไว้ที่ตำหนักของเสด็จพระองค์หญิงฯ
ซึ่งเป็นเสด็จป้าของอุรวศี โดยให้เหตุผลว่าจะมีคนงานมาก่อสร้างกำแพงวัง
กั้นระหว่างตำหนักใหญ่ของหม่อมต่วนกับเรือนที่เสด็จพ่อประทานให้หม่อมสลวยกับอุรวศี
อีกทั้งหม่อมสลวยเองก็จะไม่อยู่สักพัก จึงเกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่งามขึ้น
ในตำหนักของเสด็จป้า
อุรวศีต้องเผชิญหน้ากับพระธิดาของเสด็จพ่อกับหม่อมต่วนอีกสามองค์ คือ
หม่อมเจ้าหญิงติโลตตมา หม่อมเจ้าหญิงอทริกา และ หม่อมเจ้าหญิงอรุณวาสี
ในบรรดาเจ้าพี่หญิงทั้งสามท่านหญิงอรุณวาสีเป็นคนที่อุปนิสัยดีที่สุด
ส่วนท่านหญิงติโลตตมาและท่านหญิงอทริกานั้น
คอยจ้องแต่จะหาเรื่องอุรวศีอยู่เป็นประจำ
แต่อุรวศีก็เอาตัวรอดมาได้ด้วยพระเมตตาของเสด็จป้า
อุรวศีคอยให้หม่อมสลวยมารับออกไปจากตำหนัก แต่หม่อมสลวยก็หายไป
อุรวศีจึงขอประทานอนุญาตจากเสด็จป้ากลับไปเยี่ยมบ้าน และได้รู้ความจริงจาก
จางวางสม และ แสง ตากับยาย ว่าหม่อมแม่ของเธอแอบหนีแต่งงานใหม่กับเถ้าแก่
บุญทัน คนรักเก่าตั้งแต่ก่อนจะถวายตัว และอพยพไปอยู่ที่เมืองนครสวรรค์แล้ว
ส่วนอุรวศีก็จะให้อยู่กับเสด็จป้าฯ
เป็นการชั่วคราวเพื่อให้พ้นเงื้อมือของหม่อมต่วนจนกว่าหม่อมเจ้าวิสสุกรรม
พระเชษฐาของอุรวศีจะเสด็จกลับจากต่างประเทศมาอยู่ด้วยกัน
หม่อมต่วนเรียกให้อุรวศีไปพบที่ตำหนักใหญ่และดูถูกเหยียดหยามหม่อมสลวยที่ใฝ่ต่ำ
เป็นถึงหม่อม แต่กลับลงไปเกลือกลั้วกับสามัญชน อุรวศีเสียใจมาก
อนลมาพบอุรวศีกำลังร้องไห้ จึงพูดให้กำลังใจอุรวศี
ทำให้อุรวศีรู้สึกดีขึ้นมา กอุรวศีได้ยินว่าอนลกำลังจะไปราชการที่หัวเมือง
จึงแอบฝากจดหมายไปถึงหม่อมสลวย
ก่อนจะกลับไปอาศัยกับเสด็จป้าระหว่างรอจดหมายตอบกลับมา
หม่อมต่วนเอาเรื่องที่หม่อมสลวยแต่งงานใหม่ไปฟ้องเสด็จป้า
แต่เสด็จป้าไม่สนพระทัย ทำให้หม่อมต่วนโกรธแค้นมาก
คิดจะพาหม่อมเจ้าหญิงทั้งสามกลับวัง
แต่ท่านหญิงติโลตตมาเตือนว่าถ้าไม่มีใครอยู่คอยขวาง
อุรวศีจะประจบเอาสมบัติของเสด็จป้าไปหมด
หม่อมต่วนจึงอนุญาตให้ท่านหญิงติโลตตมากับท่านหญิงอทริกาอยู่ต่อไปได้
แต่ท่านหญิงอรุณวาสีต้องกลับวังเพราะเข้าข้างอุรวงศีมากเกินไป
หม่อมต่วนกำชับท่านหญิงทั้งสองให้หาทางกลั่นแกล้งอุรวศีจนอยู่ที่นั่นต่อไปไม่ได้
ท่านหญิงติโลตตมาและท่านหญิงอทริกาจึงสั่งห้ามนางช้าหลวงในตำหนักพูดจากับอุรวศี
ทำให้ทุกคอยหลบหน้าหลบตาอุรวศี อุรวศีรู้เข้า
