เมื่อวันพุธที่ 8 มกราคม 2014 ระหว่างเวลา 13.30 น.-16.00 น. สภาหอการค้าไทยอเมริกันแห่งแคลิฟอร์เนีย ได้จัดสัมมนาให้ความรู้้กับสมาชิกและประชาชนทั่วไปในเรื่องเกี่ยวกับ “การซื้อประกันภัยสำหรับธุรกิจสปาและนวด” และ "ประกันสุขภาพฉบับ โอบาม่าแคร์" ณ ห้องประชุมอาคารฮอลลีวิว ในไทยทาวน์ โดยได้รับความร่วมมือจากวิทยากรทรงคุณวุฒิสองท่านมาบรรยาย
ท่านแรกคือ คุณชัญญา ภู่เกษมสมบัติ จาก Farmers Insurance บรรยายเรื่อง "ประกันภัยสำหรับธุรกิจสปาและนวด" และท่านที่สอง คือคุณจีน่า ปรีชา จาก SK Insurance Services บรรยายเรื่อง “โอบาม่าแคร์”
สภาหอการค้าไทยฯ เห็นว่าเนื้อหาสาระของการสัมมนาในวันดังกล่าว มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการร้านสปาและนวดแผนไทย รวมถึงประชาชนในรัฐแคลิฟอร์เนียทั่วไป จึงได้ทำการสรุปย่อสาระของการสัมมนาในวันนั้นมานำเสนออีกครั้ง... ดังนี้...
....
ประกันภัยสำหรับผู้ที่จะเปิดธุรกิจสปา และนวด
1. ประกันภัยร้าน
ประกันภัยร้านจะให้ความคุ้มครองในหลายๆ ด้านที่สำคัญ ดังนี้
-Liability จะให้ความคุ้มครองในกรณีที่มีลูกค้ามาหกล้มหรือได้รับบาดเจ็บในร้าน หรือมีการถูกฟ้องร้อง (แล้วแต่กรณี)
-Personal Property (ทรัพย์สินในร้าน) จะให้ความคุ้มครองในกรณีถูกไฟไหม้, ถูกปล้น, พนักงานขโมยและอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทางบริษัทจะจ่ายให้สูงสุดถึงจำนวนที่ได้แจ้งไว้
-Loss of Income (การสูญเสียรายได้) จะให้ความคุ้มครองการสูญเสียรายได้จากการที่ร้านไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติ อย่างเช่น เหตุไฟไหม้ โดยจะให้ความคุ้มครองขณะที่สูญเสียรายได้ โดยจะจ่ายรายได้ก่อนค่าเช่า,ค่าแรงพนักงาน, ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จำเป็นต้องจ่ายในแต่ละเดือน เพื่อให้เจ้าของธุรกิจไม่รู้สึกว่าถูกกระทบกระเทือนรายได้จากเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย และสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจตามปกติได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากประกันภัยหลักๆดังกล่าว ประกันภัยร้านยังมีความคุ้มครองเพิ่มเติมในอีกหลายๆด้าน อาทิเช่น EPLI (Employment Practices Liability Insurance) คุ้มครองการถูกฟ้องร้องจากพนักงานเนื่องจากการไล่ออกโดยเหตุผลที่ไม่สมควร หรือโดน Sexual Harassment (การล่วงละเมินทางเพศ) ในขณะทำงาน ซึ่งเป็นความคุ้มครองพิเศษที่นำเสนอโดยบริษัท Farmers Insurance เท่านั้น คุ้มครองการโดนสั่งปิดร้านจากท่อน้ำแตก ท่อน้ำตัน คุ้มครองกระจกแตก เป็นต้น และยังมีความคุ้มครองอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งทางเจ้าของธุรกิจสามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมให้เหมาะสมกับธุรกิจของแต่ละท่าน
ในส่วนของค่าเบี้ยประกันภัยของประกันภัยร้าน จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักๆ คือ จำนวนทรัพย์สินในร้าน พื้นที่ของร้าน ประวัติการเคลม