ก็ตัดปัญหาด้วยการเข้าเฝ้าคอยถวายงานเสด็จป้าบ่อย ๆ
จะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับใคร ด้านอนล เมื่อไปถึงเมืองนครสวรรค์ ก็ได้พบกับ
ดวงแข บุตรีของ พระยาไกรเพชรรัตน์ และคุณหญิงไกรเพชรรัตน์
ซึ่งมีท่าทางสนใจเขาอย่างเห็นได้ชัด แต่อนลไม่ได้สนใจดวงแขเลย
เพราะชายหนุ่มมีใจให้อุรวศี แม้จะรู้ดีว่าไม่มีหวัง
เพราะอุรวศีเป็นถึงหม่อมเจ้าหญิง
อนลสืบหาตัวบุญทันจากทนายหน้าหอของพระยาไกรเพชรรัตน์
และนำจดหมายจากอุรวศีไปมอบให้หม่อมสลวยด้วยตัวเองได้สำเร็จ
ขณะที่อุรวศีก็ถูกท่านหญิงทั้งสองแอบเข้ามาค้นห้อง
และพบจดหมายที่อนลเขียนเพลงยาวส่งมาให้ อุรวศีไทวงจดหมายคืน
ท่านหญิงทั้งสองกลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่กลับเอามาคืนให้ต่อหน้าเสด็จป้า
เพราะหวังจะให้เสด็จป้ากริ้วอุรวศี ทว่าเคราะห์ดีที่อุรวศีไปปรึกษา สร้อย
ช้าหลวงคนสนิทของเสด็จป้าก่อน เสด็จป้าทรงรู้ทัน
จึงไม่ทรงเอาพระทัยใส่ข้อหาที่ท่านหญิงทั้งสองใส่ร้าย
ทำให้ท่านหญิงติโลตตมาไม่พอพระทัยมาก คิดว่าเสด็จป้าเข้าข้างอุรวศีมากกว่า
ขณะที่เสด็จป้าก็ทรงเป็นห่วงอนาคตข้างหน้าของอุรวศี
จึงทรงฝากฝังให้สร้อยคอยดูแลอุรวศีหลังจากที่พระองค์มีอันเป็นไป
และให้สร้อยมองหาคู่ครองที่เหมาะสมกับชาติกำเนิดของอุรวศีให้ด้วย
ในงานฉลองเสกสมรสระหว่าง หม่อมเจ้าหญิงเมรา พระธิดาของหม่อมเรี่ยม กับ
หม่อมเจ้าอธิปพระโอรสของเสด็จในเกรมฯ อีกวังหนึ่ง อุรวศีและเพื่อน ๆ
นางข้าหลวงต่างก็ไปร่วมงานนี้กัน โดยมีสร้อยไปคอยควบคุมดูแล
อีกทั้งคอยสอดส่องหาชายหนุ่มเชื้อพระวงศ์ที่เหมาะสมคู่ควรกับอุรวศี
ในที่สุดสร้อยก็ตัดสินใจว่า หม่อมเจ้าสุรคม
พระอนุชาต่างมารดาของหม่อมเจ้าอธิป เป็นผู้ที่เหมาะสมกับอุรวศีที่สุด
หม่อมเจ้าสุรคมเองก็ดูเหมือนจะพอพระทัยในตัวอุรวศีเช่นกัน ในงานเดียวกัน
อนลถือจดหมายของหม่อมสลวยมาหาโอกาสมอบให้กับอุรวศี
อุรวศีขอร้องอนลไม่ให้มาพบเธออีก เพราะเรื่องที่เกิดคราวก่อน
เสด็จป้าเว้นโทษให้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
อนลผิดหวังที่ความรักระหว่างเธอกับเขา ช่างมีอุปสรรคมากเหลือเกิน
ที่บ้านของ พระยารัชปาลี บิดาของอนล มีผู้อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
คือ เกื้อ ผู้มีศักดิ์เป็นอาของอนล เกื้อขาพิการมาตั้งแต่เด็ก
ทำให้เขาอับอายที่ไม่เหมือนคนอื่น จึงมุมานะเรียนหนังสือจนเก่ง
เกื้อเป็นคนหัวก้าวหน้า สนใจระบอบการปกครองที่เอาอย่างมาจากฝรั่ง