2. Workers Compensation
ประกันภัย Workers Compensation เป็นประกันภัยที่บังคับโดยกฎหมายแรงงาน สำหรับผู้จ้างงานที่มีพนักงานตั้งแต่หนึ่งคนเป็นต้นไป โดยจะให้ความคุ้มครองพนักงานในกรณีบาดเจ็บหรือเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการทำงาน ซึ่งค่าเบี้ยประกันภัยนั้น จะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินเดือนพนักงานแต่ละปี ซึ่งตอนทำประกันภัย ทางเจ้าของธุรกิจจะทำการประมาณยอดเงินเดือนของปีนั้นๆ เพื่อให้บริษัทประกันภัยคำนวนค่าเบี้ยประกัน หลังจากที่ครบระยะเวลาประกัน ซึ่งโดยทั่วๆ ไปจะอยู่ที่ 1 ปี ทางบริษัทประกันภัยจะส่งเอกสาร audit form ให้กับทางเจ้าของธุรกิจเพื่อขอจำนวนเงินเดือนที่เกิดขึ้นจริง และนำมาปรับค่าเบี้ยประกันให้เป็นจำนวนที่ถูกต้อง ซึ่งถ้าการประมาณเงินเดือนในตอนต้นสูงกว่ายอดที่เกิดขึ้นจริงก็จะได้รับเงินที่จ่ายเกินคืน แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าประมาณการต่ำกว่าความเป็นจริง บริษัทประกันภัยก็จะเรียกเก็บค่าเบี้ยประกันเพิ่ม
......
ประกันสุขภาพฉบับ โอบาม่าแคร์
ประกันสุขภาพฉบับโอบาม่าแคร์ คือ ประกันสุขภาพที่ต้องการช่วยเหลือให้ประชากรมีประกันคุ้มครอง โดยจ่ายค่าประกันต่อเดือนต่ำ ซึ่งรัฐบาลกลางได้ออกกฎหมายเรื่องประกันสุขภาพฉบับโอบาม่าแคร์ (Patient Protection and Affordable Care Act หรือ Federal Affordable Care Act) จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2014 โดยผ่านทางองค์กร Covered California (Covered California Health Insurance Marketplace) หรือที่เรียกว่าตลาดประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการซื้อประกันสุขภาพสำหรับผู้อาศัยในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยที่ตลาดประกันสุขภาพนี้ จะมีบริษัทประกันภัยรวมทั้งหมด 11 บริษัทขึ้นกับเขตพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่ ยกตัวอย่างเช่น ในเขตลอสแองเจลิส จะมี Health Net, Kaiser, Blue Shield, Anthem Blue Cross, L.A. Care, และ Molina Healthcare
ขั้นตอนของการสมัครซื้อประกันสุขภาพ
- ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นสำหรับใช้ในการเช็คว่าเราเข้าข่ายที่จะได้รับเงินช่วยเหลือหรือไม่ และจะต้องจ่ายค่าประกันเดือนละเท่าไหร่ คือ จำนวนสมาชิกในบ้าน (Household Members) จำนวนสมาชิกที่จะต้องการประกันสุขภาพ รายได้ของสมาชิกในบ้านทั้งหมด เงินเดือน ค่าแรง รวมถึงรายได้อื่นๆ, รหัสไปรษณีย์ ที่พักอาศัย และอายุของผู้สมัคร ข้อมูลเหล่านี้จะใช้เป็นพื้นฐานในการคำนวนว่า คุณจะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง
2. ยื่นใบสมัคร ซึ่งทำได้สี่วิธี คือ
- สมัครทางไปรษณีย์ ท่านสามารถกรอกใบสมัคร ซึ่งดาวน์โหลดได้จากทางเว็ปไซด์ของ Covered CA แล้วส่งทางไปรษณีย์