และมองว่าระบอบการปกครองที่เป็นอยู่ จะทำให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าได้ยาก
ระหว่างที่อนลไปเยี่ยมเกื้อที่บ้าน ก็แอบได้ยินเกื้อ กับอนึก
พี่ชายของอนลที่เป็นทหาร
กำลังสมคบคิดกันวางแผนบางอย่างซึ่งอนลยังจับใจความไม่ได้ชัดเจน
จึงได้แต่เก็บความสงสัยไว้ ขณะเดียวกัน
ดวงแขกับคุณหญิงไกรเพชรรัตน์มาพักที่บ้านองพระยารัชปาลีโดยอ้างว่าเพื่อรักษาตัว
คุณหญิงรัชปาลีเองก็เห็นดีเห็นงามด้วย เพราะต้องการจับคู่ดวงแขกับอนล
ดวงแขพยายามเอาตัวมาใกล้ชิดอนล
แต่อนลก็ไม่ได้มีท่าทีชอบพอตอบกลับหม่อมเอื้อน หม่อมแม่ของท่านชายสุรคม
คิดจะทาบทามอุรวศีให้กับท่านชายสุรคม เมื่อหม่อมต่วนรู้เข้าก็เกิดความริษยา
ไม่อยากให้อุรวศีได้ดีไปกว่าลูก ๆ ของตน
จึงเล่าเรื่องที่หม่อมสลวยหนีไปแต่งงานใหม่ให้หม่อมเอื้อนฟัง
และเสนอว่าหากท่านชายสุรคมเสกสมรสกับท่านหญิงอรุณวาสี
จะแถมทรัพย์สินเงินทองให้ท่านชายสุรคมไปด้วย
หม่อมเอื้อนลังเลเพราะเห็นแก่ทรัพย์สมบัติที่จะได้จากหม่อมต่วน
เมื่อเรื่องนี้รู้ถึงหูเสด็จป้า ก็ทรงกริ้วมาก
เพราะทรงหมายมั่นปั้นมือว่าจะให้ท่านชายสุรคมเสกสมรสกับอุรวศี
ด้านคุณหญิงรัชปาลีเห็นว่าอนลไม่กระตือรือร้นเรื่องดวงแข
จึงแอบไปตกลงกับคุณหญิงไกรเพชรรัตน์และรวบรัดหมั้นหมายอนลไว้กับดวงแขโดยที่อนลปฏิเสธไม่ได้
ขณะเดียวกัน
อนลก็สังเกตเห็นความผิดปกติของอนึกกับเกื้อที่มักจะออกไปด้วยกันตอนกลางคืนบ่อย
ๆ ชายหนุ่มพยายามเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามเกื้อ
ทว่าก็ได้แต่อารมณ์เสียหงุดหงิดใส่
ทำให้อนลคิดจะหาคำตอบให้ได้ว่าอนึกกับเกื้อกำลังทำอะไรกันอยู่
เสด็จป้าประชวรหนักและทรงรู้พระองค์ดีว่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน
เสด็จป้ารับสั่งกับคุณสร้อยให้ตามท่านหญิงทั้งหมดเข้าเฝ้า
หม่อมต่วนจึงรีบนำท่านหญิงทั้งสามมาเข้าเฝ้าเพราะไม่อยากให้อุรวศีได้สมบัติจากเสด็จป้าไปคนเดียว
เสด็จป้าจึงทรงแบ่งทรัพย์สินที่มีให้แก่หลาน ๆ ทุกคน
อุรวศีได้ส่วนแบ่งจากเสด็จป้ามากที่สุด ทำให้หม่อมต่วนไม่พอใจเป็นอย่างมาก
หม่อมต่วนวางอุบายจะฮุบสร้อยพระศอที่เสด็จป้าประทานให้อุรวศี
แต่อุรวศีรู้ทัน เอาสร้อยพระศอคืนมาได้อย่างชาญฉลาด
ด้านเกื้อก็ทนเก็บความลับคับอกไว้ไม่ไหว
จึงมาสารภาพกับอนลว่าเขากับอนึกและนายทหารอีกหลายคน
กำลังวางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครอง อนลตกใจมาก
เพราะนั่นเท่ากับว่าเกื้อกับอนึกมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
อนลรีบไปเตือนเกื้อให้ถอนตัวออกมาจากขบวนการ
เกื้อขอร้องให้อนลไปตามตัวอนึกกลับบ้าน แต่ระหว่างนั้น
ข่าวเรื่องขบวนการดังกล่าวได้เล็ดรอดออกไป
และมีนายทหารบุกมาจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการดังกล่าว
อนลโชคร้ายที่อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงพลอยติดร่างแหไปด้วย
ขณะที่อนึกหนีเอาตัวรอดไปได้อย่างหวุดหวิด
ระหว่างการสอบปากคำ
อนลไม่ยอมพูดอะไรเลยเพราะไม่อยากให้เกื้อกับอนึกได้รับโทษ
แต่นั่นกลับทำให้พระยารัชปาลีโกรธจัด เพราะคิดว่าอนลมีส่วนเกี่ยวข้องจริง ๆ
พระยารัชปาลีจึงประกาศตัดพ่อตัดลูกกับอนล เกื้อร้อนใจมากที่อนลถูกจับตัว
จึงไปปรึกษากับอนึก
อนึกได้แต่บ่ายเบี่ยงเพราะกลัวความผิดและคิดจะหาทางหลบหนีออกจากพระนครสักพักดวงแขมาโวยวายกับพระรัชปาลีและคุณหญิงรัชปาลีเรื่องที่อนลถูกจับกุมตัวไป
ทั้ง ๆ ที่อีกไม่กี่วันจะถึงงานหมั้น อนึกสบโอกาส
จึงขันอาสาเป็นเจ้าบ่าวให้ดวงแขเสียเอง
จะได้มีข้ออ้างที่จะหลบหนีไปที่หัวเมืองสักพัก
ดวงแขยินยอมเปลี่ยนตัวเจ้าบ่าวเพราะไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นหม้ายขันหมาก
เกื้อเริ่มรู้สึกไม่ยุติธรรมที่อนลจะต้องรับผิดแทนเขากับอนึก
จนกระทั่งถึงวันงานแต่งงานของอนึกกับดวงแข
เกื้อจึงบุกเข้าไปประกาศความจริงกลางงานว่าเขากับอนึกเป็นผู้ร่วมขบวนการ
ไม่ใช่อนล อนึกโกรธจัด ลงมือทำร้ายร่างกายเกื้อ
พระยารัชปาลีจึงมั่นใจว่าอนึกทำผิดจริง อนึกสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป
จึงเขียนจดหมายสารภาพความจริงและยิงตัวตายเพื่อชดใช้ความผิดที่ก่อขึ้น
อนลได้รับการปล่อยตัวเนื่องจากไม่มีส่วนรู้เห็นกับแผนการ
แต่อนลก็สลดใจมากที่อนึกต้องมาเสียชีวิต
และเกื้อก็ต้องถูกลงโทษด้วยการคุมชัง
หลังการสิ้นพระชนม์ของเสด็จป้า ตำหนักของเสด็จป้าก็ถูกปิดลง
นางช้าหลวงในตำหนักต่างก็แยกย้ายกันไปตามทาง
อุรวศีจึงต้องกลับมาอยู่ที่เรือนปั้นหยาที่เสด็จพ่อประทานให้ระหว่างรอให้ท่านชายวิสสุกรรมเสด็จกลับจากต่างประเทศ
โดยมีสร้อยตามมาดูแลตามที่ได้รับปากกับเสด็จป้าไว้
ด้านอนลก็ผ่านมาที่เรือนของอุรวศีด้วยความบังเอิญและได้พบกับอุรวศีอีก
ทั้งคู่ต่างแบ่งปันความทุกข์ที่มีให้กัน