- สมัครทางโทรศัพท์ โดนติดต่อโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ของ Covered California ที่หมายเลข 1-800-300-1506
- สมัครทางทางเว็บไซต์ โดยเข้าไปที่ www.coveredca.com สำหรับคนที่อยู่รัฐแคลิฟอเนียร์
- สมัครผ่านเอเย่นต์ที่ได้รับการรับรองโดย Covered CA
- ผู้สมัครซื้อจะต้องเลือก Plan ประกันสุขภาพซึ่งจะมีให้เลือก 4 Plan คือ Bronze, Silver, Gold และ Platinum และเลือกเครือข่ายของบริษัทที่ต้องการจะทำประกันสุขภาพ ข้อแนะนำสำหรับการเลือก Plan นั้นให้สังเกตว่า Deductible เท่าไหร่ต่อปี, Cost-sharing กี่เปอร์เซ็นต์, Copay และ Annual Out-of-Pocket Maximum เท่าไหร่ ในกรณีที่ผู้สมัครไม่มั่นใจขั้นตอนการเลือกซื้อ ท่านสามารถปรึกษาได้ที่ www.CoveredCA.com โทร (800) 300-1506 หรือติดต่อสอบถามได้จากเจ้าหนาที่ให้ความรู้ซึ่งได้รับการรับรอง (Certified Educator, Enrollment Counselor และเอเย่นต์อินชัวรันซ์ที่ได้รับการรับรอง) เพื่อช่วยเหลือทบทวนรายละเอียดในการสมัครซื้อ รายละเอียดเบื้องต้นของแต่ละ Plan ฯลฯ
4. หลักฐานที่ต้องใช้ในการสมัครซื้อประกันสุขภาพ คือ
-หลักฐาน ID หรือ Driver License
-หลักฐานรายได้ Pay Check ย้อนหลัง 2 เดือน ใบแจ้งเสียภาษีปี 2012
-ใบแสดงสถาณภาพ เช่น ใบ Citizenship หรือ Green Card
-ระยะเวลาของการสมัครซื้อประกันสุขภาพ
ทั้งนี้ ท่านสามารถลงทะเบียนเพื่อซื้อประกันสุขภาพได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2014
โดยจะมีการแบ่งระยะเวลาออกเป็นสองช่วง คือถ้าท่านซื้อประกันก่อนวันที่ 15 มีนาคม และทางบริษัทประกันภัยได้เบี้ยประกันภายในวันที่ 27 ของเดือนนั้น ประกันสุขภาพจะเริ่มมีผลในวันที่ 1 ของเดือนถัดไป แต่ถ้าในกรณีซื้อประกันภัย หลังจากวันที่ 15 จะสามารถใช้ได้ในวันที่ 1 ของอีกสองเดือนถัดไป
ยกตัวอย่างเช่น ซื้อประกันภัยก่อนวันที่ 15 มกราคม 2014 สามารถใช้ได้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2014 แต่ถ้าซื้อหลังจากวันที่ 15 มกราคม 2014 สามารถใช้ได้ในวันที่ 1 มีนาคม 2014
ผู้ที่ต้องการสมัครซื้อประกันสุขภาพ ไม่ควรที่จะขาดประกันถึง 3 เดือน มิฉะนั้นผู้ที่ไม่มีประกันสุขภาพจะต้องชำระค่าปรับ 1 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ต่อปีต่อบุคคล หรือ 95 ดอลลาร์ขึ้นไป ในกรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 จะโดนปรับครึ่งหนึ่ง คือ 47.50 ดอลลาร์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ : สภาหอการค้าไทยอเมริกันแห่งแคลิฟอร์เนีย อีเมล์ info@thaicalchamber.org, โทร 626-571-8222 หรือติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook.com/thaicalchamber
ชัญญา ภู่เกษมสมบัติ หรือ “คุณโอ๋” แห่ง Farmers Insurance อีเมล์ csuzuki@farmersagent.com, หรือ โทร 323-988-3377
จีน่า ปรีชา หรือ “คุณปุ๊ก” แห่ง SK Insurance Services อีเมล์ ginapreecha@hotmail.com หรือ โทร 818-782-9999, 818-448-0314