ทำให้ยิ่งรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้นเจ้าพี่หญิงทั้งสามเสด็จมาที่เรือนของอุรวศีเพื่อต่อว่าเรื่องที่ท่านชายสุรคมจะถอนหมั้นกับท่านหญิงอรุณวาสี
เพื่อไปเสกสมรสกับอุรวศี อุรวศีจึงต้องไปพูดกับท่านชายสุรคมด้วยตัวเอง
แต่ท่านชายสุรคมไม่ทรงฟัง และทรงยืนยันว่าจะรอจนกว่าอุรวศีจะเปลี่ยนพระทัย
ขณะเดียวกัน
อุรวศีก็ได้รับจดหมายจากท่านชายวิสสุกรรมว่ากำลังจะกลับมาถึงประเทศไทย
ทว่าเมื่อถึงวันกลับ กลับมีแต่ หม่อมเจ้าอรชุน พระโอรสองค์โตของหม่อมต่วน
เสด็จกลับมาเพียงผู้เดียว เมื่อสอบถามก็ได้ความว่า ท่านชายวิสสุกรรม
สิ้นชีพิตักชัยด้วยโรคท้องร่วงระหว่างทาง
อุรวศีสะเทือนพระทัยมากเพราะเท่ากับไม่เหลือใครเป็นที่พึ่งแล้ว
ถึงอย่างนั้นหม่อมต่วนก็ยังกลั่นแกล้งอุรวศีไม่ยอมเลิกราด้วยการไม่ยอมมอบพระอิฐิของท่านชายวิสสุกรรมให้อุรวศีไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
อนลช่วยอุรวศีด้วยการปล่อยข่าวลือว่ามีคนพบยมบาลมารับคนตายที่ยังไม่ได้ทำบุญตามประเพณี
หม่อมต่วนหวาดกลัวมาก
จึงรีบคืนพระอัฐิของท่านชายวิสสุกรรมให้กับอุรวศีทันที นางแสง ยายของอุรวศี
ล้มป่วยหนัก อุรวศีอาสามานอนเฝ้านางแสงโดยไม่บอกให้ใครรู้
นางแสงก็เสียชีวิตหลังจากที่เรือนปั้นหยาถูกไฟไหม้และรู้ว่าท่านชายวิสสุกรรมสิ้นชีพิตักชัย
ที่เรือนของอุรวศีก็เกิดเพลิงไหม้
สาเหตุของไฟเกิดจากการเผากิ่งไม้ใบไม้ที่หม่อมต่วนเป็นคนสั่งให้เผา
เอาไฟยังไม่ดับดี ก็เกิดลุกลามไปติดกับตัวเรียน
เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสามคน คือ คุณสร้อย ผิน (แม่ของจัน)
และบ่าวของคุณสร้อย
แต่คนภายนอกเข้าใจว่าหม่อมสลวยกับอุรวศีอยู่ในบ้านหลังนั้นและเสียชีวิตไปแล้ว
ทุกคนจึงปล่อยให้เข้าใจผิดไปแบบนั้น
เพราะหวาดกลัวว่าหากหม่อมต่วนรู้ว่าหม่อมสลวยและอุรวศียังไม่ตาย
ก็จะหาโอกาสทำร้ายกันอีกไม่มีที่สิ้นสุด
จางวางสมเสนอให้หม่อมสลวยกับอุรวศีหนีไปอยู่ที่นครสวรรค์กับบุญทันจะได้พ้นเงื้อมมือของหม่อมต่วน
ขณะที่หม่อมต่วนก็ล้มเจ็บหนักเนื่องจากความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกัดกินจิตใจ
ที่บ้านของอนล
คุณหญิงรัชปาลีที่ป่วยกระเสาะกระแสะหลังจากที่อนึกฆ่าตัวตาย
ไม่นานคุณหญิงรัชปาลีก็เสียชีวิตลงเช่นกัน
อนลได้ข่าวจากเกื้อว่าอุรวศีสิ้นเพราะชมม์ในกองไฟพร้อมหม่อมสลวย
ก็ยิ่งสะเทือนใจมาก
ดวงแขกับบิดมารดามาร่วมงานศพของคุณหญิงรัชปาลีเพราะหวังจะกลับมาสานสัมพันธ์กับอนลอีกครั้ง
อนลตัดสินใจออกจากพระนคร
ไปรับตำแหน่งอักษรเลขที่เมืองนครสวรรค์ตามคำชักชวนของพระยาไกรเพชรรัตน์
ดวงแขพยายามเข้ามาใกล้ชิดกับอนลมากขึ้น
เพราะคิดว่าอนลอาจจะมีเยื่อใยอยู่บ้างจากตอนที่เคยเป็นคู่หมั้นกัน
แต่อนลก็ไม่เคยเปิดใจให้ดวงแขเลยสักครั้งด้านอุรวศีหลบหนีหม่อมต่วนไปอาศัยอยู่ในเรือนแพที่เมืองนครสวรรค์
และเปลี่ยนชื่อเป็นอุษา โดยมีจัน กับ ผ่อง พี่สาวของสลวยติดตามไปด้วย
ผ่องมีฝีมือด้านการทำอาหาร จึงทำขนมจีนน้ำยาขายที่หน้าแพ
ทำให้อุรวศีต้องออกมาช่วยงานบ่อย ๆ ถึก กับ คล้อง
บ่าวชายของอนลแวะมาซื้อขนมจีนน้ำยาไปให้จึง จึงหว่านล้อมให้อนลกินขนมจีน
ระหว่างที่อุรวศีกับจันพากันไปเก็บผักเพื่อจะมาขาย
ก็เกิดอุบัติเหตุเรือชนเข้ากับเรือของอนลเข้า
อนลเห็นหน้าอุรวศีก็จำได้ทันที
อุรวศีกับจันรีบกลับเรือนแพเพราะกลัวความแตกผ่อง
หม่อมสลวยและบุญทันช่วยกันโกหกเอาตัวรอด แต่อนลก็ไม่เชื่อ
จึงสั่งให้ถึกกับคล้องคอยจับตาดูเวลาที่ผ่องกับจันออกจากบ้านไป
เมื่อสบโอกาส ก็เข้าไปในเรือนแพเพื่อจับผิดให้อุรวศีปฏิเสธไม่ได้
อนลยินดีมากที่รู้ว่าอุรวศียังไม่ตาย
และตั้งปณิธานว่าขอติดตามอุรวศีไปตลอดชีวิตดวงแขวางแผนรวบรัดอนลให้แต่งงานด้วย
ด้วยการเข้าไปในเรือนที่อนลพักอยู่ยามวิกาล อนลเห็นทำไม่ดี
จึงหลบไปอีกห้องก่อน
เมื่อคุณหญิงไกรเพชรรัตน์เข้ามาตามที่ตกลงกันไว้กับดวงแข
จึงเอาผิดอนลไม่ได้ แต่คุณหญิงก็ยังยืนยันให้อนลรับผิดชอบ
อนลจึงขอลาออกจากตำแหน่งอักษรเลข
เมื่อพระยาไกรเพชรรัตนรู้เข้าก็ไม่พอใจคุณหญิงกับดวงแขมากที่สิ้นคิด
ใช้วิธีต่ำช้าเพื่อมัดมือชกอนลให้เป็นลูกเขย
พระยาไกรเพชรรัตน์ไปขอร้องอนลไม่ให้ลาออก
แต่จะฝากฝังให้ไปทำงานกับเจ้าเมืองอุทัยธานีแทน
จางวางสมส่งข่าวว่าหม่อมต่วนตายแล้ว
ที่ตำหนักใหญ่ก็กำลังวุ่นวายเรื่องแบ่งสมบัติกัน
อนลถามอุรวศีว่าอุรวศีคิดจะกลับพระนครหรือไม่
อุรวศีไม่เห็นประโยชน์ที่จะกลับไป ในเมื่อตอนนี้ก็มีความสุขดี
อนลบอกข่าวเรื่องที่เขากำลังจะย้ายไปเป็นอักษรเลขที่เมืองอุทัยธานี
จึงจะขอแต่งงานกับอุรวศีก่อน หม่อมสลวยยกให้เป็นการตัดสินใจของอุรวศี
อุรวศีตอบตกลง ทั้งคู่จึงพากันย้ายไปอยู่ที่อุทัยธานี ช่วยกันทำมาหากิน
ครองรักกันอย่างมีความสุขโดยไม่มีช่องว่างระหว่างชนชั้นมาเป็นอุปสรรคอีกต่อไป
ติดตามชมละคร เพชรกลางไฟ ได้เร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
(เครดิตจาก MThai)